เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
thanatransThanawan
[แปล] ซอนอู: “เอนจีนคือแรงขับเคลื่อนชีวิตผมให้มุ่งไปข้างหน้า”
  • บทความต้นฉบับ: https://magazine.weverse.io/article/view?lang=en&num=321

    สัมภาษณ์สำหรับอัลบั้มคัมแบค DIMENSION: ANSWER
    2022.01.23

    ความสดใสอบอุ่นกับความเท่สุดคูลรวมกันในหนึ่งคนได้อย่างพอดี หล่อหลอมเป็นซอนอูที่กำลังพัฒนาตัวเองในฐานะศิลปินให้เราเห็นอยู่เสมอ

    เห็นว่าคุณร้องไห้ตอนดูวิดีโอที่แฟนคลับทำให้ในแฟนมีตติ้ง EN-CONNECT: COMPANION เมื่อพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย

    ซอนอู: ผมคงจะโกหกถ้าบอกคุณว่าตอนซ้อมไม่มีช่วงเวลายากลำบากน่ะครับ นาทีที่ผมเจอเอนจีน ผมสัมผัสได้ว่าความยากลำบากที่รู้สึกอยู่หายไป เพราะว่าผมได้รับพลังงานดี ๆ จากเอนจีนครับ แค่ได้เจอพวกเขาต่อหน้าก็เป็นกำลังใจที่ดีมากสำหรับผมแล้วครับ รู้สึกดีมากที่เอนจีนเตรียมอีเวนท์เตรียมโปรเจคให้เราด้วยครับ อยู่ดี ๆ ผมก็รู้สึกแบบว่า อ่า.. แล้วสุดท้ายผมก็ร้องไห้ไม่หยุดเลยครับ


    บอกได้เลยว่ามีที่พิเศษสำหรับเอนจีนในหัวใจคุณอย่างแน่นอน เห็นว่าคุณจัดวีไลฟ์ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ตอนที่คุณกำลังทำเทียนหอมปรับอากาศ มีเอนจีนมากมายถามคุณอยู่หลายครั้งว่าทานข้าวหรือยัง แล้วคุณก็ตอบว่าทานแล้วอยู่ตลอดเลย

    ซอนอู: เป็นเรื่องปกติครับ มีเอนจีนหลายมากมายรวมตัวกัน แต่อาจจะเริ่มดูไลฟ์ไม่พร้อมกัน ผมก็เลยตอบคำถามพวกเขาอยู่ทุกครั้ง ถึงแม้คำถามจะซ้ำก็ตามครับ

    การกระทำเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เราเห็นว่าคุณใส่ใจเอนจีนมากเลย แถมคุณยังขอบคุณเอนจีนที่ส่งความรักและอวยพรวันเกิดให้คุณใน -note (ไฮเพนโน้ต) ที่คุณถ่ายวันที่ 24 มิถุนายน วันเกิดของคุณด้วย

    ซอนอู: ครับผม ครับ ครับ (หัวเราะ) กำลังใจที่ผมได้จากเอนจีนเป็นแรงขับเคลื่อนชีวิตผมให้มุ่งไปข้างหน้าครับ ช่วงที่ผมไม่ได้พูดคุยกับเอนจีนคงเป็นช่วงที่ยากลำบากมาก ตอนที่เราถ่ายทำ I-LAND ช่วงวันเกิดผมในปีที่แล้ว ผมเองรู้สึกไม่โอเคเท่าไหร่ เพราะผมแพ้การแข่งขัน แถมวันนั้นฝนตกด้วย และในปีนี้ ถึงแม้มีตารางงานในวันเกิดผม ก็ยังมีผู้คนมากมายอวยพรวันเกิดให้ผม ซื้อเค้กให้ผม ผมเลยยิ้มไม่หยุดเลยครับ ประทับใจมาก ความรู้สึกตอนนั้นผสมกันเยอะแยะเลยครับ แต่พอผ่านมาแล้วก็ทำให้ผมรู้ว่ามันรู้สึกดีมาก ๆ เลยครับ

