เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
S K Y : D I A R Yfungfa
เฝ้าฟาร์มประจำปี : นั่งคุยกัน, ดีดี
  • "ฉันชอบคุยกับดีดีบ่อยๆ"

    ใครได้ยินประโยคนี้ก็มักหัวเราะ ยิ่งถ้ารู้ว่า "ดีดี" เป็นใครก็คงจะยิ่งคิดว่าฉันบ้า

    ดีดีเป็นหมาตัวโตสูงกว่าเจ็ดเมตร ผลงานที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตของ วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ (ผู้อยู่เบื้องหลังร้าน เถ้า ฮง ไถ่ แห่งสวนผึ้ง) ดีดีเคยยืนเฝ้าแกะสิบสองตัวที่เพ้นท์ลายโดยกลุ่มศิลปินอีกหลายคนอยู่หน้าห้างใหญ่ตลอดเทศกาลศิลปะเมื่อปีที่แล้ว

    ทุกคนมองเห็นดีดีได้ตั้งแต่บนรถไฟฟ้า มันจะก้มหน้าน้อยๆ หูตั้ง หางตั้ง ท่าทางตั้งใจ ตลอดช่วงที่ดีดีอยู่ตรงนั้น ฉันวนเวียนผ่านอยู่หลายช่วงเวลา ตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนห้างเปิด มันจะถูกรั้วเหล็กกั้นเอาไว้ไม่ให้ผู้คนเข้าไปถึงตัว มันยืนอยู่เงียบๆ จนบางทีก็ดูเหงา เฝ้าคุยกับแกะโหลหนึ่งที่อยู่เป็นเพื่อน แต่ทันทีที่ปราการนั้นถูกเก็บไป มันจะกลายเป็นหมาเซเลบ ผู้คนรุมห้อมล้อมในรัศมีที่พอจะให้มันเข้าไปติดอยู่ในเฟรมได้ แกะบางตัวถูกเด็กน้อยปีนขึ้นไปขี่ บ้างก็มีพ่อแม่อุ้มขึ้นไปนั่ง ดีดีไม่เคยโกรธ ไม่เคยห้าม อย่างกับว่ามันเป็นหมาใจดีอย่างนั้น

    สิ่งที่ฉันชอบทำคือมองมันเฉยๆ จากจุดต่างๆ บนทางเดินสกายวอล์คบ้าง กลางลานหน้าห้างบ้าง หรือถ้าวันไหนม้านั่งพอว่าง นั่นคือวันที่ฉันได้เข้าใกล้มันที่สุด จะว่ามองเฉยๆ ก็คงไม่ถูก เพราะฉันชอบคุยกับมัน ในเมืองคนเหงา ในวันเลวร้าย ในภาระที่ทำให้เหนื่อยอ่อน ในท่ามกลางนั้นหากฉันเดินผ่านไปเจอดีๆ ฉันจะหยุดมองหน้าหมาด่างสีน้ำตาล

    "สวัสดี ดีดี" ฉันจะทัก

    ถ้าเป็นเช้าที่เงียบ ฉันมักคิดว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามันจะเหงาไหม มันกับพวกแกะจะคุยอะไรกันก่อนนอน หรือ... มันจะนับแกะสิบสองตัวกลับไปกลับมา ในคืนที่มันนอนไม่หลับหรือเปล่า

    ถ้าเป็นสายหรือบ่ายที่วุ่นวายจนดีดีคงไม่มีเวลาจะสนใจฉัน ฉันจะเข้าไปแทรกอยู่ในใครต่อใครที่ต่างก็อยากจะเข้าหาดีดี สงสัยและเอ่ยถามมันเงียบๆ ว่า "เหนื่อยไหม ?" หรือดีดีอาจจะชอบ ที่มีคนเข้ามาทักทายให้มันหายเหงาเยอะๆ อย่างนี้

