เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกการฝึกงาน (Internship Diary)muksaiii
สัปดาห์ที่ 3: เด็กฝึกงานวิถีละครไทย
  • 22 มิ.ย. 2563 - 26 มิ.ย. 2563

              หายจากการเขียนบันทึกไปเกือบสองสัปดาห์เลย ฮ่า ๆ ๆ จริง ๆ แล้วฉันลืมเขียนบันทึกแหละค่ะ เพราะสองสัปดาห์ที่ผ่านมารู้สึกว่าชีวิตดูยุ่ง ๆ หลังจากที่เรียกร้องอยากจะทำงานให้เต็มที่ สัปดาห์ที่ 3 ของการฝึกงานจึงมีอะไรให้ทำมากขึ้น

              เริ่มต้นวันจันทร์ด้วยงานง่าย ๆ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้จับงานต้นฉบับของนักเขียนคนดังอย่าง 'คุณเอ๊าะ' นักเขียนการ์ตูนเรื่อง 'หนูหิ่นอินเตอร์' แล้วเราก็มักจะพบเห็นลายเส้นการ์ตูนนี้ในหนังสือขายหัวเราะหรือมหาสนุกด้วยเช่นกัน ฉันได้ช่วยพี่ในกองฯ ลบลายเส้นดินสอบนงานต้นฉบับของคุณเอ๊าะ ใช่แล้วค่ะ งานชิ้นนี้วาดด้วยมือนั่นเอง แล้วก็ตัดเส้นด้วยปากกาดำตามแบบฉบับพื้นฐานที่เราก็มักจะทำงานส่งอาจารย์กันบ่อย ๆ นั่นเอง ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกลจนบางครั้งเราก็หลงลืมการใช้ดินสอวาดรูปบนกระดาษไปแล้ว แต่งานบางชิ้นก็จะคงความเป็นตัวของตัวเองหากเรายังใช้วิธีเดิมในการสร้างงาน ฉันคนหนึ่งค่ะที่ยังเป็นแบบนี้ ฉันเป็นคนชอบวาดรูปด้วยลายเส้นดินสอบนกระดาษธรรมดา เพราะวาดในคอมพิวเตอร์ไม่ค่อยเก่ง อีกอย่างก็คือไม่ได้เรียนหรือฝึกอย่างจริงจังด้วย และตัวฉันเองก็ไม่ขยันพอที่จะฝึกวาดรูปด้วยตัวเองจนเป็นงานอดิเรก จึงทำให้ฉันยังคงใช้วิธีเดิมในการทำงานค่ะ แม้ฉันจะเป็นเด็กยุคใหม่แต่จริง ๆ แล้วฉันเป็นคนที่ยึดติดกับอะไรเดิม ๆ มากเลยค่ะ แล้วก็ไม่ค่อยอดทนกับอะไรยาก ๆ ด้วย ถ้าให้ฝึกวาดรูปในคอมพิวเตอร์เองโดยที่ไม่มีคนสอนเลย ฉันต้องเครียดจนเป็นบ้าแน่ ๆ เลยค่ะ แหะ ๆ :)

              แต่ถึงแม้ว่าเราจะใช้มือวาดเองแต่ก็ยังมีเทคโนโลยีที่เรียกว่าเครื่องสแกนอยู่นะคะ พอฉันลบลายเส้นดินสอบนงานเสร็จก็จะต้องนำงานต้นฉบับไปสแกนเป็นไฟล์ดิจิทัลเพื่อนำไปปรับแต่งบนโปรแกรมต่าง ๆ ต่อไปนั่นเอง หลาย ๆ คนคงจะงงว่าทำไมฉันจึงตั้งชื่อบทความแบบนั้น จริง ๆ ฉันอยากจะสื่อว่าการฝึกงานที่เรามักเห็นในละครนั้น เช่น ถ่ายเอกสารต่าง ๆ ชงกาแฟให้เจ้านาย ช่วยหยิบช่วยจับของนู่นนั่นนี่ ฉันคิดว่าการฝึกงานสัปดาห์นี้ก็มีส่วนคล้ายคลึงกับในละครอยู่ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการทำงานแบบช่วยเหลือพี่ ๆ เสียมากกว่า แต่ไม่ถึงขั้นชงกาแฟให้หรอกค่ะ เพราะร้านกาแฟแถวที่ฝึกงานมีเยอะ พี่ ๆ ในกองฯก็มักจะซื้อมากินเอง เราไม่ต้องชงให้ค่ะ

              นอกจากนี้นะคะยังได้ออกไปทำงานนอกสถานที่อีกด้วย ฉันและเพื่อนอีกคน รวมทั้งพี่ออมชอม ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเรา มีภารกิจต้องออกไปตามล่าหาหนังสือขายหัวเราะเล่มเก่า เก่าในที่นี้หมายถึงเก่าจริง ๆ ค่ะ คุณผู้อ่านบางคนอาจจะยังไม่เกิดด้วยซํ้า ฉันก็ด้วยเช่นกันค่ะ เพราะเราต้องหาขายหัวเราะฉบับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 ถึงปัจจุบัน ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เอาเป็นว่าต้องตามหาตั้งแต่ฉบับแรกนั่นเอง พวกเราต้องไปตามหาหนังสือกันที่หอสมุดแห่งชาติ แถวเทเวศร์ หรือย่านกรุงเก่าของกรุงเทพมหานคร แต่ว่าหอสมุดแห่งนี้ไม่ให้ยืมหนังสือออกนอกสถานที่ พวกเราจึงจำเป็นต้องสแกนหนังสือทุกหน้าซึ่งเยอะมาก ๆๆๆๆๆ เราทั้งนั่งทั้งยืนทำงานอย่างหลังขดหลังแข็งตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลยทีเดียว จนฉันปวดคอปวดหลังไปหมดเลย รู้สึกได้ถึงชีวิตของมนุษย์เงินเดือนจริง ๆ 

              หลังจากที่เมื่อยจากการทำงานมาทั้งวันก็ถึงช่วงเวลาที่ฉันเป็นสุข นั่นก็คือการนั่งรถเมล์นั่นเอง หลายคนอาจคิดว่านั่งรถเมล์ไม่เห็นจะสนุกเลย นั่นเป็นเพราะสถานที่ที่เรานั่งผ่านค่ะ ถ้าไปที่อื่นฉันก็ไม่ค่อยอยากจะนั่งเหมือนกัน แต่เป็นเพราะแถวนี้เป็นย่านกรุงเก่าทำให้เราเห็นบรรยากาศที่ไม่วุ่นวายมากเหมือนใจกลางอโศก เราได้เห็นตึกรามบ้านช่องสวย ๆ เห็นรั้วพระราชวัง เห็นวัดต่าง ๆ สถานที่แถวนี้เหมาะกับคำว่า 'งดงาม' จริง ๆ ถ้ามีเวลาว่าฉันอาจจะมานั่งรถเมล์แล้วก็ถ่ายรูปเล่นอีก ฉันชอบที่นี่มากเลยค่ะ เห็นแล้วหายเหนื่อยจากงานเลยค่ะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in