เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ดูดู๊วดู ดูเธอทำmaeday
MANCHESTER BY THE SEA (4/2017)
  • แค่...ใครสักคน



    **Spoiled Alert**


    ฮือออออออ...มันดีย์มาก ดีเติม-s  ดีย์มากกกกกกกกกก ก.ไก่ สองบรรทัด
    คือดูจบแล้ว น้ำตามันปริ่มๆ จะไหลออกมา อยากจะร้องโฮออกมาดังๆ มัน Deep มาก
    ดีแบบที่ต้องร่ำไห้ปรบมือ Standing Ovation ดีก็บอกดี อวยก็บอกอวย แต่นี่คือดี!!!

    เรื่องราวคร่าวๆ ก็ ลี แชดเลอร์ (เคซีย์ แอฟเฟล็ค) หนุ่มพูดน้อย มนุษยสัมพันธ์ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน อีกนิดเดียวก็จะ Loser ทำงานเป็นภารโรงใน Boston ต้องเดินทางกลับมาจัดการงานศพพี่ชายที่เมือง Manchester by the Sea เมืองที่มีอยู่จริงๆ ใน Massachusetts เมื่อพี่ชายเสียไป ลีจำเป็นต้องเข้ามาดูแลหลานวัยรุ่น ที่คุยกันเมื่อไหร่เป็นต้องทะเลาะกันทุกครั้งไป และก็ต้องกลับมาเจอกับผู้คนที่เคยเข้ามาในชีวิต รวมทั้งภรรยาเก่าของเขาด้วย

    ความสัมพันธ์ระหว่างอาและหลานไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่ ลีก็มีข้อแม้ที่จะไม่ยอมอาศัยที่เมืองนี้แม้ว่าต้องรับหน้าที่ผู้ปกครอง และแพทริคที่เป็นวัยรุ่น กำลังสนุกกับโรงเรียน กิจกรรม ไม่ยอมย้ายโรงเรียนไป Boston ตามที่ลีต้องการ ในขณะที่ปัจจุบันยังคงวุ่นวาย หนังค่อยเฉลยๆ อดีตที่แสนเจ็บปวดของลีออกมา

    หนังเล่าเรื่องแบบตัดสลับ ไม่ได้มี flashback ชัดเจน แต่ก็เข้าใจได้ง่าย บอกให้เราเข้าใจว่าทำไมผู้ชายธรรมดาคนนึง ถึงได้กลายเป็นคนอมทุกข์มากมายขนาดนี้ ความสูญเสียของลี ทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วย อยากให้จบแฮปปี้เอนดิ้งตามสูตรสำเร็จ อาหลานเข้าใจกัน ให้เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นเรื่องขี้ปะติ๋วในชีวิต หัวเราะออกมาและก้าวต่อไป แต่ผู้กำกับ/คนเขียนบท อะไรก็ตามแต่ของหนังเรื่องนี้ไม่ได้พาเราไปทางนั้น ราวกับจะบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับลีมันอาจจะยากเกินที่มนุษย์คนนึงจะรับมือได้ไหว

    พี่ชายโผล่มาทีไร เราเสียน้ำตาทุกที
    เราชอบประเด็นครอบครัวในหนังนะ เอามาใช้กับชีวิตจริงได้ คนเป็นครอบครัวเดียวกัน จะเอาอย่างที่ใจเราต้องการฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องเข้าอกเข้าใจอีกฝ่าย ต้องปรับตัว ต้องมีคนยอมถอยหนึ่งก้าว ในตอนจบ แพทริคยอมเข้าใจเหตุผลและไม่รบเร้าให้ลีอยู่ที่เมืองนี้เพื่อดูแลเขา แม้ว่าตัวเองจะต้องย้ายไปอยู่บ้านของเพื่อนพ่ออีกคน และลีเอง ก็ยอมให้หลานอยู่ที่โรงเรียนเดิม และเลิกล้มความคิดขายเรือที่แพทริครัก

    ชอบการเล่าเรื่องที่ไม่ได้ใส่ความดราม่าฟูมฟาย ใส่วงออเคสตร้ากระหึ่มเพื่อบีบเค้นน้ำตาคนดูให้ทะลักทะลาย แต่ไอ้การเล่าเรื่องเรื่อยๆ ช้าๆ กลายเป็นหมัดฮุกที่โคตรเจ็บ และจุกมาก กลายเป็นโคตรจะสงสารลี ยิ่งฉาก I can't beat it ไม่ต้องมีดนตรีอะไรเลย แต่แบบ อ่ะโห ขุ่นพระขุ่นเจ้า น้ำตาไหลพรากกกก

    เคซี่ย์เล่นดีมากกกกก มากจนไม่แปลกใจที่คว้ารางวัลนำชายยอดเยี่ยมจาก Golden Globe มานอนกอดเรียบร้อยแล้ว ตัวละครอื่นๆ ก็น่าเล่นดี หลานแพทริค (ลูคัส เฮ็ดจ์) ก็น่ารักน่าเอ็นดู แม้แต่ แรนดี้ (มิเชล วิลเลี่ยม) ภรรยาที่ต้องสูญเสียเช่นเดียวกับลี ออกมาไม่กี่ฉาก แต่ก็แสดงสมบทบาทของแม่ที่ต้องเสียลูก

    ลูคัสเล่นดี หน้าตาก็น่ารักดี
    หนังจบดีมาก ไม่ใช่ทุกชีวิตที่จะแฮปปี้เอนดิ้ง ทุกคนก็เจอปัญหาหนักหน่วงมาเหมือนกัน แต่มีแค่บางคนเท่านั้นที่จะก้าวข้ามปัญหาไปได้ คนในครอบครัวก็ได้แค่โอบกอดประคับประคองกันไป นั่นคือเหตุผลว่าเรามีครอบครัวไว้เพื่ออะไร. 

    แล้วพบกัน(เมื่อดูหนังเรื่อง)ใหม่.

    maeday

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in