    ในอีกวีไลฟ์ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา คุณบอกว่า "ผมอยากแสดงช่วง encore กับเอนจีนจะได้สนุกไปด้วยกัน" เหมือนว่าคุณอยากเจอเอนจีนต่อหน้ามาก ๆ เลย

    ซอนอู: ผมคิดถึงพวกเขาหนักมากเลยครับ (หัวเราะ) ผมรู้สึกถึงพลังที่พวกเขาส่งมาให้ตอนที่ได้เจอกันต่อหน้าตอนงานแฟนมีตติ้ง ผมอยากเจอพวกเขาเร็ว ๆ อีกครั้งครับ เพราะเวลาที่มีเอนจีนชมการแสดงของเรา ผมก็จะรู้สึกมีพลังและมีความสุขมากเลยครับ ตอนที่ผมเป็นนักเรียน ผมเคยประกวดร้องเพลงเลยรู้ว่ามันรู้สึกยังไงที่เห็นเพื่อน ๆ คอยเชียร์ คอยให้กำลังใจผมด้วย นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ผมอยากมาทำอาชีพนี้ครับ เมื่อวานนี้ [25 ธันวาคม 2564] ผมเองก็ได้แสดงต่อหน้าผู้ชมที่งาน SBS Gayo Daejeon ถึงแม้ผมจะรู้สึกประหม่ามากกว่าที่ตัวเองคิดไว้อีกครับ (หัวเราะ)


  • แล้วคุณก็ได้แสดงงานปลายปีอีกหลายงานเลย ส่วนมากก็เป็นที่พูดถึงในเรื่องของการแสดงอันยอดเยี่ยมสุดเท่ อย่างเช่น งาน 2021 Mnet Asian Music Awards [นาทีที่ 2.37] ที่คุณกับนิกิทำการแสดงและควบคุมลูกรักบี้ผ่านเส้นเอ็นล่องหนด้วยกัน

    ซอนอู: ตอนแรกที่ผมฟังแผนการแสดง ผมว่ามันน่าตื่นเต้นและเท่มากเลยครับ แต่ตอนซ้อมไม่ง่ายเลย เวลาพันเส้นเอ็นกับมือมันเจ็บนิดนึงครับ แล้วเวลาแสดง เราต้องหมุนลูกรักบี้ด้วยเส้นเอ็นอันนี้ด้วย ตอนพวกเราฝึกแรก ๆ ก็ยังไม่พร้อมกันครับ นิกิกับผมก็เลยแกล้งเถียงกันว่า "ไม่ได้ก็เพราะนายนั่นแหละ" อะไรแบบนี้อะครับ (หัวเราะ) แต่หลังจากนั้น เราก็ฝึกซ้อมดีขึ้น พวกเราก็สนิทกันมากขึ้นในช่วงฝึกซ้อมนี้ สุดท้ายก็เป็นการแสดงสุดเยี่ยมยอดเลยครับ

    คุณเตรียมสเตจคอลแลปรวมช่วงเวลาประวัติศาสตร์ K-POP ร่วมกับรุ่นพี่ TOMORROW X TOGETHER ในงาน KBS Song Festival ด้วย เป็นยังไงบ้างที่ได้ร่วมงานกัน?

    ซอนอู: พี่ ๆ ดูแลเราดีมากครับ เพราะว่าเขาเดบิวต์​ก่อนเราด้วย เขาดูแลบรรยากาศ​ระหว่างซ้อมดี ไม่ให้พวกเราอึดอัด ทำให้พวกเราฝึกซ้อมได้รวดเร็วครับ ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี แม้จำนวนคนเราจะเยอะมาก คือจริง ๆ ผมยังเขินที่จะอยู่กับผู้คนใหม่ ๆ นะครับ (หัวเราะ)​ ตอนเป็นเทรนนี่ก็ไม่ได้ติดต่อกับรุ่นพี่ TXT เท่าไหร่ด้วย ตอนแรกผมก็เลยกลัวที่จะคุยกับพี่เขา แต่พี่เขาก็จะทักว่า "ไง ซอนอู!"แล้วก็ "วันนี้หนักใช่ไหม? "ซึ่งผมชอบและก็ปลื้มมากครับที่พวกเขาถามผมแบบนั้น

