เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อ่านต่อไปthismetalducky
หลังอ่าน ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ
  • ...ปาฏิหาริย์นั้นเกิดขึ้นได้ ด้วยตัวของเราเอง...


    เรากลับมาแล้ว พร้อมกับหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่าน และแนะนำต่ออย่างมาก กับหนังสือที่ชื่อคล้ายซีรีส์รักใสๆ "ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ" ที่ว่าด้วยเรื่องของหัวขโมยสมัครเล่น 3 คน ที่ก่อคดีแล้วหนีไปหลบอยู่ที่ร้านขายของชำร้างที่มีชื่อเสียงด้านการให้คำปรึกษา แล้วก็ได้พบกับเรื่องน่าอัศจรรย์ คือพวกเขาได้รับจดหมายขอคำปรึกษา ที่ส่งมาจากอดีต ความสนุกทุกอย่างเกิดขึ้น เมื่อเหล่าหัวขโมยตัดสินใจเขียนจดหมายตอบกลับ ให้คำแนะนำคนที่มีปัญหา และด้วยพวกเขาเป็นคนในปัจจุบัน คำแนะนำบางอย่างจึงเหมือนกับเป็นผู้หยั่งรู้อนาคต หนังสือแบ่งเป็นหลายๆตอน พูดถึงปัญหาที่ตัวละครแต่ละตัวพบเจอ โดยมีสิ่งเชื่อมโยงคือ ร้านขายของชำนามิยะ กับศูนย์ดูแลเด็ก

    สารภาพว่าอ่านตาม พี่กอล์ฟ เทยเที่ยวไทย บวกกับว่าบังเอิญไปเจอวางขายที่ร้านหนังสือพอดี เราเลยจัดซะเลย เราอ่านเรื่องย่อแล้วรู้สึกว่าตัวพล็อตของหนังสือมันกระตุกต่อมความอยากรู้ โดยการบอกนักอ่านว่าเรื่องราวจะออกมาในแนวของ causes and effects ทำให้อยากรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น ทางเรานี่อ่านยาวๆแบบไม่ก้มดูเลขหน้ากันเลยทีเดียว นอกจากเนื้อเรื่องที่ชวนให้เราติดตามผลของการกระทำของตัวละครแล้ว วิธีการเล่าเรื่องก็ถูกออกแบบมาให้คนอ่านอย่างเราไม่เบื่อเช่นกัน ปกติเราไม่ชอบอ่านหนังสือญี่ปุ่น เพราะไม่ชอบวิธีเดินเรื่องที่มันจะเงียบๆ เนิบๆ แต่หนังสือเล่มนี้เดินเรื่องได้กระชับมาก และเรื่องเองก็ไม่ได้ดำเนินในมุมมองของตัวละครกลุ่มเดียวแบบเหล่าสามเกลอหัวขโมย บางตอนก็ถูกเล่าโดยผู้คนที่มาขอคำปรึกษา คุณตานามิยะตัวจริง หรือลูกหลานตระกูลนามิยะ ซึ่งการเล่าเรื่องแบบนี้ทำให้เราเข้าถึงสถานการณ์และความรู้สึกของตัวละครนั้นๆ เหมือนกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเดียวกันกับตัวละคร บางตอนเราถึงกับรู้สึกสะเทือนใจตามตัวละครไปเลย

    ในเชิงของประเด็น หนังสือเล่มนี้ก็ยกมาหลายเรื่องเหมือนกัน มีทั้งประเด็นทางครอบครัว จะมีตอนนึงที่ลูกชายของบ้านจะตัดสินใจหนีไปจากพ่อแม่ของตัวเอง เรื่องนี้เราอ่านแล้วสะเทือนใจมาก หรือเรื่องที่คุณตานามิยะไม่อยากย้ายไปอยู่กับลูกชาย เพราะไม่ต้องการเป็นภาระของลูกหลาน ประเด็นทางด้านเศรษฐกิจและการเมืองเองก็ถูกนำเสนอ มีการพูดถึงเหตุการณ์ที่ญี่ปุ่นตัดสินใจไม่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งกีฬาโอลิมปิกด้วยเหตุผลทางการเมือง และราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นในญี่ปุ่นที่ทำให้ตัวละครตัวนึงกลายเป็นเศรษฐีไปได้เลย ประเด็นเหล่านี้ทำให้เรื่องราวทุกอย่างในหนังสือเหมือนเกิดขึ้นจริงๆ อีกอย่างคือ หนังสืออธิบายทุกอย่างชัดเจนมาก ทางเราที่ไม่ถนัดเรื่องเศรษฐกิจเลย ก็เข้าใจปัญหาราคาที่ดินอย่างหมดจดเลยทีเดียว

    ทั้งหมดทั้งมวลนี้ สิ่งที่เราได้จากการอ่านหนังสือเล่มนี้คือ ทุกคนล้วนมีปัญหาระดับชาติในโลกของตัวเอง หนังสือพูดถึงปัญหาของทุกคน แม้แต่ผู้ให้คำปรึกษาเองก็มีปัญหาติดตัว มีเรื่องกลุ้มใจที่คิดไม่ตกเช่นกัน ในบางครั้งเราก็อาจอยากให้มีคุณตานามิยะซักคนมาฟังปัญหาของเรา และในบางทีเราเองก็เป็นคุณตานามิยะให้กับคนอื่นได้เช่นกัน อีกเรื่องที่เราได้มาคือ ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้ด้วยตัวเรา เราสามารถ take control of our lives ได้อย่างที่คุณตานามิยะบอก คนหลงทางที่มีแผนที่ สุดท้ายจะไปถึงจุดหมายที่ตั้งใจไว้ แต่คนหลงทางที่ถือกระดาษเปล่าไว้ในมือ จะวาดแผนที่ด้วยตัวของเขาเอง หนังสือจึงย้ำเตือนเราในทุกตอนว่า ไม่ว่าคำแนะนำนั้นจะมาจากใคร สุดท้ายแล้วเราเองนั่นแหละที่จะเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำตามหรือไม่ โดยรวมแล้วเราชอบหนังสือเล่มนี้นะ เราเริ่มอ่านมันด้วยความอยากรู้ และจบลงด้วยความสุข และเราก็คิดว่าคนที่ได้อ่านคงรู้สึกแบบเดียวกัน :)

    เจอกันเมื่ออ่านจบค่ะ :)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in