เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Pang's StoryWoravee Pang Lamdee
Cosplay กับเส้นทางเก็บค่าประสบการณ์
  • กล่าวทักทายผู้อ่านทุกท่านค่ะ วันนี้ แป้งจะมาขอนำเสนอเรื่องราวของกิจกรรมยามว่างของวัยรุ่นไทยในสมัยนี้อย่างนึงซึ่งผู้อ่านหลายๆคนอาจจะรู้สึกว่า งานอดิเรกแบบนี้มันเรียกว่างานอดิเรกที่มีประโยชน์ด้วยหรอ? ทำไปเพื่ออะไร ไม่เห็นจะน่าสนใจตรงไหน เพื่อจะเปลี่ยนมุมมองของผู้อ่านเหล่านั้น ลองสละเวลามาอ่านดูซักนิด แป้งจึงมาเล่าเรื่องราวที่แป้งได้ไปเป็นส่วนหนึ่งของงานอดิเรกนี้กันค่ะ

    Kogi Cosplayer (นามแฝง) ที่แป้งได้ไปถ่ายรูปมาค่ะ

    อย่างแรกแป้งก็คงต้องเกริ่นของงานอดิเรกนี้ซักหน่อย นั่นก็คือ "Cosplay" ผู้อ่านหลายคนเนี่ยอาจจะให้นิยามว่า มันคือการแต่งตัวเลียนแบบตัวละครญี่ปุ่น อย่างในเกม อนิเมะ มังงะ ต่างๆ แต่สำหรับแป้งหรือคนที่มี Cosplay เป็นงานอดิเรกก็จะนิยามคำว่า Cosplay มันไม่ใช่การแต่งกายตามตัวละครญี่ปุ่นเท่านั้นแต่เป็นตัวละครต่างๆได้ทั่วโลก หรือแม้แต่คนที่มีตัวตนอยู่จริง โดยผู้ที่แต่งตัวเลียนแบบตัวละครเหล่านั้นถูกเรียกว่า Cosplayer หรือถูกย่อไว้สั้นๆว่า เลเยอร์ นั่นเองค่ะ


    แล้วสิ่งที่แป้งกำลังจะบอกมันคืออะไรกันแน่??

    งั้นมาฟังเรื่องราวของแป้งจากการไปเป็นส่วนหนึ่งของการ Cosplay กันเลยค่ะ

    สำหรับการคอสเพลย์ มีกิจกรรมอย่างนึงที่ถูกเรียกว่า Private ซึ่งถูกย่อมาเป็นคำว่า "ไพร" และการไพรในที่นี้หมายถึงการรวมตัวกันของคนกลุ่มนึงที่ต้องการจะทำโปรเจคนึงซึ่งออกไปถ่ายภาพตัวละครที่กลุ่มตัวเองแต่งตามสถานที่ต่างๆที่เหมาะกับโปรเจคเหล่านั้น

    การไพรไม่ใช่ว่าจะมีแค่คนที่คอสเป็นตัวละครนั้นอย่างเดียว แต่ก็ต้องมีองค์ประกอบอื่นๆที่ทำให้การไพรนั้นประสบความสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์ด้วยนั่นเอง และแป้งก็ขอยกตัวอย่างของการไพรคอสเพลย์ทีี่ถ่ายซึ่งเป็นกรณีของฝั่งที่คอสเพลย์สายอนิเมะ มังงะ ญี่ปุ่นนะคะ

    กลุ่มคอสเพลย์ที่แป้งได้ไปมีส่วนร่วมในการถ่ายภาพบางส่วน

    ตัวเลเยอร์นั้นต้องทำการเตรียมพร้อมตั้งแต่การหาสมาชิก การหาสถานที่ การเลือกเวลา ท่าโพสต์หรือ Position ต่างๆ และ ตากล้องที่จะมาถ่ายพวกเขาเหล่านั้น 