    ดูเหมือนเอนจีนจะชอบตอนที่คุณกระโดดช่วงเพลง The Way This Guy Lives  [นาทีที่ 2.19] ของ SECHSKIES มาก ๆ เลย

    ซอนอู: มีหลายเพลงในการแสดงนี้ที่ผมได้ยินเป็นครั้งแรกครับ ผมก็เลยต้องใช้เวลาซึมซับอารมณ์ความรู้สึกของแต่ละเพลงที่เชื่อมกันและก็ดูวิดีโอการแสดงหลาย ๆ คลิปด้วยครับ ผมรู้สึกว่าช็อตกระโดดเพลง “The Way This Guy Lives” เป็นส่วนสำคัญเลยครับ ผมก็เลยกระโดดให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดีกว่ากระโดดให้ดูเท่ครับ (หัวเราะ) ผมว่าช่วยให้ผู้ชมนึกถึงบรรยากาศช่วงเวลาของการแสดงนี้ได้ครับ



  • ตอนเตรียมอัลบั้ม DIMENSION: ANSWER เป็นยังไงบ้าง จินตนาการไม่ออกเลยว่าต้องเตรียมอัลบั้มไปพร้อมกับเตรียมการแสดงงานปลายปีทั้งหมดเป็นยังไง

    ซอนอู: มันไม่ง่ายเลยครับ (หัวเราะ) พวกเราซ้อมเต้น "Blessed-Cursed" ไปพร้อมกับโปรโมทอัลบั้มเต็มครั้งแรกของเรา ผมคิดว่าไม่มีท่าเต้นไหนยากกว่า “Drunk-Dazed” แล้ว แต่ว่าท่าเต้นเพลงไตเติลใหม่ของเรามันท้าทายมากเลยครับ เพราะว่าต้องเคลื่อนไหวเยอะขึ้น ออกแรงเยอะขึ้น แล้วท่าก็ยากขึ้นด้วยครับ

    ในเพลง “Blessed-Cursed” ตอนเริ่มท่อนที่สองที่คุณอยู่แถวหน้ามันติดตาตรึงใจมาก คุณต้องดึงดูดความสนใจจากผู้ชมให้มองคุณด้วยท่าทางเพียงเล็กน้อย แต่เราคิดว่าคุณทำได้ดีมากเลย

    ซอนอู: ขนาดตอนอัดเสียงเพลงนี้ ผมเองยังรู้สึกว่าท่อนนี้เป็นของผมจริง ๆ ครับ แถมยังเป็นครั้งแรกที่ผมได้ร้องท่อนยาว ๆ ผมก็เลยฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อจะได้แสดงเสน่ห์อีกด้านของผมให้ทุกคนได้เห็นครับ เมมเบอร์ก็บอกว่าพวกเขาชอบสิ่งที่ผมทำในท่อนของตัวเองด้วย ผมภูมิใจมากเลยครับ (หัวเราะ)

    คุณอยากให้ผู้คนมองเห็นอะไรจากตัวคุณผ่านอัลบั้มนี้?

