เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เอลล่าผู้ต้องมนตราPurin
Chapter SIXTEEN


  • เราเจอกระท่อมที่คาดว่าน่าจะเป็นบ้านของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่

    หรืออาจจะเรียกว่าพ่อมดผู้ล่วงลับก็ได้

    ให้ตายเถอะ เขาน่าจะเขียนใบมรณบัตรแจ้งไว้สักหน่อยนะ

    "เจ้าควรไปพัก"

    อัศวินพูดกับผม แต่ผมไม่ตอบ

    ผมเหนื่อยเกินกว่าจะตอบ

    ผมเหนื่อยเกินกว่าที่จะมีชีวิตอยู่...

    พระอาทิตย์ลาลับไปนานแล้ว เช่นเดียวกับความหวังของผม

    ผมจะมีความหวังได้อย่างไรเมื่อไร้สิ่งใดให้ยึดมั่น

    'อยู่อย่างกล้าหาญและไม่ยอมแพ้ต่ออะไรทั้งสิ้น' น่ะเหรอ?

    เรื่องขี้หมา

    "เสียใจกับเจ้าด้วยนะ" อัศวินพูด "เดี๋ยวเราคงหาวิธีล้างคำสาปได้สักวัน" เขาพยายามให้กำลังใจ แต่นั่นยิ่งทำให้ผมหดหู่

    ผมเข้าใจว่าเขาไม่ได้มีเจตนาดูถูกหรือล้อเลียน เพียงแต่เขาเป็นแบบนั้น

    เขาเชื่อแบบนั้น

    แต่ผมไม่เชื่ออะไรอีกแล้ว

    ภายในกระท่อมมืดสนิท

    เราลืมที่จะจุดเทียน มีเพียงแสงจันทร์กระจ่างลอยผ่านระแนงไม้เข้ามาเท่านั้น

    สายลมคืนนี้ช่างเย็นยะเยือก 

    หน้าต่างลั่นเอี๊ยดอ๊าด ราวกับเสียงโหยหวนของวิญญาณเร่รอน

    "ฉันรักนายมาตลอด" ผมพูด ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเขากำลังทำหน้าตาแบบไหน

    "เจ้าติดอยู่ใต้คำสาป..."

    ผมมองเขาผ่านม่านขาวของผ้าขี้ริวที่ตากอยู่บนขื่อ

    "อย่ามาดูถูกกันนะ" เสียงของผมแข็งกร้าว เช่นเดียวกับเมดูซ่าที่กำลังแช่แข็งเหยื่อ

    "ฉันไม่ได้ถูกสาป ความรักของฉันไม่ใช่คำสาป" 

    ผมพยายามควบคุมไม่ให้เสียงสั่น

    "ฉันรักนายแม้กระทั่งตอนที่ฉันลืมมันไปแล้ว..."

    ลมพัดแรงขึ้นราวกับจะช่วยปลอบประโลม

    มันกระแทกอย่างรุนแรง กรีดร้องอย่างเกรี้ยวกราด

    ผ้าสีขาวที่กั้นระหว่างเราปลิวไสวพร้อมกับเมฆที่เคลื่อนผ่าน

    ผมเห็นใบหน้าของเขาชัดเจน

    "นายจะปฏิเสธมันยังไงก็ได้...แต่อย่ามาดูถูกความรักของฉัน"

    ผมเดินออกจากตรงนั้น

    และหวังว่าเขาคงจะไม่เห็นน้ำตาที่แอบไหล

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in