    ซึ่งโปรนี้ก็จัดการเรื่องต่างๆได้อย่างชำนาญกันเลยทีเดียวค่ะ พวกเขาตั้งใจจะไพรเวทถ่ายเหล่าตัวละคร ที่ถูกเรียกว่า The Pillars หรือ เสาหลักทั้ง 9 ในเรื่อง Kimetsu No Yaiba โดยที่พวกเขาได้เลือก สวนวชิรเบญจทัศ หรือ สวนรถไฟ ที่ตั้งอยู่แถวจตุจักรเป็นสถานที่ถ่ายภาพในครั้งนี้และยังทำการขออนุญาติการใช้พื้นที่ถ่ายทำอีกด้วยนะ ขนาดยังไม่ได้ถ่ายภาพก็มีเรื่องที่ต้องทำเยอะแยะแล้วล่ะค่ะ พอถึงวันที่ไปถ่ายภาพ เหล่าเลเยอร์ก็เตรียมตัวกันเรียบร้อย ตากล้องทุกคนก็พร้อมถ่ายรูปเลยล่ะค่ะ เตรียมจัดท่าทางต่างๆมาเบ็ดเสร็จและถ่ายภาพเรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์ก่อนที่สภาพอากาศจะเปลี่ยนไปจนไม่เหมาะกับแผนที่ตั้งเอาไว้เลยล่ะค่ะ

    จริงๆแล้ว การคอสเพลย์ช่วยอะไรเราได้บ้าง?

    คอสเพลย์เนี่ยไม่ได้เป็นเรื่องไร้สาระ หรือ เรื่องปัญญาอ่อน อย่างที่คนหลายๆกลุ่มได้พูดไว้เลยนะคะ แป้งมองว่ามันเป็นงานอดิเรกที่ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์หลายๆอย่างให้เรา งั้นเรามาดูกันเลยดีกว่าว่าแป้งได้รับประสบการณ์อะไรจากการ Cosplay 1 ครั้งบ้าง

    สำหรับคนที่เป็นตากล้อง ของการไพรเวทนี้เนี่ยเป็นคนที่ได้สร้างเสริมประสบการณ์การถ่ายภาพและรับมือกับแสงซึ่งเป็นตัวกลางสำคัญที่ทำให้ภาพสวยและสว่างจนไม่หมองเกินไป แต่สำหรับบางที่อย่างพวกในสตูดิโอเนี่ยเราไม่ต้องห่วงเรื่องสภาพอากาศนักหรอกแถมยังมีตัวช่วยอย่างโคมแฟลชที่เจ้าของแต่ละสตูดิโอก็จัดเตรียมเอาไว้ให้อยู่แล้วด้วย แต่สถานที่ข้างนอกแบบนี้เนี่ยเป็นอุปสรรคต่อตากล้องสุดๆเพราะแต่ละพื้นที่ก็มีความสว่างไม่เท่ากันจนต้องไปปรับค่า ISO (ความไวแสง)ให้ภาพไม่ส่วางจนเกินไปหรือมืดจนเกินไปและยังต้องปรับรูม่านรับแสงเพื่อจะเลือกให้ภาพโฟกัสมากน้อยเพียงใดอีก ถ้าโชคไม่ดีก็ต้องแข่งกับเวลาถ้าฟ้าฝนไม่เป็นใจจนทำให้ถ่ายภาพต่อไม่ได้

    ตากล้องสอนการโพสต์ท่าทางให้กับเลเยอร์

    บ่อยครั้งที่ตัวของตากล้องมีท่าทางที่ต้องการให้เลเยอร์ทำเพื่อจะได้มีรูปที่สวยและเจ๋งๆ ซึ่งแสดงว่าคนที่เป็นตากล้องนั้นไม่ได้มีความสามารถเฉพาะถ่ายภาพเท่านั้นแต่ยังมีทักษะที่คิดท่าทาง Position ต่างๆในเวลาถ่ายงานจริงๆอีกด้วยนั่นเองค่ะ ซึ่งภาพที่ได้มาก็จะทำให้ตัวละครดูโดดเด่นขึ้นมา เช่นตัวอย่างภาพด้านล่างนี้ค่ะ


    การโพสท่าทางที่ทำให้มองเห็นว่าตัวละครใช้อาวุธแบบไหน
    กลุ่มตากล้องที่ปรับค่าต่างๆก่อนถ่ายภาพในระยะไกล
    ตัวละครครบทีมยืนเรียงหน้ากระดาน