    ซอนอู: รู้ไหมครับว่าพวกเราอยากแสดงเสน่ห์อีกด้านของพวกเราให้ทุกคนได้เห็น เป็นด้านที่แตกต่างจากด้านที่ทุกคนเห็นได้ทั่วไป จริง ๆ ผมเองก็อยากทำเหมือนที่เคยทำมานะครับ แต่มันก็เปลี่ยนไปหมดเลย ผมเองก็มีความสุขที่ได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ (หัวเราะ) เมื่อเร็ว ๆ นี้ผมดูการ์ตูนที่มีวายร้ายสุดเท่ด้วย ผมคิดว่าน่าจะดีสำหรับอัลบั้มนี้ที่ผมจะเอาลักษณะของตัวละครนั้นมาปรับใช้กับตัวเองครับ ผมว่าจะแสดงด้านที่แข็งแรงดุดันขึ้นสำหรับการโปรโมทครั้งนี้ ผมชอบนะครับ ผมว่าถ้าได้ลองทำก็น่าจะทำได้ดีเลยครับ 

    สิ่งที่คุณบอกเราเห็นได้จากรูปคอนเซ็ปต์เวอร์ชัน NO เห็นมีรูปหนึ่งที่คุณถ่ายกับพื้นหลังฉากสีฟ้า ด้วยสายตาดุดันแบบนั้น ทำให้เรานึกถึงวายร้ายที่คุณบอกเลย

    ซอนอู: ที่จริงแล้วผมไม่ค่อยพอใจกับรูปนั้นนะครับ ตอนนั้นผมยังไม่รู้ท่าเต้นว่าเป็นยังไง แต่หลังจากนั้นผมก็แสดงออกทางสีหน้าดีขึ้น เพราะว่าได้ฝึกซ้อมไปพร้อมกับฝึกเต้นด้วยครับ (หัวเราะ) ผมยังรู้สึกผิดหวังนิดหน่อย ถ้าพวกเราได้ถ่ายรูปคอนเซ็ปต์ตอนนี้ ผมรู้สึกว่าตัวเองแสดงออกได้ดีกว่านี้ครับ เวลาที่ต้องแสดงสีหน้าจริงจัง คุณก็จะอินไปกับมันครับ มันดูออกทันทีเลย ส่วนตัวผมเองก็ทำคอนเซ็ปต์ยิ้ม ๆ ได้ดีด้วยนะครับ (หัวเราะ)


  • สิ่งที่คุณบอกเราทำให้นึกถึงในไลฟ์แลปขี้สงสัยของซอนอู ฮีซึงบอกว่าการที่คุณตั้งใจฝึกซ้อมเต้นหน้ากระจกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นแรงบันดาลใจของเขาเลย

    ซอนอู: ผมทำแบบนั้นก็เพราะผมเองยังไม่พอใจครับ ผมเองยังเซอร์ไพรส์แต่ก็ปลื้มที่พี่ฮีซึงเขาชมผมแบบนั้น ตอนนั้นเป็นวันแรกที่เรียนเต้นแดนซ์เบรกเพลง “Go Big or Go Home” จังหวะเพลงมันเร็วมาก ท่าเต้นก็เยอะด้วยครับ แล้วผมต้องทำให้ดูสดใสไปพร้อมกัน ตอนนั้นเหมือนหัวผมจะระเบิดเลยครับ (หัวเราะ) ผมก็เลยขยันฝึกซ้อม แม้ในเวลาที่เมมเบอร์กำลังพักเบรกกัน ผมยุ่งเกินไปที่จะมากังวลเกี่ยวกับมันครับ ถ้าผมขึ้นแสดงบนสเตจแล้วทำเหมือนไม่คุ้นเคยท่าเต้น มันก็จะมีผลเชิงลบต่อวงเราครับ ส่วนตัวผมเองก็อยากแสดงให้ดูเท่ที่สุดด้วยครับ

    ในวิดีโอ EN-LOG "วันของซอนอู" สุดท้ายคุณก็เลือกกลิ่นทั้ง15 กลิ่นไปทำน้ำหอมของคุณเอง ทำให้นึกได้ว่าถ้าคุณตั้งเป้าหมายไว้แล้วคุณจะไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ 

