เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวเว้ย (3)Chaitawat Marc Seephongsai
ลม ฟ้า อาหาร By โตมร ศุขปรีชา
  • รีวิวเว้ย (1383) ทุกวันนี้พออายุ 30 เรามักเสียเวลาในชีวิตไปกับเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งเรื่องเหล่านั้นตัวเราเองก็ยังไม่แน่ในว่าเราทำไปทำไม หรือทำไมเราต้องจำทนและยอมทำมันถึงขนาดนั้นเพื่อให้ได้อะไรบางอย่างมาเพื่อเอาไปแลกเปลี่ยนเป็นของอีกอย่างและอีกอย่างที่จะช่วยให้ชีวิตของเรามีความสุข ทั้งที่จุดตั้งต้นของการกระทำมันอาจจะวนกลับมาที่ตัวของเรา และในหลายหนการกระทำในลักษณะนี้ได้แย่งชิงชีวิต ความรู้สึก ความทรงจำ และตัวตนของเราไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ หลายหน ณ ช่วงเวลาหนึ่งเราก้มหน้าก้มตาทำอะไรบางอย่างเพื่อเอามาเติมเต็มให้กับชีวิตและตัวตนของเรา ทั้งที่เมื่อเวลาผ่านไปหลาย ๆ ปี เราเงยหน้าขึ้นมาอีกหนอาจจะพบว่าสิ่งเหล่านั้นที่เราก้มหน้าทนทำลงไปมันไม่ได้ให้อะไรกับเราเลยนอกจาก ให้เราได้จ่ายช่วงเวลาสำคัญ ๆ ในชีวิตทิ้งไป
    หนังสือ : ลม ฟ้า อาหาร
    โดย : โตมร ศุขปรีชา
    จำนวน : 256 หน้า
    .
    "ลม ฟ้า อาหาร" ความเรียง 22 เรื่องราวที่ว่าด้วยเรื่อง อากาศ อาหาร ลมหายใจและความหมายของชีวิต การได้อ่าน "ลม ฟ้า อาหาร" ทำให้เราย้อนคิดถึงชีวิตของเราในวัยเด็ก ช่วงเวลาที่ตื่นลืมตา ใช้ชีวิตออกวิ่งเล่นไปตามที่ต่าง ๆ เหนื่อยก็วิ่งหรือปั่นจักรยานกลับมาบ้านเพื่อเปิดฝาชีวิเศษที่มีอาหารหลากหลายจานนอนรอให้เรากินเพื่อเพิ่มพลัง และเมื่อพลังเต็มถังแล้วเราก็ออกวิ่งอีกครั้งเพื่อไปเล่น หรือเพื่อไปทำอะไรบางอย่งตามประสา นอกจากการที่ "ลม ฟ้า อาหาร" ทำให้เราคิดถึงเรื่องราวชีวิตในสมัยเด็กแล้ว ในแต่ละบทแต่ละย่อหน้าของหนังสือยังชวนให้เราจินตนาการถึง "กลิ่น" ของความทรงจำ ทั้งในวัยเด็กและในวัยอันใกล้เคียงกับช่วงชีวิต อาจเรียกได้ว่าเนื้อหาของ "ลม ฟ้า อาหาร" อบอวนไปด้วยกลิ่นของอาหาร อากาศ และภาพของความทรงจำสีจางที่ถูกทำให้หมาดใหม่อีกครั้งจากหลายตอนของข้อเขียนที่ปรากฏอยู่ใน "ลม ฟ้า อาหาร"
    .
    สำหรับเนื้อหาของ "ลม ฟ้า อาหาร" แบ่งออกเป็น 4 ฤดูกาล อันได้แก่ ฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูฝนและวนกลับมาอีกหนอันจบลงด้วยฤดูหนาว ที่แต่ละช่วงฤดูจะประกอบไปด้วยเรื่องราวที่บอกเล่าเรื่องของ ลม ฟ้า อาหาร และผู้คนที่ถูกเชื่อมร้อยเข้าด้วย ลม ฟ้า อาหาร
    .
    "ลม ฟ้า อาหาร" ทำให้เรากลับมาตั้งคำถามกับตัวเองอีกหนว่าเราได้นอนมองท้องฟ้าครั้งล่าสุดมันนานเท่าไหร่แล้ว เราได้ถอดเสื้อผ้าแล้ววิ่งเล่นน้ำฝนครั้งสุดท้ายตอนไหน เราได้เปิดฝาชีแล้วพบกับอาหารของคนที่เรารักเขาและเขารักเราครั้งล่าสุดเมื่อไหร่กัน และนานเท่าไหร่แล้วที่เราละเลยที่จะนั่งลงข้าง ๆ ตัวเราเองเพื่อที่จะพูดคุยและรับฟังตัวเราว่าที่ผ่านมาเราต้องเผชิญกับสิ่งใดบ้าง ยังไหวไหมแล้วเราต้องทุ่มเทพยามขนาดนั้นไปเพื่ออะไรกันนะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in