    มาในส่วนของเลเยอร์ ตัวเอกของการไพรเวทกันบ้าง การโพสต์ท่าทาง แสดงสีหน้า หรือแม้แต่เมคอัพที่เข้ากับตัวละครนั้นๆ เครื่องแบบเสื้อผ้า อย่างเลเยอร์บางคนเองก็มีทักษะการตัดชุด ทำอาวุธจากวัสดุสังเคราะห์ต่างๆขึ้นมาได้จนกลายเป็นอาชีพเสริมรับทำ Props ตัดชุด เซ็ตซอยวิกตามแบบตัวละครล้วนเป็นทักษะที่เหล่าเลเยอร์ต่างได้รับในขณะที่ทำกิจกรรมนี้ หรือต้องมีการฝึกฝนอยู่ตลอดเหมือนกัน ถ้าเลเยอร์ไม่มีทักษะบางส่วนก็อาจจะเกิดความลำบากขึ้น ในยามที่มีเวลาจำกัดในการถ่ายไพรเวทนั้นๆ 


    การยืนตามลักษณะตัวละครของเลเยอร์แต่ละคน

    การโพสต์ท่าทางของคาแรคเตอร์ต่างๆเปรียบเสมือนท่าทางที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพของตัวเลเยอร์ไปในตัวด้วยเช่นกัน เช่นการยืนอกผายไหล่ผึ่ง แสดงความมั่นใจ การยืนที่สื่อถึงอุปนิสัย บุคลิก ของตัวละครนั้นๆ การโพสต์ท่าทางบางท่าเองก็ต้องใส่ความชำนาญหรือการเตรียมพร้อมอยู่เหมือนกัน แถมเลเยอร์เองก็ต้องมีความมั่นใจกล้าแสดงออกในการออกท่าทางเหล่านั้นด้วยนะ

    การโพสต์ท่าทางและแสดงสีหน้าโดยการนั่งบนต้นไม้
    การแสดงสีหน้า ท่าทางรวมกับอุปกรณ์ (ดาบ)

    บ่อยครั้งในการไพรก็มีสมาชิกหลายคนที่เป็นชาวต่างชาติมาร่วมด้วยเช่นกัน อย่างในโปรไพรเวทนี้ก็มีชาวเมียนมาร์ที่พูดภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษถึงจะฟังไทยออกอยู่บ้างคำสองคำแต่บ่อยครั้งทั้งตากล้องและเลเยอร์ก็ต้องฝึกการพูดสื่อสารภาษาสากลเอาไว้ด้วย ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวคนพูดได้ความรู้ทางด้านภาษามากขึ้นแถมยังได้สื่อสารมีเพื่อนจากชาติอื่นเพิ่มขึ้นอีกด้วย

    ชาวต่างชาติที่มาเข้าร่วมการไพรครั้งนี้ (คนกลางของภาพ) Thanks you Ellen

    การทำงานร่วมกันกับคนอื่น ก็เป็นทักษะที่ทุกคนได้รับประสบการณ์อยู่ตลอดเช่นกัน อย่างการไพรครั้งนี้ก็มีหลายคนที่พบปะกันครั้งแรกและมีความสนิทสนมกันมากขึ้นเมื่อได้ร่วมงานกันจริงๆ ทักษะการสื่อสารและอยู่ร่วมกับคนอื่นก็เป็นสิ่งที่เราได้รับจากการไพรด้วย 

    เลเยอร์เซลฟี่คู่กันเป็นที่ระลึกของการไพร

    เมื่อการถ่ายรูปได้เสร็จลงก็ไม่ใช่ว่าจะจบแล้วนะเพราะว่าตากล้องที่ครอบครองรูปที่ถ่ายมาก็ต้องทำหน้าที่สุดท้ายก่อนที่จะจบโปรเจคให้เสร็จ นั่นก็คือ การคัดเลือกรูปภาพที่ใช้ได้ ตัดต่อ แต่ง รูปภาพเหล่านั้นและส่งให้กับเหล่าเลเยอร์ ซึ่งก็มีเลเยอร์หลายคนที่ตัดต่อและแต่งภาพจากรูปดิบที่ตากล้องส่งมาให้เหมือนกัน เป็นการฝึกฝีมือในการใช้โปรแกรมตัดต่อ แต่งภาพ การใช้กราฟฟิกต่างๆทำให้ภาพดูน่าสนใจขึ้นอีกด้วย 

    รูปที่ยังไม่ได้รับการรีทัชและใส่เอฟเฟคตามที่เลเยอร์ต้องการ
    รูปที่ได้ใส่เอฟเฟคต่างๆและรีทัชภาพเรียบร้อยแล้ว (ล้อเลียน JoJo's Bizarre Adventure)

    แล้วสรุปการไพรถ่ายภาพ และ รูปเหล่านั้นมันมีประโยชน์อะไร?