    ซอนอู: จริงครับ (หัวเราะ) เวลาผมตั้งใจทำอะไรสักอย่าง ผมก็จะจดจ่อทำอยู่อย่างเดียวเลยครับ ด้วยตัวผมเองก็ไม่ได้เรียนเต้นมาตั้งแต่เด็ก ผมเลยคิดว่าตัวเองอาจจะขาดตกบกพร่องรายละเอียดเล็ก ๆ ไปบ้าง ผมพยายามเรียนท่าพื้นฐานให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แล้วค่อยไปปรึกษาครูสอนเต้นเกี่ยวกับรายละเอียดครับ ยิ่งเรียนเต้นมากขึ้นเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่าตัวเองพัฒนาขึ้นมากเท่านั้นครับ ถ้าเป็นช่วงเดบิวต์แรก ๆ ผมคงจำแล้วก็ฝึกซ้อมท่าเต้นไม่ได้มากเท่าตอนนี้ครับ มุมมองที่ผมมีต่อการจำรายละเอียดท่าเต้นเปลี่ยนไป ผมพบว่าตัวเองทำได้ดีมากขึ้นครับ


    เป็นเรื่องดีทีเดียวที่เห็นคุณแสดงความรู้สึกที่มีต่อเมมเบอร์อยู่ทุกครั้งที่เตรียมอัลบั้มใหม่ จากที่เราได้สัมภาษณ์วีเวิร์สแม็กกาซีนล่าสุดและจากวีไลฟ์ ENHYPEN COMEBACK : DILEMMA LIVE @ Locker Room คุณบอกว่าตอนนั้นเมมเบอร์ช่วยเหลือคุณเยอะมาก

    ซอนอู: เห็นคุณบอกแบบนี้...ก็จริงครับ (หัวเราะ) ผมอยากขอบคุณเมมเบอร์ที่ช่วยเหลือหลาย ๆ อย่างในการเตรียมอัลบั้มนี้ด้วย เวลาที่ปลื้มใจกับอะไรสักอย่าง ผมก็จะเป็นคนที่แสดงออกว่าปลื้มเลยครับ ผมบอกได้เลยว่าเมมเบอร์คอยดูแลผมอยู่ตลอด และทำเพื่อผมหลายอย่างสำหรับการโปรโมทครั้งนี้ มีเยอะแยะหลายอย่างเลยที่พวกเขาทำ ถึงแม้จะเล็กน้อย ผมก็รู้สึกอยากขอบคุณพวกเขาครับ

    เหมือนว่าคุณจะต้องปรับตัวเองให้เข้ากับความสัมพันธ์ที่มีต่อเมมเบอร์ด้วย

    ซอนอู: บางทีความสัมพันธ์มันก็ซับซ้อน รู้ไหมครับ ผมไม่ค่อยคิดมากเรื่องความสัมพันธ์ของผมเลย แต่การที่อยู่เป็นกลุ่มแบบนี้ก็ต้องมีปัญหาของมันเองอยู่แล้วครับ เป็นครั้งแรกที่ผมเจอปัญหาแนวนี้ด้วย ผมเลยคิดหาวิธีที่ดีที่สุดเพื่อจัดการปัญหา แต่หลังจากพูดคุยเรื่องนี้กับเมมเบอร์ พวกเขาก็จัดการตัวเองครับ


  • ในรายการ IDDP ซองฮุนบอกว่า "ซอนอูตอบรับเมมเบอร์เก่ง" ทำให้เรารู้สึกถึงความใส่ใจของคุณเลย คุณใส่ใจทุกคน รวมถึงกลุ่มเพื่อนสนิทของคุณก็ด้วย

    ซอนอู: อ๋า งั้นเหรอครับ ผมชอบแสดงออกทุกทางเท่าที่ผมทำได้เลยครับ ผมไม่ชอบเวลาที่มีคนอ่านข้อความแต่ไม่ตอบครับ (หัวเราะ) ผมว่าถ้าคุณไปอ่านข้อความแล้ว แสดงว่าคุณก็ต้องตอบนะครับ ผมเลยตอบข้อความแม้จะไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ผมใช้ฟังก์ชันของแอพที่มีให้กดค้างแล้วกดหัวใจไว้ที่ข้อความ ผมว่าดีกว่าไม่ตอบอะไรครับ (หัวเราะ)

