เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Myanmar Faraway : พม่ากล้าๆ กลัวๆGoongging Thanisara
หนึ่ง. ถึงคนไม่คิดถึง
  • “ห๊ะ.. ไปไหนนะ?”

    ต้องพูดซ้ำสองรอบทุกที เวลาที่บอกใครว่าจะไป พินอูลวิน (Pyin U Lwin) กับ สิป้อ (Hsipaw)

    เอาจริงๆ ก็ไม่คุ้นชื่อสองเมืองนี้มาก่อนหรอก แต่ตอนได้ดูหนังเรื่อง ‘From Bangkok to Mandalay ถึงคนไม่คิดถึง’ แล้วเห็นฉากเห็นวิวแล้วบอกตัวเองเลยว่า “จะไปๆๆๆ” (เพลงประกอบหนังก็ชื่อ ‘ฉันจะไป’ พอดีเลย จะบิ๊วไปไหน!) แล้วก็จองตั๋วเครื่องบินเลย!

    จริงๆ เราไปพม่าทุกปี ปีนี้เป็นปีที่สี่แล้ว (ท่าขี้เหล็ก ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ เนปิดอร์ และเมืองเล็กเมืองน้อยแบบนั่งรถข้ามเรือพอไปถึง) แต่เรารู้สึกว่าเรื่องของพม่าที่หลายคนรับรู้ บางทีก็พร่ามัว บางทีก็น่ากลัว

    ใช่ บางครั้งพม่าก็น่ากลัว แต่ก็รู้สึกว่าเป็นความน่ากลัวในแบบที่เข้าใจได้
    
หนึ่ง. คือความน่ากลัวจากบางอย่างที่เราไม่รู้

    สอง. คือความน่ากลัวแบบที่ที่ไหนก็มี
    
แต่ถ้าไม่ไปก็ไม่รู้ เมื่อไม่รู้ ก็ไม่มีวันหายกลัว



    พอต้องเดินทางไปเมืองที่ไม่คุ้นชื่อจริงๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความกลัวละ อยู่ที่ความไม่รู้ต่างหาก!
    จากเพื่อนร่วมทางเป็นหมู่คณะ หดหายเหลือเพียงผู้หญิงสองคน
    "ไปได้แหละ เดี๋ยวก็หาทางไปได้เอง" เราตบไหล่ให้กำลังใจกันในคืนก่อนเดินทาง (สร้างบรรยากาศดราม่านิดๆ จะได้ได้ฟีลเหมือนหนัง)

    เวลา 6 วัน คน 2 คน กับเงื่อนไขง่ายๆ 3 ข้อ
    หนึ่ง. ขอให้ได้นั่งรถไฟที่สูงและเสียวที่สุดของพม่า
    สอง. ขอให้ได้ดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าและทุ่งนากว้างๆ แบบในหนัง
    สาม. ขอกิน Samosa และก๋วยเตี๋ยวแบบไทใหญ่ (Shan Noodles) อร่อยๆ ด้วยก็จะดี :)

    แพลนคร่าวๆ เลยออกมาประมาณนี้
    วันที่ 1 บินจากกรุงเทพฯ ไปมัณฑะเลย์ แล้วเช่ารถต่อไปพินอูลวิน
    วันที่ 2 นั่งรถไฟพินอูลวิน - สิป้อ 
    วันที่ 3 เทรคกิ้งที่สิป้อ
    วันที่ 4 นั่งรถไฟสิป้อ - พินอูลวิน
    วันที่ 5 เช่ารถกลับและเที่ยวต่อในมัณฑะเลย์
    วันที่ 6 เก็บตกมัณฑะเลย์ แล้วบินกลับกรุงเทพฯ


    ความกังวลใจเกิดขึ้นเล็กน้อยในช่วงการเดินทางในพินอูลวินกับสิป้อ ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมีไม่มาก และดูจะยังไม่ใช่ที่นิยมของคนไทยเท่าไหร่ แถมด้วยคำถามว่า 7 ชั่วโมง (ต่อเที่ยว) บนรถไฟจะทรมานไหมนะ

    แต่เรามีความเชื่ออย่างนึง อาจจะเป็นความเชื่อที่หลายคนส่งเสียงค้าน
    เราเชื่อว่าไม่มีที่ไหนที่เราไปไม่ได้ ถ้าเราตั้งใจจะไปจริงๆ
    เพราะหากคิดว่าเราไปไม่ได้ เราก็คงสะดุดความเป็นไปไม่ได้ ล้มหน้าฟาดตั้งแต่หน้าประตูบ้านแล้ว

    "มีคนไปได้ เราก็ต้องไปได้.. ไปได้แหละ เดี๋ยวก็หาทางไปได้เอง" 
    ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมทางจะเชื่อในประโยคนี้สักกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ที่เห็นก็ยอมเก็บกระเป๋าไปด้วยกันมาแล้ว


    และแล้ว.. ความทรงจำเกี่ยวกับพม่าถูกบันทึก (อีกครั้ง) เมื่อล้อเครื่องบินแตะรันเวย์สนามบินมัณฑะเลย์ ที่กลับไปหาเพราะคิดถึงไหม? ไม่รู้ แต่ที่รู้คือ แค่อยากไปให้ 'ถึงคนไม่คิดถึง' เท่านั้นเอง

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in