เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิว up to meDevilloppod
ลอดลายมังกร เดอะมิวสิคัล : #1stprewiewround [8/10/59]
  • คำเตือน รีวิวนี้จะบวกสปอยไปด้วยนะคะ ฉะนั้นใครยังไม่ได้ไปดูลอดลายมังกรต้องรีบไปดูเด้อ
    หรือถ้าหลงเข้ามาอ่านแล้ว ก็บุ๊คมาร์กหน้านี้ไว้ก่อนแล้วไปดูละครเวทีก็ยังได้นะคะ


    ชีวิตของสาวน้อยคนนึงที่คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ดูละครเวที...
    ในที่สุดมันก็เปลี่ยนไป เมื่อวันนึงไปเล่นเกมในเว็บเด็กดี
    โจทย์บอกว่า "ให้บอกว่าทำไมถึงอยากไปดูละครเวทีเรื่องนี้?"
    เราก็บอกไป....


    สองวันให้หลัง ทีมงานของเว็บเด็กดีส่งอีเมลมาบอกว่าเราคือหนึ่งใน 5 ผู้โชคดีค่ะ

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ละครเวทีเรื่องที่ว่านั้นก็คือ

    "ลอดลายมังกร เดอะมิวสิคัล" นั่นเองงงงงง

    และรอบที่ได้ไปดูนั้นคือรอบพรีวิวรอบแรกสุดด้วย (8/10/2559) //บทจะดวงดีก็มาแบบนี้เลยทีเดียว
    (ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ ปกติเล่นเกมชิงบัตรได้แต่คอนมาตลอดไงล่ะ 55555)

    นี่เจียนจะจบเดือนพฤศจิกายนอยู่แล้วเพิ่งมารีวิว (เพิ่งมามีเวลาเอาป่านนี้น่ะ ขออภัยฮะ)
    แต่ความรู้สึกยังค้างอยู่ในใจอยู่เลย ฉะนั้นจะรีวิวและสปอยล่ะนะคะ
    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    (ขอบคุณข้อมูลเนื้อเรื่องจากวิกินะคะ)
    https://th.wikipedia.org/wiki/ลอดลายมังกร

        อาเหลียง มีภรรยาชื่อ เหมยหลิง มีลูกชายเล็ก ๆ 2 คนชื่อ อาเทียน กับ แอนดี้ อาเหลียงได้เดินทางจากซัวเถาสู่เมืองไทยด้วยเรือสำเภาพร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน คือ อาจั๊วและหลงจู๊บุ๋น ด้วยความหวังที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว
    อาเหลียงได้เริ่มกิจการเล็ก ๆ จนขยับขยายให้ใหญ่ขึ้น และได้แต่งงานอีกครั้งกับภรรยาชาวไทย
    ชื่อ เนียม (ซึ่งต้องยุติความฝันในการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยมาแต่งงานกับอาเหลียง)
    และมีลูกด้วยกันหลายคน โดยลูกคนโตเป็นลูกชาย ชื่อ นัฐกิจ จนกระทั่งเหมยหลิงพร้อมลูกได้เดินทางสู่เมืองไทยเพื่อตามหาอาเหลียง ความวุ่นวายในครอบครัวก็เกิดขึ้น พร้อม ๆ กับการขยายตัวของกิจการ 
    ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว ด้วยความยึดมั่นในคุณธรรมและความขยัน ด้วยการเตือนใจด้วย
    ตัวอักษรคำว่า "หงี" (จีน: 义) ซึ่งหมายถึงคุณธรรมที่ติดไว้กลางบ้าน

