เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
The best movie of the year : lalalandbbuayy
Lalaland
  • หลังจากที่ดูเทรลเล่อร์ หนังเรื่อง Lalaland (นครดารา)  : มาประมาณกลางปี 2016 แล้ว ครั้งแรกที่ดูนี้ คือได้ดูจากที่ พี่เต๋อ นวพล กับ เฮียบาส ผู้กำกับ จีดีเอช แชร์เรื่องนี้  พอดูเสร็จก้ ดูฟุ้งๆ สีเสื้อผ้าในเรื่องฝ่ายผู้หญิง คือ สีจัดๆ แดง เหลือง น้ำเงิน ดูเป็นภาพยนต์ย้อนยุค เต้นรำ อะไรงี้ป่าววะ แต่ก้เป็นหนังลิสต์ ที่ต้องดูให้ได้ จะได้รู้ว่าทำไมเค้าได้รางวัลเยอะขนาดนี้

    #LALALAND ได้รับรางวัล 8 รางวัล จาก Critics' Choice Awards
    Best Picture
    Best Director – Damien Chazelle (ผู้กำกับ Whiplash)
    Best Original Screenplay – Damien Chazelle (tie)
    Best Cinematography – Linus Sandgren
    Best Production Design – David Wasco, Sandy Reynolds-Wasco
    Best Editing – Tom Cross
    Best Song – City of Stars
    Best Score – Justin Hurwitz

            ต้องเกริ่นก่อนเลยว่า การที่คนเราดูหนังเรื่องอะไรแล้วสนุก หรือบอกว่ามันดีเนี่ย ต้องดูพื้นฐานเค้าด้วยว่าเค้าเป็นคนแบบไหนนะ เช่น ดูหนังทุกแนวเลย กับ บางคนที่จะไม่ดูหนังบางประเภท เช่น เราไม่ดูการ์ตูน  ไม่ค่อยดู หนังฮีไร่มาร์เวล เท่าไหร่ บางคนเป็นคนที่ดูหนังเพื่อความสนุกเพิดเพลิน  อะไรทำนองนี้เป็นต้น พื้นฐานเราคือ ชอบดูหนังที่ได้รางวัล ไม่ดูเฉพาะความสนุกของหนัง ดู เรื่องฉาก สี การแต่งตัว บท (แต่จะใช้สไตล์ตัวเองเป็นที่ตั้งนะ) เป็นคนไม่ค่อยอ่านรีวิวก่อนไปดูหนัง บางคนให้คะแนน หนังนั้นน้อยมาก อาจจะทำให้เราไม่อยากไปดูหนังเรื่องนั้นนะ แต่เราคิดว่าถ้าอยากไปดูเรื่องไหนก้ไปดูเหอะ เรื่องที่สนุกสำหรับบางคน สำหรับเราอาจจะไม่ชอบก้ได้ ... ?

    ส่วนที่ชอบในเรื่อง
    1. การเปิดตัวของเรื่องภายใน 5 นาทีแรก ..
       สำหรับเราว่ามันโครตจะเวิร์คเลย คือถ้าไปดูหนังแล้วภายใน 5 นาทีแรกแล้วยังไม่น่าติดตาม ก้ถือว่าหนังอาจจะไม่สนุกมากเท่าไหร่  แต่ 5 นาทีแรกหนังเปิดตัวได้แบบ เพลงมิวสิคเคิลเพราะๆ ดูแล้วเรายิ้มตามเลย 
    2. เพลงในเรื่อง
    จริงๆในเรื่องมีไม่มีกี่เพลงใหญ่ๆ สัก 4-5 เพลงเนี่ยแหละ แต่มีหลายเวอร์ชั่นตามอารมณ์ของเพลง ส่วนตัวชอบทุกเพลง แต่เพลงที่ฟังก่อนจะไปดูหนังแล้วชอบเนี่ย คือเพลง city of star ที่พระเอกกับนางเอกร้องพร้อมกัน 


    3. ชอบชุดที่นางเอกใส่ 5555

    เวลาที่ผู้หญิงดูหนังอย่าเราเนี่ย ชอบชุดที่นางเอกใส่นะ มันสวยทุกตัวเลยอ่ะ  สีสันเสื้อผ้าเด่นดี เหมือนในเรื่อง The buddapest hotel แต่นางเอกเราใส่ชุดเดรสสีเหลือง กระเป๋าสีแดง รองเท้าส้นสูงสีน้ำเงิน เฮ้ยยย ต้องขอบคุณ emma stone นะ ที่นางใส่อะไรก้สวย ? แต่เห็นสีมันต่างกันแบบนั้น แต่มันกลับดูดีนะ  จะเห็นได้เลยว่าเรื่องนี้เค้าจะเน้นสีจัดๆ คือ  แดง เขียว เหลือง น้ำเงิน 