    พอจินตนาการได้เลยว่าเพื่อนสมัยเรียนคงชอบมากที่คุณทำแบบนี้ เห็นใน -note คุณบอกว่าสมัยตอนม. 4 เพื่อน ๆ ของคุณเคยมาหาที่บ้านและอวยพรวันเกิดให้ด้วย ตอนนั้นคุณรู้สึกยังไง

    ซอนอู: ตอนนั้นเป็นตอนที่ผมสามารถมีเพื่อนคนเดียวได้ครับ แล้วก็ไม่ได้กังวลเรื่องภาพลักษณ์อะไรเท่าไหร่ด้วย ผมไม่อายเลยครับ ผมพูดกับเพื่อนนักเรียนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้ ผมชอบแกล้งเพื่อนแบบแปลก ๆ แต่ก็สบายใจที่ได้อยู่กับพวกเขาครับ (หัวเราะ) ผมว่านั่นเป็นเหตุผลที่เพื่อนผมคาดหวังในตัวผม และผมก็สามารถเป็นเพื่อนกับทุกคนได้อย่างรวดเร็ว แถมผมได้เจอเพื่อนดี ๆ จากประสบการณ์มากมายที่ผมเจอครับ

    แล้วตอนนี้เพื่อนพูดถึงคุณยังไงบ้าง

    ซอนอู: พวกเขาบอกว่าผมสุดยอดไปเลยครับ (หัวเราะ) ผมบอกเพื่อนสมัยประถมอยู่ตลอดว่าสักวันผมจะเป็นเซเลบริตี้ให้ได้ เพื่อนผมก็เลยไม่แปลกใจมากเท่าไหร่ตอนเห็นผมเดบิวต์ พวกเขาบอกว่ารู้อยู่แล้วว่านายทำได้อะไรแบบนี้ครับ (หัวเราะ)



  • ตอนรายการ ENHYPEN QUIZ SHOW คุณชนะและได้บริจาคเงินให้กับองค์การกองทุนสัตว์ป่าในนามตัวเอง และพกป้ายที่ได้มาไปในแฟนมีตติ้งด้วย คุณเป็นแบบอย่างที่ดีให้คนอื่นได้อย่างดีเยี่ยมเลย

    ซอนอู: จริง ๆ ผมเองอยากบริจาคอะไรแบบนี้อยู่แล้วครับ แต่ผมยังบริจาคด้วยตัวเองไม่ได้ เหตุผลที่พกป้ายไปด้วย เพราะว่ามันดีมาก ๆ ที่ผมได้บริจาคเพื่ออะไรสักอย่างในขณะที่ทำงานอยู่ ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้ทำสิ่งที่ดี ถ้ามีโอกาสอีก ผมก็อยากจะบริจาคอีกครั้ง และช่วยเป็นกำลังใจให้ผู้อื่นด้วยครับ

    คุณรู้สึกยังไงกับช่วงวัยรุ่นที่ผ่านมาที่ได้ใช้ชีวิตทั้ง 2 แบบควบคู่กันไป คือ ใช้ชีวิตแบบนักเรียนธรรมดา และไอดอลที่มาพร้อมกับตารางงานสุดยุ่งเหยิงหลังจากเดบิวต์

