เรามองว่าลูอิซ่าเป็นตัวละครที่มีความเป็นมนุษย์สูงมากเลยนะ การจะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือก้าวข้ามผ่านความรู้สึกเจ็บปวดจากการสูญเสียมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หนังสือเรื่องนี้มันทำให้เห็นว่ามันเป็นเรื่องยากแค่ไหนกว่าคนๆหนึ่งจะผ่านเรื่องราวเลวร้ายไปได้ หนำซ้ำยังมีตัวแปรอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย ทำให้เรื่องมันดีขึ้นหรือแย่ลงไปกว่าเดิมอีก กว่าลูอิซ่าจะมีความสุขจริงๆก็ปาไปครึ่งค่อนเรื่องแล้ว

เรายังคงชอบวิลล์มากกว่าคนรักใหม่ของลูอิซ่านะ อาจจะเป็นเพราะว่าวิลล์เป็นตัวละครที่มีเสน่ห์มากๆในสายตาของเรา แต่วิลล์เป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวจริงๆถ้าเทียบกับแซม พระเอกคนใหม่ที่ทำอะไรโดยคำนึงถึงความรู้สึกของลูอิซ่าเสมอ และถึงแม้ว่าชีวิตรักของนางเอกในเล่มแรกจะไม่สุขสมปรารถนา แต่ในเล่มนี้เราจะได้เห็นพัฒนาการของของนางเอกที่เติบโตขึ้นไม่มากก็น้อยจริงๆ กว่าจะเธอเรียนรู้ เติบโตและเข้าใจว่าการก้าวต่อไปโดยไม่จำเป็นต้องลืม ไม่จำเป็นต้องรักวิลล์ให้น้อยลงและก้าวต่อไปพร้อมกับความทรงจำดีๆที่เคยมีร่วมกันมันทำให้เธอมีความสุขขึ้นแม้ว่าชีิวิตจะไม่เรียบง่ายและไม่มีอะไรแน่นอน

ตัวละครอีกที่น่าพูดถึงอีกหนึ่งตัวละครก็คือ ลิลี่ ลูกสาวของวิลล์ซึ่งตอนแรกเปิดตัวมาว่าเป็นเด็กมีปัญหา ไม่ไปโรงเรียน มั่วสุมกับเพื่อนเกเร แต่ความจริงแล้วเป็นตัวละครที่น่าเห็นใจมาก เพราะว่าชีวิตครอบครัวไม่ราบรื่นเลย ไม่มีใครเป็นที่พึ่งและคอยให้คำปรึกษา เกิดมาโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อที่แท้จริง แถมแม่ยังไม่ใส่ใจตนเองเท่าที่ควร ทำให้ลูกเคว้งไร้ที่พึ่ง ไปสร้างปัญหามากมายให้กับตัวเองและคนอื่น เราว่าตัวละครที่บกพร่องในหน้าที่ความเป็นแม่มากที่สุดก็คือแม่ของลิลี่นี่ล่ะ เห็นได้ชัดเลยว่ามัวแต่ใส่ใจกับเรื่องของสามีคนใหม่ ลูกที่เพิ่งเกิดและสถานะทางสังคมมากกว่าจนละเลยลูกในไส้ของตัวเอง พอเกิดปัญหาอะไรเกี่ยวกับลูกสาวก็มักจะผลักภาระไปให้โรงเรียนเป็นคนจัดการแทน โชคดีจริงๆที่ลิลี่ค้นพบบ้านหลังใหม่ที่เหมาะกับตัวเองในที่สุด

ในตอนท้ายของเรื่อง เราชอบสปีชบางส่วนของมาร์ค ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มบำบัดที่ชื่อก้าวต่อไปที่ลูอิซ่าโดยบังคับให้เข้าร่วม แอบซึ้งนิดหน่อยตอนลิลี่พูดถึงวิลล์ที่ล่วงลับไปแล้ว และตอนสุดท้ายของเรื่องที่เรารู้สึกว่าตัวละครทุกตัวในเรื่องกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเส้นทางใหม่ๆ และตัวละครก็ยังคงเติบโตต่อไปได้อีกแม้ว่าเราจะอ่านจนถึงบรรทัดสุดท้ายของหน้ากระดาษแล้วก็ตาม

แต่หนังสือเล่มนี้ก็ยังมีประเด็นอื่นๆที่พูดถึงมากมายเลยนะ ทุกตัวละครมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง เราชอบที่คนเขียนลงดีเทลนะ ถึงจะละเอียดยิบไปหน่อยก็เถอะ ที่แปลกใจก็คือมีพูดถึงเรื่องเฟมินิสต์ด้วย มันเป็นทั้งเรื่องโจ๊กและเป็นทั้งเรื่องเศร้าเหมือนกันนะที่คนเป็นแม่ต้องทำทุกอย่างเพื่อคนในครอบครัว จนไม่มีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองเลย ซึ่งเราว่าหลายครอบครัวน่าจะมีคุณแม่แบบนี้แหละ

ปก Eng ดูเรียบๆแต่ก็เก๋ดี

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับใคร

• เรามองว่าเหมาะกับคนที่ชอบแนวโรแมนติกนะ เพราะเรื่องนี้ก็ยังคงกลิ่นอายแบบนวนิยายแนวรักโรแมนติกเอาไว้อยู่ แต่ก็แฝงไปด้วยดราม่า ประเด็นปัญหาสังคมและการรับมือกับความเจ็บปวดต่างๆ
• เหมาะกับใครก็ตามที่อ่านเล่ม Me before you ไปแล้ว และต้องการรู้บทสรุปของเรื่องนี้ แต่จริงๆแล้วถ้าไม่ได้อ่านก็ไม่เสียหายอะไรหรอก555

คะแนน 7.5/10 ขอโทษที่ต้องเอาไปเปรียบเทียบกับเล่มแรก แต่เรามองว่าเล่มแรกทำได้ดีกว่าจริงๆ และคะแนนส่วนตัวของเราให้ออกมาเท่านี้ แต่ 7.5 ไม่แย่เลยนะ ที่หักเยอะเพราะว่าช่วงเริ่มเรื่องมันเอื่อยมากจริงๆ ถ้าใครไม่มีปัญหากับความเนิบช้าตรงนี้ก็อาจจะเห็นต่างออกไป

รายละเอียดหนังสือ

ชื่อหนังสือ After you (2015) ชื่อเรื่องแว่บแรกนี่นึกถึงร้านขนมหวานกันทุกคน
ผู้เขียน Jojo Moyes
ผู้แปล วิลาส วศินสังวร
สำนักพิมพ์ เอิร์นเนส
จำนวนหน้า 480
ราคา 370