เพื่อนตัวป่วนลากพวกเขามาหยุดอยู่หลังแจกันกระเบื้องใบใหญ่ซึ่งตังอยู่ตรงมุมหนึ่งของทางเดินแคบซิดจ์ยกมือขึ้นจุ๊ปากก่อนขมุบขมิบปากบอกว่ามีผู้ตรวจตราอยู่ข้างหน้า ลูคแอบมองลอดผ่านแจกันไปเห็นผู้ตรวจตราสองคนกำลังยืนขนาบข้างประตูเหล็กเก่าๆ เปรอะสนิมบนบานประตูมีตราสัญลักษณ์ดาวห้าแฉกพร้อมกับข้อความเขียนด้วยสีแดงสดไว้ว่าห้ามเข้า
ลูครีบคว้าแขนเบ็นจามินวิ่งพรวดไปยังประตูบานนั้นทันทีที่ซิดจ์และผู้ตรวจตราหายลับไปจากมุมทางเดินในห้องมืดไร้แสงที่แคบและเต็มไปด้วยใยแมงมุมเด็กหนุ่มคว้าไฟฉายขึ้นมาส่องโดยไม่เกรงกลัวอีกต่อไปแล้วว่าอาจถูกผู้ตรวจตราเจอตัวเอาได้เขาพบบันไดเหล็กตั้งเด่นหราอยู่ตรงหน้าทอดยาวไปด้านบนความอยากรู้อยากเห็นสั่งการให้เขาปีนไต่บันไดนี้ขึ้นไป จนสุดขั้นลูคพบประตูกลที่พาเขาขึ้นสู่ห้องใต้หลังคา
ห้องนี้คงถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานานหลายปีแล้วเด็กหนุ่มคิดพลางปัดหยากไย่ซึ่งขึ้นหนาเตอะออกราวกับว่าเขาหลุดเข้ามาอยู่ในรังแมงมุมยักษ์
หลายครั้งหลายคราที่ลูคต้องคอยคว้าแขนเบ็นจามินไม่ให้หกล้มเพราะเดินสะดุดขยะบนพื้น(มีครั้งหนึ่งลูคใจหายเพราะเสียงหวีดร้องของเบ็นจามินเพราะเหลือบไปเห็นโมเดลจำลองหัวกระโหลกมนุษย์แล้วคิดว่าเป็นของจริง)ในที่สุดทั้งสองก็มาถึงสุดทางเดิน ที่ซึ่งลิฟต์ส่งของเก่า ๆดูไม่น่าปลอดภัยตั้งอยู่หนึ่งตัว
เสียงดังเสียดสีของโลหะและเครื่องจักรก็เริ่มทำงานลิฟต์เหล็กส่งเสียงดังกุกกักพาร่างของเขาเลื่อนลงด้านล่างเขาเห็นเบ็นจามินส่องไฟฉายลงมาสำรวจความปลอดภัยอยู่เป็นระยะทุกอย่างราบรื่นดีกระทั่งเกิดเสียงโลหะเสียดสีดังกระหึ่มจนลูคต้องยกมือขึ้นอุดหูจากนั้นไม่นานลิฟต์ก็หยุดส่งเสียง และแน่นิ่งไปราวหมดลมหายใจ
ลิฟต์เริ่มส่งเสียงดังกึกกักและสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวเขาใจหายเมื่อรู้สึกตัวเบาประหนึ่งถูกโอบอุ้มไว้ด้วยสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปิดตาด้วยความหวาดเสียวและหวาดกลัวก่อนที่เสียงโครมครามจะดังขึ้นตามมา พร้อมกับลิฟต์ที่หยุดนิ่งลงอีกครั้ง
เหมือนอยู่ใต้ดินลูคคิดในใจพลางเดินส่องไฟฉายไปรอบ ๆ ทางเดินมืดไร้ช่องลมชวนให้เขารู้สึกกดดันและเครียดเพราะอากาศน้อยเสียจนแทบจะไม่พอหายใจจนสุดมุมทาง สายตาก็พานพบเข้ากับประตูเหล็กสนิมเกรอะบานหนึ่ง
เสียงประตูโลหะเสียดสีกับพื้นเหล็กดังเสียวฟันสร้างความรู้สึกสยองพองขนราวกับเขาหลุดเข้ามาอยู่ในภาพยนตร์ฆาตกรรมสยองขวัญในห้องซึ่งว่างเปล่า มีเพียงกระจกเงาบานหนึ่งซึ่งสูงเกือบถึงเพดานและความว่างเปล่า
ลูคผงะถอยหลังสายตาจดจ้องไปที่กระจกซึ่งตีเข้าตีออกจากแรงฝ่ามือของตนเขาเห็นแสงสว่างจากกระบอกไฟฉายเล็ดลอดออกมาหลังบานกระจกความคิดแรกแล่นเข้ามาในหัวของเขาทันที สิ่งที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่กระจกเงาหากแต่เป็นบานประตูที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิตความเด็ดเดี่ยวฉายผ่านดวงตาของเด็กหนุ่มตรงหน้า ก่อนที่เขาจะผลักกระจกบานนั้นออก
