เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
books n movies review (เก่า)Fahrtwind
THE GIRL WITH ALL THE GIFTS M.R. CAREY | มัณฑุกา แปล
  • ทุกเช้า เมลานีจะตื่นขึ้นมาในห้องขัง

    และรอให้ใครบางคนพาเธอเข้าไปชั้นเรียน

    พวกเขามาพร้อมกับปืนที่จ่อหัวเธอ

    และสายรัดหัว ข้อมือและข้อเท้าบนรถเข็น

    เมลานีเป็นแค่เด็กสิบขวบเธอไม่คิดอะไรมาก

    เธอหยอกพวกเขาว่า "หนูไม่กัดหรอกค่ะ"

    แต่พวกเขาไม่ขำด้วยละสิ

    ใครจะไปขำได้ละ ก็เธอไม่ใช่แค่เด็กธรรมดาสักหน่อย


    ซื้อเล่มนี้มาพร้อมกับ Monster calls เลย เพราะอยากดูเวอร์หนังเหมือนกันและก็ไม่ฉายที่โรงแถวม.เช่นกัน และพนักงานก็วางซะใกล้กันเลย ด้วยกิเลสตัณหาทั้งหลายทั้งปวงที่ไม่ค่อยจะญาติดีกับเงินในกระเป๋าสักเท่าไหร่ ก็เลยหยิบมันมาพร้อมกันซะ ซึ่งราคาก็ไม่เบานะ แต่เราก็คิดว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่เราได้รับอยู่นะเงินน่ะบางทีก็เทียบกับประสบการณ์และความรู้สึกที่จะอยู่กับเราไม่ได้เลย มันทั้งสนุก ตื่นเต้น และได้ขบคิดบางอย่าง บางอย่างเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้  

    เนื้อเรื่องก็จะเกี่ยวกับหลังการล่มสลายที่เกิดจากเชื้อปรสิต "โอฟิโอคอร์ดิเซฟ" ที่เข้ากัดกินสมองของผู้ติดเชื้อจนไม่เหลือความเป็นตัวตนของผู้นั้นอีกเลย ในเรื่องจะเรียกว่า ตัวหิว หรือก็ซอมบี้นั่นแหละ มีผู้คนติดเชื้อจำนวนมาก เกิดการกวาดล้างครั้งใหญ่ แต่เจ้าตัวพวกนี้ก็ยังไม่หมดไป นักวิทยาศาสตร์ผู้รอดชีวิตจึงพยายามที่จะหาวิธีรักษาเจ้าเชื้อร้ายพวกนี้ และก็ได้ไปเจอเข้ากับข้อมูลชิ้นโต จากการพบกันของทหารผู้เข้าไปชิงเสบียงจากพื้นที่หลังการล่มสลายกับกลุ่มเด็กผู้ติดเชื้อแต่ยังคงมีสติ มีตัวตนความเป็นมมนุษย์อยู่จนกระทั่งได้กลิ่นของมนุษย์ จึงจับเด็กพวกนี้มาศึกษาทั้งทางกายภาพและจิตใจด้วยเพื่อไขปริศนาว่าเด็กพวกนี้ทำไมจึงพิเศษกว่าพวกติดเชื้อทั่วไป ซึ่งในกลุ่มเด็กเหล่านี้ก็มีเมลานี เด็กหญิงผู้ที่มีลักษณะที่ดูจะพิเศษกว่าเด็กทั้งหมด เธอไร้เดียงสา ฉลาด มีความคิดที่บางทีดีกว่าผู้ใหญ่บางคนซะอีก เธอคือคนที่จะคลี่คลายเรื่องราวทั้งหมด 

    นอกจากเมลานีแล้วก็ยังมีตัวละครอื่นที่น่าสนใจ ก็คือคุณครูจัสตินูคุณครูที่แสนดี เข้าใจความรู้สึกของเด็กๆ แต่ก็แอบมีปมที่ทำให้เธอไม่เคยยอมให้อภัยให้กับตัวเอง เธอเป็นครูที่เมลานีหลงรักเมลานีพร้อมที่จะทำทุกเพื่อให้ได้อยู่กับคุณครูของเธอ   ดอกเตอร์คาวเวลเรียกได้ว่าเป็นคู่กัดของครูจัสตินูเลยทีเดียว เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะหายารักษาเชื้อร้ายนี้ โดยไม่สนใจเลยว่าสิ่งที่เธอทำมันจะโหดร้ายขนาดไหน ต้องแลกกับชีวิตของเด็กอีกกี่คน สำหรับตัวละครตัวนี้เรารู้สึกทั้งเกลียดทั้งสงสารอ่ะ คือการกระทำของเธอถึงจะโหดร้ายจริง(บางครั้งมันก็จำเป็นนะเราว่า เพื่อให้ได้ในบางสิ่ง) และทำเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงและเกียรติของตัวเองก็เถอะ แต่มองอีกมุมนึงมันก็คือหน้าที่และเธอก็มุ่งมั่นกับหน้าที่ของเธอจนวินาทีสุดท้าย เราถือว่ามันน่านับถือในแง่ของความรับผิดชอบต่อหน้าที่ จ่าพาร์คจ่าผู้คุมเด็กๆในห้องขังและอดีตทหารชิงเสบียง ภายนอกอาจจะดูแข็งๆโหดๆ ก็ทหารอ่ะเนอะ จะมาง๊องแง๊งได้ไง แต่ภายในก็แอบมีความอ่อนโยน และมีความเสียสละเต็มเปี่ยม และในเรื่องก็ดูจะมีซัมติงกับครูจัสตินู น่ารักดีนะเถียงกันไปมา แอบชอบเขาอีกต่างหาก อิอิ แต่ตอนท้ายก็นะคงเดาได้ไม่ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น และตัวละครสุดท้ายคือหมู่เคียรัน ทหารหนุ่มหน้าใหม่ที่มีความขี้กลัว อาจจะด้วยมีปมในตอนเด็กด้วย แต่ถึงจะขี้กลัวแต่ก็พร้อมสู้นะและมีความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ซึ่งตอนท้ายเรื่องเราหงุดหงิดกับเค้ามากอ่ะ แต่ก็สงสารด้วยนะ จริงๆคือทุกตัวละครเราก็สงสารหมดเลยแหละ  