    4. ดนตรีเเจ๊ส
    คือเราไม่ชอบฟังเพลงแจ๊ส แต่พอมาดูเรื่องนี้เอ้ยมันเพราะนะเนี่ยยย มันเหมาะกับเรื่องนี้มากๆ ลงตัว

    5. ชอบฉากในเรื่องมาก
    มีหลายๆฉากมากๆ ที่ดูแล้วแบบตะลึง โหววว  เช่น ฉากที่พระเอกกับนางเอก ตอนเดินหารถนางเอก จริงๆเราขอเรียกว่า ฉากเดินเพื่อจีบนางเอก 5555 คือเป็นฉากที่โครตน่ารักเป็นบ้า เป็นฉากร้องเพลงตอบโต้กัน แล้วพระเอกบอกว่า วิวที่นี้มันไม่สวยเลย แต่จะบอกว่ามันเป็นวิวที่สวยมากๆๆๆ คือตอน มี magic hour คือช่วงเวลาท้องฟ้าพระอาทิตย์ใกล้ตกดินหรือตอนจะขึ้นก้ได้นะถ้าเป็นช่วงเช้า จะเป็นเวลาที่ท้องฟ้าสวยที่สุดของวัน หุยยย ฉากนี้โครตสวยโครตดี  และอีกฉากที่ชอบ คือฉากเต้นรำในท้องฟ้าจำลอง เอ่ยอันนี้คือดีมากกกก ฟุ้งมากก โรแมนติดมากๆ  ?????????? ดูแล้วอมยิ้ม  55 ?

    6. การถ่ายลองเทค

    ถือว่าดีนะสำหนังมิวสิคคอล คือดีมากกก ryan gosling  ถ่ายฉากเล่นเปียโน แบบลองเทคได้ดีทีเดียวเลย 

    7. การนำเสนอของเรื่อง
     
    จริงๆ เนื้อเรื่องพื้นฐานก้คืออยากให้ทำตามความฝันของตัวเอง พระเอกฝากมีผับแจ๊สเป็นของตัวเอง ส่วนนางเอกก้อยากเป็นดาราละครเวที เป็นหนังรักธรรมดาทั่วไป แต่การนำเสนอที่อยากให้คนรุ่นใหม่ ฟังเพลงเเจ๊ส ทำตามความฝันตัวเอง โดยผ่านมิวสิคคอลและหนังรักเอ้ยอันนี้ดีนะ ถ้าผู้ชายที่ไม่ชอบหนังรักแล้วอยากไปดูเรื่องนี้ว่าอย่างน้อยคุณก้ต้องประทับใจ การนำเสนอของเรื่องแหละ

    8. เป็นหนังที่ดีที่สุดของปี 2016


    อ่าวทำไมเป็น 2016 ล่ะ เพราะเรื่องนี้ฉายประมาณเดือนธันวาที่อเมริกาก่อนนะ แล้วมีรอบ sneak preview ที่เมจอร์ตั้งแต่วันที่ 29 ธค  

    ให้นิยามเรื่องนี้ :  หนังรักคล้ายๆ 500 days of summer ที่เป็นมิวสิคคอลและดนตรีแจ๊ส และความฝัน


    ส่วน 15 นาที่สุดท้ายของเรื่อง : ดีงามมาก เหมือนเป็นการสรุปความสัมพันธ์ที่หลังจากที่พระเอกและนางเอก  พูดต่อกันว่า "I will always love you" 

    ส่วนที่เรียกว่าแปลกๆของเรื่องคือ :   เรื่องมันมียุค 2016 กับยุค 50-70 เพราะว่านางเอกขับพรีอุสใช้ไอโฟน แต่ส่วนที่เป็นมิสสิคคอล มันเป็นยุค 50-70 เออตอนดูอาจจะขัดๆอยู่บ้าง เอ้ยปรับยุคไม่ทันนะเนี่ยยย  5555 


    ควรไปดูมั้ย : ถ้าไม่ชอบดูหนังรัก แต่ชอบเพลง ก้ไปดูได้ละ แต่ถ้าใครได้หมดก้ควรไปดู แต่ถ้าใครที่ชอบดูหนังรักอยู่แล้วเนี่ย ห้ามพลาดนะ !!!! อาจจะเปลี่ยนลิสหนังรักในดวงใจกลายเป็นเรื่องนี้ก้ได้ ?


    สปอยยย ถ้าใครอยากอ่านก้อ่านนะ
    .
    .
    .




    สุดท้าย เรื่องนี้ก้ทำให้เรารู้ว่าการมีคนรักที่คอยพลักดันให้ไปถึงความฝันนั้นดีแค่ไหน แต่มันคงจะดีกว่าถ้าเค้าคนนั้น อยู่เคียงข้างเราไปจนถึงเมื่อฝันของเราสำเร็จ.. 








Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in