ในห้องแสนประหลาดล้อมรอบด้วยบานกระจก แสงไฟฉายให้เห็นเงาสะท้อนนับสิบของตนในกระจกราวกับกำลังถูกล้อมจับด้วยกองทัพร่างโคลน ชวนให้ขนลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เขาใช้เวลาไตร่ตรองอยู่ครู่ใหญ่ทว่าคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก เช่นนั้นเด็กหนุ่มจึงเริ่มออกเดินไปรอบ ๆอย่างไร้ทางเลือกเขาวนเวียนอยู่ในวงกตกระจกเงาอยู่นานจนเริ่มรู้สึกวิงเวียนเพราะแรงเหวี่ยงของกับดักปริศนาในระหว่างยืนชันเข่าเพื่อปรับการมองเห็นที่หวุนเคว้ง พลันหางตาก็เหลือบไปเห็นบางอย่างบนกระจกเงาด้านขวาเขากวาดสายตาพินิจพิจารณารูปวาดจันทร์เสี้ยวสีแดงในดวงตาซึ่งกำลังเบิกโพลงมันคือสัญลักษณ์เดียวกับที่เห็นบนหัวของรูปปั้นบาโฟเมตเพียงชั่วครู่ความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัวของเขาทันที
ลูครีบล้วงมือเข้าในกระเป๋ากางเกงคว้าแผ่นกระดาษยับยู่ยี่แผ่นเล็กที่เคยมีค่าเป็นเพียงเศษขยะจากก้นบึงลิตเติลดิวขึ้นมา
มุ่งสู่นัยน์ตาแห่งจันทรา 27213
ลูคเพ่งสายตาผ่านแสงจากกระบอกไฟฉายอ่านทวนตัวอักษรบนแผ่นกระดาษ
หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นไม่มีลวดเหล็กหรือสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นรอบกายแต่ทว่ารูปนัยน์ตาจันทราบนกระจกเงาตรงหน้าได้หายไปโผล่ทางกระจกด้านขวาแทน
ทุกครั้งที่เขาเดินครบจำนวนก้าวนัยน์ตาจันทราจะเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเดินครบก้าวที่สามเขาก็เห็นรูปวาดนัยน์ตาจันทราแขวนอยู่บนบานกระจกเงาซึ่งหมองด้วยคราบฝุ่นสกปรกที่ด้านหลังเด็กหนุ่มเอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสภาพสีน้ำมันด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วประตูลับหลังบานกระจกก็แง้มเปิดเชื้อเชิญให้เขาเข้าไป
ตะเกียงไฟส่องแสงสีฟ้าสว่างไสวอยู่ทั่วทั้งห้องกลิ่นเหม็นสาบผสมกลิ่นเครื่องเทศฉุนแรงคละคลุ้งเขาสามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน เขากำลังยืนอยู่บนระเบียงลอยเหล็ก ซึ่งมีบันไดวนเชื่อมสู่พื้นห้องต่างระดับเบื้องล่างเขานึกย้อนไปถึงเรื่องที่ฌองและน้าจูเลียเล่าในวันนั้นได้ทันทีห้องแห่งนี้ต้องเป็นห้องทดลองลับของฮาร์โป แกรนด์โกสต์ อย่างแน่นอน
ต่อมอยากรู้อยากเห็นกำลังทำงานอย่างขยันขันแข็งลูคเริ่มเดินสำรวจไปรอบ ๆ ห้องทดลองที่ค่อนข้างกว้างขวางเขาเห็นหลอดทดลองขนาดใหญ่ตั้งเรียงรายอยู่ริมผนัง ภายในใส่ของเหลวสีสดใสดูมีพิษบางหลอดมีสิ่งมีชีวิตหน้าตาอัปลักษณ์หลายชนิดอยู่ข้างในด้วย
พลันสายตาก็พานพบเข้ากับบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะทดลองอันแสนรกเลอะเทอะมันคือเครื่องแก้วหน้าตาคุ้นเคยกับที่เคยเห็นในกระท่อมร้างใต้บาดาล และในนั้นศิลาสีแดงฉานปานโลหิตกำลังวางแน่นิ่งอยู่ข้างในรอให้เด็กหนุ่มมาคว้าไปไว้ในครอบครอง
หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ ก่อนจะเร่งจังหวะขึ้นอีกจนแทบหลุดกระเด็นออกจากอก พร้อมกับอารมณ์ที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อรู้สึกตัวว่าบางสิ่งบางอย่างกำลังขู่เสียงขรมมาจากมุมมืดหนึ่งของห้อง
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in