    ซอนอู: ช่วงปลายปีเป็นช่วงที่ยุ่งแบบสุดยอดเลยครับ (หัวเราะ) ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับการที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในช่วงวัยรุ่นแล้ว แต่ตอนนี้มันผ่านไปแล้วครับ ผมว่าน่าจะใช้ชีวิตวัยรุ่นให้มันน่าจดจำมากกว่านี้นิดหน่อย ยังไงก็ตาม ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายระหว่างการทำงาน ซึ่งผมภูมิใจมาก เป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำดี ๆ ช่วงวัยรุ่นเลยครับ แน่นอนว่าผมยุ่งมาก ๆ แต่ช่วงวัยรุ่นของผมจะเป็นที่จดจำผ่านรูปถ่าย วิดีโอ และได้รับความรักมากมายจากหลาย ๆ คนครับ ถึงแม้ผมจะทำอะไรตามใจหวังไม่ได้ แต่ผมก็ทำทุกอย่างที่ผมทำได้ในสถานการณ์ตอนนี้ ผมเลยไม่ได้เสียใจหรือเสียดายอะไรครับ ตอนนี้ผมมีความสุขมากแล้ว เมื่อก่อนผมเคยชอบอดีตกับอนาคตนะครับ แต่ตอนนี้ผมชอบอยู่กับปัจจุบันมากที่สุด ผมก็เลยไม่อยากกลับไปอดีต และผมก็ยังตั้งตารออนาคตอยู่ เพราะว่ามีสิ่งดี ๆ ในปัจจุบันครับ

     คุณเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกและมองตามความเป็นจริงด้วย แม้แต่ใน "จากตัวฉันถึงตัวฉันในอีก 1 ปีข้างหน้า" ซึ่งเป็นคอนเทนต์ในช่วง 2021 ENniversary ที่คุณบอกว่า "จริง ๆ นะ ฉันคิดว่านายทำได้" แต่ก็บอกว่า "ถึงซอนอูในปีหน้า ฉันรู้ว่าอะไรหลายอย่างก็อาจจะไม่ง่ายแล้ว และนายก็รู้ว่ามันจะเริ่มยากขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น "

    ซอนอู: ผมเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีมาโดยตลอดครับ แต่ก็ต้องตามหลักความเป็นจริงด้วย ผมไม่เคยคิดเรื่องที่เป็นจริงไม่ได้ สมมติถ้าคุณวาดภาพอนาคตตัวเองที่ดูเป็นไปไม่ได้ แผนที่วางไว้ก็จะล่มครับ ผมเลยคิดว่าอย่างน้อยให้คุณคิดร่างอะไรสักอย่างไว้ก่อนจะดีกว่า ผมเองก็คิดตามความเป็นจริงแล้วก็พยายามคิดบวกไปพร้อมกันครับ


    แสดงว่าคุณใช้ชีวิตวัยรุ่นให้สมดุลกัน ระหว่างการที่มีศรัทธาในตัวเองและมองตัวเองให้เป็นกลาง

    ซอนอู: เมื่อผมนึกย้อนไปตอนใช้ชีวิตแบบวัยรุ่น ผมรู้สึกภูมิใจในตัวเองอยู่นะครับ ถ้าบอกให้ผมกลับไปทำแบบนั้นอีกครั้ง ผมว่าผมทำไม่ได้ครับ (หัวเราะ) ผมคิดว่าผมควรเขร่งขรึมให้มากขึ้นดีกว่า เพราะว่าตัวเองจะเป็นผู้ใหญ่ในเร็ว ๆ นี้แล้ว แต่สุดท้าย ผมก็คิดว่าเป็นตัวของตัวเองไปก่อน จนกว่าจะอายุ 20 ปีแล้วกัน ผมเชื่อมั่นในตัวเองครับ ผมจะทำหลาย ๆ อย่างที่ผมชอบ ซึ่งผมก็รู้ว่าสิ่งที่ผมทำนั้นมาพร้อมความรับผิดชอบอยู่แล้ว ดังนั้น ถ้าหากผมใช้ชีวิตในปีนี้ในแบบของตัวเอง ผมว่าผมคงได้เรียนรู้อะไรสักอย่าง ผมอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขโดยที่ไม่เบียดเบียนใครครับ

    ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ 
    หากมีข้อผิดพลาดตรงไหน ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
    เจอกันใหม่บทความหน้าค่ะ ♥
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in