    การคอสเพลย์ในประเทศไทยนั้นจริงๆก็มีหลายคนที่สนใจถึงขั้นที่มีงานที่รวมเหล่าเลเยอร์และคนทั่วไปซึ่งเลเยอร์หลายกลุ่มก็ได้นำรูปภาพที่ได้จากการไพรเหล่านั้นไปตั้งบูทเซอร์เคิลที่ทางงานเปิดให้เช่าที่มาขายให้กับเหล่าผู้คนที่มาเลือกชมดูงานของพวกเขาเอง
    รูปภาพที่เลเยอร์หลายคนนำมาขายให้กับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนั้นๆ

    การขายรูปเหล่านั้นมีหลากหลายราคาให้เลือกจับจ่ายกันขึ้นอยู่กับความแรร์ของรูปเซ็ตนั้นๆ ซึ่งเลเยอร์เองก็ต้องใช้กลยุทธ์เลือกกลุ่มเป้าหมายและตั้งราคาที่ดึงดูดให้มีคนมาซื้อโปรดักส์ของตัวเองและนำเงินที่ได้ไปพัฒนาการคอสเพลย์ของตัวเองหรือเป็นอาชีพเสริมของพวกเขาเอง หลายๆคนทีี่แป้งได้ไปถ่ายรูปมานั้นก็เป็นที่รู้จักหรือมีแฟนคลับเป็นของตัวเองจนบางคนเองก็กลายเป็น แขกรับเชิญในงานคอสเพลย์ต่างๆที่จัดขึ้นทั้งในและนอกประเทศ

    Mirikan Cosplayer เลเยอร์ที่มาเข้าร่วมงานในฐานะ Exhibitors
    คุณ Thame Malerose Guest Cosplayer ที่เป็นแขกรับเชิญของงานคอสเพลย์มากมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ 

    ส่วนการไพรที่แป้งได้ไปมีส่วนร่วมมาในฐานะตากล้องเพื่อศึกษาดูการคอสเพลย์ใน 1 วันมา ในอนาคตเหล่าเลเยอร์ก็อาจจะนำภาพที่สวยๆเจ๋งๆจากตากล้องไปผลิตโปรดักส์หลากหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าของพวกเขาในงานที่จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งในเร็วๆนี้ก็เป็นได้ค่ะ

    สรุปอีกซักรอบกันดีกว่าว่า Cosplay ได้อะไรกันบ้าง

    1.การสื่อสาร การใช้ภาษาอื่นๆพูดคุยกับเพื่อนต่างชาติ
    2.การเข้าสังคมซึ่งต้องมีการให้เกียรติกันละกันและมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่
    3.การเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีให้กับตัวเอง และกล้าแสดงออก
    4.การนำความรู้และทักษะการถ่ายภาพ รีทัชภาพใส่เอฟเฟคมาใช้
    5.งานที่สามารถหารายได้เสริมได้และบางกรณีก็กลายเป็นการค้าแบบถาวร
    6.การมีทักษะวิชาอาชีพ เช่น การตัดเสื้อผ้า ออกแบบ คราฟของประดิษฐ์ของ
    7.ความสนุกเพลิดเพลิน ความบันเทิงต่างๆ
    8.การถ่ายทอดวัฒนธรรมในหลากหลายประเทศ

    คอสเพลย์ในสังคมไทยในสายตาของแป้งเป็นยังไง?

    จริงๆแล้วคอสเพลย์สอนอะไรหลายๆอย่างให้กับทุกคนไม่ใช่แค่งานอดิเรกเพื่อความสนุก หรือเปลืองเงินเล่นๆ สำหรับบางคนแล้วคอสเพลย์ก็เป็นความชอบหรือ Passion อย่างนึงของพวกเขา ใช้เวลาว่างทุ่มเทให้กับสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่รัก ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างอายุ ช่วงวัยใดๆทุกคนล้วนทำได้