    เราชอบการเดินเรื่องที่มีการสอดแทรกพวกวรรณกรรม หรือตำนานเข้าไปในเรื่อง ที่เด่นสำหรับเราคิดว่าเป็นเรื่องของแพนโดรา และเราคิดว่านี่อาจจะเป็นที่มาของชื่อเรื่องก็ได้ เพราะแพนโดราคือนางผู้ได้รับพรทั้งมวล แพนโดราทั้งฉลาด กล้าหาญ งดงาม สนุกสนาน ก็เปรียบได้เหมือนกับเมลานี และเราคิดว่าตอนจบของเรื่องมันก็สอดคล้องกับเรื่องราวของแพนโดราทีเดียว และก็ชอบการใส่รายละเอียดสิ่งต่างๆ เช่น สภาพแวดล้อม และข้อมูลวิทยาศาสตร์อ่านไปก็ดูได้ความรู้ไปด้วย ถึงอีกสักพักก็จะลืมก็เถอะ5555  ส่วนความรู้สึกที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้คือมันมีความเศร้า หดหู่ผสมกับความตื่นเต้น มันจะตื่นเต้นสนุกเวลามีฉากแบบไล่ล่า ต่อสู้กัน หรือเจออุปสรรคกลางทาง และที่ทำให้เราหดหู่ก็คือภาพสะท้อนความโหดร้ายในเรื่อง รู้สึกว่ามันมีนัยยะแฝงอะไรบางอย่าง คือเราก็ไม่ได้อ่านหนังสือได้ลึกและตีความอะไรได้ขนาดนั้นหรอก แต่เราคิดว่าสิ่งที่อยู่ในหนังสืออ่ะ คือโลกของเรา โลกที่มนุษย์ต้องฆ่ากันเอง ฆ่าพวกที่ไม่เหมือนกับพวกตน โลกที่มีการแบ่งฝักฝ่าย โลกที่เด็กจะต้องเผชิญความโหดร้ายของผู้ใหญ่ เชื้อร้ายก็อาจจะเหมือนความโลภ กิเลส ที่ครอบงำสมองของมนุษย์และสุดท้ายก็กลืนกินความเป็นมนุษย์จนหมดสิ้น 

    ส่วนตอนจบเราก็แอบอึ้งเหมือนกันนะ ตอนแรกจะอึนๆหน่อย แต่พอคิดไปคิดมามันก็สมควรอยู่นะ มันอาจดูเป็นผลร้ายแต่มันก็มีผลดีด้วยเช่นกัน สปอล์ยตอนจบนะ
    *
    *
    *
    *
    *
    *
    *
    *
    *
    *
    *
    *
    *
    *










    ตอนจบคือเมลานีปล่อยเชื้อให้ลอยไปกับอากาศทำให้ทุกคนติดเชื้อไปหมด ยกเว้นพวกเด็กๆที่เป็นแบบเดียวกับเธอ และคุณครูจัสตินูที่เธอพาไปไว้ในแอล็อคของรถเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และทำการเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเด็กที่ติดเชื้อ เริ่มต้นเผ่าพันธ์มนุษย์ใหม่ โดยมีคุณครูจัสตินูสอนสิ่งต่างๆให้กลับพวกเธอ

    คือเราก็คิดว่าเออ ถ้าคนทั้งโลกมันเท่าเทียมกันหมด มันก็คงไม่เกิดสงคราม ไม่เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ไม่มีการเหยียดหรือรังเกียจกัน โลกคงสงบสุขกว่าที่เป็นอยู่  

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Varong Panaphan Nutamphan (@fb1560511970658)
ราว 10 นาที หลังดูหนังเรื่องนี้จบ แล้วอารมณ์ประมาณออกจากโรงหนังแล้วเดินเกร่ๆ ไปตามขอบทาง มีเรื่องราวในภาพยนตร์ค้างอยู่ในหัว จนมาเจอบล็อคนี้..ข้อความเพียงประโยคสองประโยคก็พอจะบอกได้ว่าอยากอ่านต่อมั้ย ชอบครับ ทั้งรสนิยมหนังสือ ภาพยนตร์ และมุมคิด อ่านเพลินดี.. ถ้าชอบเรื่องราวประมาณนี้ เร็วๆนี้จะมีนวนิยายไทยเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรื่องราวแบบที่เราคุ้นเคยแน่ๆครับ
NO.W (@WRUNK)
รีวิวดีมากครับ เเต่ถ้าย่อหน้านึงน้อยกว่านี้หน่อยจะสุดยอดมาก รู้สึกตาลายอ่ะ 5555 อ่านรีวิวเเล้วอยากไปหามาอ่านบ้างเลย ชอบอะไรเเนวนี้
Fahrtwind (@Fahrtwind)
@WRUNK ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำ5555 ไปหามาอ่านเลยค่ะ สนุกจริง