    ถ้าเป็นวันที่ฉันย่ำแย่เสียเอง ฉันมักมองหน้าดีดีแล้วเผลอยิ้ม ฟ้องหมาอยู่ในใจ ฉันเหนื่อย ฉันเจอวันที่แย่ และฉันอยากกลับบ้าน ฉันรู้ว่าดีดีจะไม่เถียง ไม่แม้แต่จะมีคำแนะนำหรือกำลังใจ แต่ไม่เป็นไร เพราะฉันไม่อยากได้ ฉันแค่ผ่านมาทัก เล่าเรื่องดีร้ายบ้าๆ ที่บางทีก็ดีกว่าเอาไปบ่นบนโลกที่มีคนรู้จัก

    ฉันคิดว่าฉันคุยกับหมาตัวนี้เยอะมากๆ 

    จนกระทั่งหมดเวลา 

    มันหายไป...

    ฉันยังมองไปที่ว่างที่เดิม จำได้เสมอว่าดีดีเคยอยู่ตรงนั้น และชอบคิดว่าอยากให้มันกลับมา ให้มันมาอยู่ตรงนี้ตลอดไป

    จนฉันได้เห็นว่าดีดีอยู่ที่ไหน และกำลังทำอะไรอยู่... 

    ฉันไป The Scenery Vintage Farm แทบทุกปี นอนค้างคืนสองคืนบ้าง เหมือนต้องกลับไปเยี่ยมญาติ ทั้งที่ก็ไม่ได้มีใครที่ฉันรู้จัก... แต่ปีนี้ต่างออกไป --- ฉันได้เจอดีดีที่นั่น

    สิ่งที่ฉันเห็นแปลกตา ดีดีที่เคยอยู่หน้าตึกสีคอนกรีต มีแต่กระจกสะท้อนลายท้องฟ้า และเลี้ยงแกะลายอยู่หน้าสถานีรถไฟ --- วันนี้ดีดีอยู่ท่ามกลางสีเขียวสีฟ้า ทุ่งหญ้า ภูเขา ใต้ผืนฟ้ากว้างลายเมฆก้อนใหญ่... ดีดีกำลังเลี้ยงแกะจริงๆ


    นั่นคือสิ่งที่ฉันพูดกับดีดี... คราวนี้พูดออกมาจริงๆ 

    "ไม่ต้องเลี้ยงแกะปลอมๆ อีกต่อไปแล้วนะดีดี"

    ดีดีได้เจอบ้านแล้ว ฉันรู้สึกอย่างนั้น 

    วันที่กลับฉันโบกมือลา และคิดว่านั่นคือการลากันที่ดีที่สุด คิดว่าดีแล้วที่ไม่ได้บอกลากันที่เมืองวุ่นวายนั้น แต่มาลากันที่นี่ ฉันกลับไปที่ลานกว้าง มองที่ว่างนั้นอีกครั้ง และคิดว่าไม่มีความจำเป็นอะไรแล้วที่ดีดีจะต้องกลับมา ดีดีได้อยู่ในที่ที่มันจะได้ทำหน้าที่ของมันอย่างดีที่สุดแล้ว และฉันรู้ว่ามันจะมีความสุขที่นั่น

    ต่อไปนี้ฉันจะเป็นฝ่ายไปเยี่ยมดีดีเอง

    "มีบ้านแล้วนะดีดี"

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    เป็นครั้งแรกที่ฉันได้สัมผัสดีดี นี่คือเรื่องจริง เจอกันหลายต่อหลายครั้งในเมืองใหญ่ ฉันรู้สึกเพียงแค่อยากคุยกับดีดีอยู่ห่างๆ แค่มองผู้คนอื่นที่อยู่รอบตัวมันก็รู้สึกวุ่นวายพอแล้ว แต่ครั้งนี้ ฉันอยากวิ่งเข้าไปหามัน เอื้อมมือแตะจมูกโตๆ นั้นให้ถึงสักครั้ง ได้นั่งลงที่เท้าของมัน และคุยกันจริงๆ จังๆ สักหน

    ฉันดีใจที่สถานที่แรกที่เราได้ถ่ายรูปด้วยกัน คือที่นี่...
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in