    แป้งมองว่ามันเป็นการกระทำที่สุดยอดมากๆเลยนะเพราะในสายตาคนทั่วไปเนี่ยมองว่าคนนั้นคนนี้เนี่ย ใส่วิกหัวสีๆ แสบตา ทรงอะไรก็ไม่รู้ เสื้อผ้าหน้าตาแปลกๆ เว่อร์วัง ทำไมใส่อะไรมาเดินเล่นในเมืองแบบนั้น มันเป็นการแสดงความรักในสิ่งที่ชอบ มันก็อาจจะมีบางพวกที่อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำอะไรที่ดูไม่ดีไม่งามในที่สาธารณะ แต่ในสังคมของกลุ่มคอสเพลย์นั้นก็อบอุ่นนะเพราะเวลามีใครทำผิด ก็คอยตักเตือน แนะนำในสิ่งที่ดีและถูกต้อง มีการให้อภัยซึ่งกันและกัน เป็นที่ปรึกษาให้กันและกัน 

    ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสังคมคอสเพลย์มันแตกต่างจากเดิม มีคนยอมรับในตัวมันมากขึ้น และมีคนที่ไม่ชอบมันอยู่แต่ถ้าได้เข้ามาในสังคมที่ดีและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมอื่นๆ คอสเพลย์ก็น่าจะเป็นงานอดิเรกที่ได้รับการยอมรับในสังคมเหมือนกันนะ


    ประสบการณ์ที่ได้รับกลายเป็นแรงบันดาลใจในการทำสิ่งใหม่ๆ

    การสังสรรค์ของเลเยอร์หลังไพรเสร็จ
    จริงๆแล้วพอเราได้เห็นการที่เลเยอร์กับตากล้องทำงานร่วมกันเป็นทีมมันเป็นภาพที่น่ามองราวกับว่าเราเป็นกลุ่มทีมงานจากบริษัทเดียวกันที่กำลังทำโปรเจคสำคัญให้มันสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เวลาแป้งได้ไปเป็นส่วนหนึ่งของการไพรหรือโปรเจคต่างๆในสังคมคอสเพลย์เนี่ยมันก็ทำให้เราอยากทำอะไรใหม่ๆอยากนำเสนอคอสเพลย์ในรูปแบบต่างๆให้ทุกคนต่างยอมรับและมองเห็นจุดสนใจ จุดเด่น จุดเดียวกันกับอันที่เราจะสื่อให้เห็น

    สุดท้ายแล้วเราก็ขอขอบคุณทุกคนในโปรเจคไพรเวทครั้งนี้มากๆที่ทำให้แป้งได้ไอเดียในการเขียนครั้งนี้มากๆได้รับคำแนะนำจากหลายๆคนรวมถึงอาจารย์ที่แนะนำว่าให้ทำในสิ่งที่เป็นตัวเรา ซึ่งผลก็กลายเป็นบทความนี้ขึ้นมา

    ขอบคุณเหล่าเลเยอร์และตากล้องทุกๆท่านที่อนุญาตให้ถ่ายภาพเพื่อนำมาเขียนบทความนี้ด้วยนะคะ
    สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยากจะตามผลงานของแป้งในเรื่องคอสเพลย์ ถ่ายภาพก็สามารถติดตามได้ที่ MemePang Cosplayer นะคะ

    งั้นแป้งจะขอปิดบทความด้วยรูปที่ไปถ่ายมาแล้วกันนะคะ
    หวังว่าหลายๆคนคงจะได้มองคอสเพลย์ในมุมมองที่เปลี่ยนไปนะคะ ขอบคุณค่ะ 
    ปล.เนื่องจากเลเยอร์บางคนไม่ได้มีเพจส่วนตัวเพื่อนๆสามารถไปตามดูผลงานจากตากล้องอีกคนเพจ Save Images ได้นะคะส่วนคนที่มีชื่ออยู่ตามภาพแคปชั่นแล้วก็นำชื่อไปหาใน Facebook ได้เลย

    Thank you Everyone!















Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Torwong Jojo Eimsaingam (@fb1476160495856)
เขียนดีมากกกกกกกกก
Woravee Pang Lamdee (@fb2292869247477)
@fb1476160495856 ขอบคุณมากๆเลยค่ะ มีเรื่องที่อยากเขียนอีกเยอะเลย ไว้มา Co-op งานถ่ายภาพได้นะคะ ?
ว่างๆสอนรีทัชเค้าหน่อยน้าาาาาาาาาาาาาาาา

แป้งแซงหน้าไปแล้ว 555555
ฝึกไปด้วยกัน
Woravee Pang Lamdee (@fb2292869247477)
@fb2514713378750 ยังต้องฝึกเหมือนกัน ไว้มีโอกาสจะสอนนะฮับ