    หลายปีผ่านไป ลูกหลานของอาเหลียง เหมยหลิง และ เนียม ก็เติบโตขึ้น หลายคนได้ช่วย
    ขยับขยายกิจการจนประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะแอนดี้บุตรชายคนรอง ในขณะที่อาเทียน บุตรชาย
    คนโตกลับทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จเลย ในขณะที่หลาน ๆ ของอาเหลียง แต่ละคนก็มีบุคคลิก นิสัยแตกต่างกันออกไป และชาญชัย ลูกชายเพียงคนเดียวของแอนดี้และเป็กกี้ ภรรยาชาวฮ่องกงของแอนดี้
    ผู้เป็นลูกสาวของ โรเจอร์ เฟย มหาเศรษฐีเจ้าของกิจการเดินเรือชาวฮ่องกง ที่ถูกเลี้ยงมาด้วยการเอาใจ-
    มาแต่เล็ก ก็ได้สร้างความหายนะให้แก่กิจการและเสื่อมเสียชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลในบั้นปลายชีวิตของอาเหลียง โดยที่เรื่องราวทั้งหมดถูกบอกเล่าผ่านโดย นภา หลานชายของอาเหลียงที่เป็นลูกชายของ นภ
    ลูกชายคนรองของอาเหลียงกับเนียม

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    นี่คือเนื้อเรื่องอ้างอิงตามเวอร์ชั่นธรรมดานะคะ แล้วพอมาเป็นเวอร์ชั่นละครเวทีจะเป็นยังไงล่ะ??

    .

    .

    .

    รูปแบบการสร้าง

    ลอดลายมังกร ได้ถูกสร้างเป็นละครโทรทัศน์ 2 ครั้ง ได้รับความนิยมทั้ง 2 ครั้ง และละครเวที 1 ครั้ง
    ครั้งแรกในกลางปี พ.ศ. 2535 โดยบริษัทกันตนา ออกอากาศทางช่อง 7 วันพุธและพฤหัส เวลา 20.30 น.
    ออกอากาศวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2535 - 17 ธันวาคม พ.ศ. 2535 นำแสดงโดย

    นพพล โกมารชุน รับบทเป็น อาเหลียง
    ปรียานุช ปานประดับ รับบทเป็น เนียม
    อภิรดี ภวภูตานนท์ เป็น เหมยหลิง
    ปัญญา นิรันดร์กุล เป็น อาจั๊ว
    เด่น ดอกประดู่ เป็น หลงจู๊บุ๋น
    ศักราช ฤกษ์ธำรงค์ เป็น อาเทียน
    ทนงศักดิ์ ศุภการ เป็น แอนดี้
    ทัศนีย์ ชลหวรรณ เป็น เป๊กกี้
    สัญญา คุณากร เป็น ชาญชัย
    คุณากร เกิดพันธ์ เป็น ระวี
    เพลงประกอบละครชื่อตามละครมีสองแบบ ขับร้องโดย ประวิทย์ เปรื่องอักษร
    (เหลียงในวัยหนุ่ม-วัยกลางคน) และ เทียรี่ เมฆวัฒนา (เหลียงในวัยชรา-บั้นปลายชีวิต)
    กำกับการแสดงโดย ธีระศักดิ์ พรหมเงิน

    อีกครั้ง ในต้นปี พ.ศ. 2549 โดยบริษัทเอ็กแซ็กท์ ออกอากาศทางช่อง 5 วันจันทร์และอังคาร เวลา 20.30 น.
    ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2549 - 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 นำแสดงโดย

    ศรัณยู วงษ์กระจ่าง รับบทเป็น อาเหลียง
    บุษกร พรวรรณะศิริเวช เป็น เนียม
    ธัญญา วชิรบรรจง เป็น เหมยหลิง
    ตี๋ ดอกสะเดา เป็น อาจั๊ว
    พล ตัณฑเสถียร เป็น แอนดี้
    ณพสิทธิ์ เที่ยงธรรม เป็น อาเทียน
    มยุริญ ผ่องผุดพันธ์ เป็น เป๊กกี้
    รัฐศาสตร์ กรสูต เป็น ชาญชัย
    ตรีพล พรมสุวรรณ เป็น ระวี
    เพลงประกอบละครโดย อัสนี-วสันต์ ชื่อเพลง ยืนหยัด-ยืนยง
    กำกับการแสดงโดย ผอูน จันทรศิริ


