เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ReviewPeanut Butter Jelly
หัวขโมยแห่งบารามอส กับ มงกุฎแห่งใจ (Review)
  • "พ่อจะลักพาตัวเจ้าชาย"

    มงกุฎแห่งใจ 7 น.
    .
    วรรณกรรมเยาวชนแนวแฟนตาซีน่ารัก แต่แฝงด้วยข้อคิดที่สามารถหย่อนวางลงไปในห้วงความคิดของผู้อ่านได้ทีละเล็กละน้อยจนก่อเกิดเป็นกลุ่มความคิดที่ลึกซึ้งขึ้นมา หัวขโมยแห่งบารามอส กับ มงกุฎแห่งใจคือภาคปฐมบทการเริ่มต้นเดินทางของเจ้าหัวขโมยตัวยุ่ง "เฟริน เดอเบอโรว์" ที่ต้องระเห็จตัวเองมาเรียนหนังสือถึงโรงเรียนพระราชาเอดินเบิร์กตามแผนการของพ่อหัวขโมยมืออาชีพเพื่อหวังจะเข้ามาขโมยเจ้าชายเจ้าหญิงสักองค์ที่ร่ำเรียนอยู่ในสถานศึกษาแห่งนี้ เพื่อจะได้เรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ฝน จะได้รวยกันอื้อซ่า
    .
    หัวขโมยแห่งบารามอส คือวรรณกรรมที่ผสมผสานสไตล์งานเขียนหลากหลายแนวเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เรื่องราวมีกลิ่นอายของวรรณกรรมเยาวชนระดับโลกอย่าง Harry Potter มีความเป็นนิยายแฟนตาซีโรงเรียนกินนอน มีการคัดสรรหอพัก การแข่งขันและการฝ่าฝันกับอุปสรรค แต่ในขณะเดียวกันก็มีกลิ่นอายของความเป็นมังงะญี่ปุ่นมาอย่างเห็นได้ชัดจากคาแรคเตอร์ของตัวละครทั้งหลายที่สามารถทำให้คนอ่านสามารถจดจำตัวละครได้ทันทีโดยไม่ต้องอ่านซ้ำรอบสอง ความโดดเด่นในการดำเนินเรื่องทำให้ไม่ว่าจะเป็นนักอ่านแนวไหนก็จะสามารถหลงรักได้โดยไม่ยาก
    .
    จุดเด่นอีกอย่างของหัวขโมยแห่งบารามอสก็คือการเติบโตของเรื่องราวในแต่ละภาค ภาคมงกุฎแห่งใจถือเป็นภาคเริ่มต้นของเรื่องราวดังนั้นจึงให้ความรู้สึกสดใสเหมือนได้หวนกลับไปสู่ช่วงเวลาแห่งวัยเยาว์อีกครั้ง มีมุกตลกให้ได้นั่งอมยิ้ม มีการแฝงข้อคิดบางอย่างลงไปอย่างแยบคาย และยังมีการใส่จุดพลิคล็อคขนานใหญ่ไว้ให้ผู้อ่านหงายหลังตกเก้าอี้ในครั้งแรกที่ได้อ่านอีกด้วย
    .
    ภาคคทาแห่งพลัง เปรียบเสมือนวัยรุ่นที่มีความโฉบเฉี่ยว การดำเนินเรื่องจากแนวโรงเรียนก็กลายมาเป็นแนวผจญภัยในป่าปีศาจแทน มีความลึกลับ เฮฮาและบ้าบิ่นเหมือนกับวัยรุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็มีพัฒนาการที่ทำให้ทั้งตัวละครและคนอ่านได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน
    .
    ภาค แหวนแห่งปราชญ์ เปรียบเสมือนวัยผู้ใหญ่ วัยที่จำเป็นต้องมีป้ัญญา คิดพิจารณาและไตร่ตรองกับสถานการณ์อันหนักอึ้งตรงหน้า เป็นภาคที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนจนบางทีคนอ่านมึนไปเลยก็มี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่ได้ละทิ้งลายเซนต์เฮฮาอันเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องไป
    .
    และในภาคสุดท้ายอย่าง ดาบแห่งกษัตริย์ อันเป็นตัวแทนของวัยชรา เป็นภาคที่ซึมเซาและหนักอึ้ง เพราะเป็นบทสรุปและเป็นบทคลี่คลายปมทุกอย่างของเรื่อง ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะไม่รู้สึกสะเทือนใจกับเหตุการณ์บางอย่างในเรื่องจนถึงขึ้นต้องมีทิชชู่ติดไว้ข้างตัวตอนอ่าน
    .
    ในภาพรวมนั้น หัวขโมยแห่งบารามอสนับเป็นวรรณกรรมที่ให้ความรู้สึกและความหมายแตกต่างกันไปในแต่ละช่วยวัยที่ได้อ่าน อ่านเมื่อตอนยังเด็กอาจรู้สึกแค่ว่าสนุก ตื่นเต้นและแปลกใหม่ อ่านตอนโตขึ้นมาอีกหน่อยอาจรู้สึกว่าได้แง่คิดสำคัญบางประการ (ที่ในบางครั้งกลายเป็นความคิดที่ผุดขึ้นมาตอนพบเจอสถานการณ์บางอย่าง) หลายปีผ่านไปได้กลับมาอ่านอีกครั้งอาจมองเห็นความคล้ายคลึงระหว่างโลกในนิยายเรื่องนี้กับโลกแห่งความจริงเบื้องหน้าขึ้นมาอย่างน่าประหลาด บางทีอาจเรียกได้ว่าเป็นหนังสือที่ให้ความหมายของชีวิตได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าให้มีการจัดอันดับวรรณกรรมในดวงใจ เชื่อได้ว่า หัวขโมยแห่งบารามอส คงจะต้องติดโผในใจใครหลายคนอย่างไม่ต้องสงสัย
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in