    และล่าสุดในปี พ.ศ. 2559 โดย ซีเนริโอ ได้นำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้งในรูปแบบละครเวที แสดงที่
    โรงละครเมืองไทยรัชดาลัย เธียเตอร์ เริ่มแสดงรอบแรกวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 นำแสดงโดย

    ปรีติ บารมีอนันต์ รับบทเป็น อาเหลียง

    พิจิกา จิตตะปุตตะ เป็น เนียม

    สินจัย เปล่งพานิช เป็น เหมยหลิง

    อาณัตพล ศิริชุมแสง เป็น แอนดี้

    ณัฏฐพัชร วิพัธครตระกูล เป็น เป๊กกี้

    ธนทัต ชัยอรรถ เป็น ชาญชัย

    เขียนบทและกำกับการแสดงโดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    แต่ละเวอร์ชั่นนี่ นักแสดงพีคๆ ทั้งนั้นเลย โดยเฉพาะคนที่แสดงเป็นอาชาญชัยแต่ละคน
    (คุณดู๋ - สัญญางี้ พี่เปปเปอร์ หรือจะเป็นพี่แกงส้ม กรี๊ดดดดดดดดดด)

    เอาล่ะ เรารู้จักแต่ละเวอร์ชั่นไปแล้ว งั้นขอรีวิวเวอร์ชั่นละครเวทีเลยดีกว่า ปูพื้นกันมาพอสมควรละ

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เปิดองก์แรกมาด้วยการเถียงกันของสองอาหลาน "อานรากร" และ "นภา"

    คนอานี่เลวมากกก เอะอะชอบเล่นการพนัน มีโอกาสเป็นอันจิ๊กของในบ้านไปแทนเงิน
    ส่วนคนหลานนี่โคตรจะคนดี ยึดมั่นทำตามคำสั่งของปู่ (อาเหลียง) มาตลอด

    ระหว่างนั้นก็มีการย้อนอดีตของอาเหลียงให้ดูว่ากว่าจะตั้งเนื้อตั้งตัวได้นั้นต้องเจออะไรมาบ้าง
    ซึ่งเป็นช่วงที่สนุกมาก ที่พีคสุดต้องเป็นซีนเปิดตัวอาเหมยหลิง (คุณนก สินจัย) ค่ะ
    อันนี้พีคจริงอะไรจริง ฮากันลั่นโรงละครเลยทีเดียว

    และที่พีคอีกจุดคือความสัมพันธ์อันน่าสงสัยของอานันทนากับชาญชัย ซึ่งตอนแรกเราอ่านนิยาย
    แล้วยังไม่เข้าใจนะว่ามันเกิดอะไรขึ้น ในใจก็เดาว่า...มันคงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกนะ ใช่มั้ย??
    แต่พอได้มาดูเวอร์ชั่นละครเวทีถึงได้เข้าใจมากขึ้นไปอีกว่ามันเป็นอย่างที่คิดจริงๆ ด้วย

    พอเรื่องของอาหลานเกิดขึ้น ความพีคอีกจุดงานนี้มาอยู่ที่อานันทนาเต็มๆ
    เป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุดในเรื่องแล้วจริงๆ

    ความพีคยังไม่จบ...เรื่องราวความร้าวฉานระหว่างคนในตระกูลสารพัดเรื่อง
    เรื่องของชาญชัยที่เปิดบริษัทปล่อยเงินกู้เต็มอัตราจนเกิดเหตุล้มละลายและชิ่งออกนอกประเทศ
    แม้แต่เรื่องของอานรากรที่สุดท้ายก็ต้องรับกรรมจากสิ่งที่ตัวเองทำทิ้งไว้

    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ก็จะทิ้งท้ายไว้ว่า...ช่วงนี้รีบไปดูเลยค่ะ //ภาวนาขอให้มีเพิ่มรอบด้วยเถอะ

    Devilloppod
    9/12/2559


    ปล - ขออภัยที่รีวิวช้าไปสองเดือนนะคะ พอดีว่าเพิ่งจะได้เวลาเขียนต่อน่ะค่ะ

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in