เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
วิจารณ์หนังArctic's Harley'z
Fantastic Beasts and Where to Find Them










  • Fantastic Beasts and Where to Find Them คือหนังภาคแยกของ Harry Potter ที่ต่อยอดมาจากนิยายชื่อเดียวกัน โดยได้รับการแปลเป็นภาษาไทยในชื่อ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ เป็นหนังสือชุดพิเศษซึ่ง เจ.เค. โรว์ลิ่ง ผู้เขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่งขึ้นให้กับงานการกุศล และกำหนดว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มที่ที่นักเรียนปีหนึ่งในโรงเรียนฮอกวอตส์ทุกคนต้องมี ต่อมา เดวิด เฮย์แมน ได้ติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์หนังสือเล่มนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ พร้อมให้ เจ.เค. โรว์ลิ่ง มารับตำแหน่งคนเขียนบท ภายใต้การกำกับของ เดวิด เยทส์ จาก The Legend of Tarzan และ Harry Potter 4 ภาคหลัง 



    เรื่องย่อ


    นานหลายสิบปีก่อนที่พ่อมด Harry Potter จะถือกำเนิด ตำราเล่มหนึ่งที่พ่อมดมีชื่ออย่าง นิวท์ สคาเมนเดอร์ (Eddie Redmayne จาก ‘The Theory of Everything’‘The Danish Girl’) เขียนเอาไว้จากประสบการณ์การหนีบหิ้วเจ้าสัตว์ประหลาดสุดมหัศจรรย์ทั้งหลายจากอังกฤษข้ามทะเลสู่ฝั่งอเมริกา และสัตว์พวกนั้นก็ดูจะซุกซนกันน่าดู เผลอเป็นไม่ได้ เป็นต้องออกมาลุยข้างนอกให้นิวท์ปวดกะลาหัวเล่นๆ

    ที่นั่น นิวท์ได้พบกับโกลด์สไตน์ (Katherine Waterston) มือปราบอีกคนที่กำลังอยู่ในระหว่างภาคทัณฑ์ เธอเข้ามายุ่มย่ามกับเขาเพราะสงสัยในกระเป๋าที่เขาถือมาด้วย แต่ในที่สุดก็กลายเป็นคนที่คอยช่วยเหลือนิวท์ไปเสียงั้น อีกคนเป็นมือปราบตัวฉกาจ เกรฟ (Colin Farrell) ที่ดูจะตามราวีนิวท์อยู่ไม่เคยห่าง

    และใช่จะมีแค่เหล่าผู้ร่ายเวทย์ หากยังมีมนุษย์ปุถุชนที่จับพลัดจับผลูกลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมมือปราบ เขาก็คือโควาลสกี (Dan Fogler) ชายร่างท้วมผู้ฝันอยากทำร้านขนมปัง ซึ่งที่นิวยอร์กนี่เขาจะเรียกพวกมักเกิ้ลว่า ‘โน-มาจ’




    มาวิจารณ์กัน


    พล็อตเรื่องของหนังเรื่องนี้ก็น่าสนใจเหมือนกันเพราะเรายังไม่เคยเห็นโลกของสัตว์มหัศจรรย์ในเรื่องแฮรี่เยอะเท่าไหร่ มาในเรื่องนี้ผมจึงหวังว่าจะได้ดูสัตว์มหัศจรรย์ แต่ก็ต้องผิดหวังกับการนำเสนอของหนังที่เลือกจะเล่ามากกว่าจะโชว์ให้เราเห็น ส่วนที่โชว์ก็เป็นส่วนน้อยมาก จึงทำให้เราไม่ได้เห็นสัตว์มหัศจรรย์มาโลดแล่นเยอะในเรื่อง หนังมีการเล่าเรื่องได้เร็ว ง่าย และกระชับมาก ซึ่งเป็นจุดเด่นของหนังเลย หนังไม่มีการปูอะไรเลยทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ทำให้เรางงกับเหตุการณ์ในเรื่องแต่อย่างใด สำหรับตัวผมแล้วหนังเรื่องนี้มีความเว่อร์และ Hollywood มากกว่า หนังแฮรี่ภาคก่อนๆมาก ผมรู้สึกเหมือนดูหนังพ่อมดเรื่องอื่นอยู่เลย แต่ไม่ใช่ว่าผมไม่ชอบ เพียงแต่ว่ามันดูไม่ค่อยมีสเน่ห์เหมือนภาคก่อนๆเลย CG ในหนังสมจริงมากคือผมชอบตรงนี้ ช่วงแรกมีการเล่าที่ไม่ไปไหนอยู่นิดหน่อยและยังมีการเล่าเรื่องสัตว์มหัศจรรย์แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้ผมว่ามันใส่มาเพื่อ Fan Service โลกเวทย์มนต์ของเรื่องนี้ยังไม่ถูกพูดถึงมาก เราอาจจะได้เห็นในภาคต่อๆไป การใช้คาถาในเรื่องก็สมเหตุสมผลไม่เยอะจนเกินไป โลกของสัตว์มหัศจรรย์ผมว่าทำได้ดี แต่เรากลับแทบไม่เห็นการไล่จับที่น่าตื่นเต้นเลยน่าเสียดายช่วงท้ายของหนังก็รู้สึกว่ามีอะไรมากกว่า 2 ช่วงแรก ซึ่งผมก็ยังไม่ตื่นเต้นกับมันมากนัก ไม่ใช่ตัวร้ายไม่เก่งนะ แต่ผมว่ายังไม่มีอะไรโดดเด่นกว่าตัวละครหลักเลยช่วงท้ายมีดราม่าที่ผมว่ามันดู Hollywood มากที่ใส่ดราม่าตอนท้าย ทำให้ผมคิดว่าคนเขียนบทคงเป็นแฟนหนัง Hollywood แน่ๆ บทสรุปของเรื่องทำออกมาได้ดีเหมือนกันทำให้เห็นโมเม้นที่น่าจดจำในเรื่อง

    นักแสดงของเรื่องเด่นๆอยู่ 3 คน ซึ่งเป็นตัวละครที่ผมชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเลย ต้องชม เจ.เค. โรวลิ่ง ว่าเขาสร้างตัวละครได้มีสเน่ห์มากๆ เพราะทำให้ผมรู้สึกเหมือนดู แฮรี่ รอน และเฮอร์ไมโอนี่เลย ผมอยากจะให้ 3 ตัวละครนี้กลับมาอีกครั้งในภาคต่อมากไม่รู้ว่าจะมาหรือเปล่าเพราะเหมือนเรื่องนี้เป็นแค่การเล่าในส่วนของ นิวท์ คนเดียว ซึ่งทำให้อีก 2 คน อาจจะไม่กลับมาในภาคต่อก็เป็นได้ ส่วนตัวละครที่โดดเด่นรองลงมาก็คือ Colin Farrell ซึ่งเป็นนักแสดงที่เก่งแต่ยังไม่มีผลงานที่ผมชอบซักที มาในเรื่องนี้เขาแสดงได้ดีมากๆ ผมชอบตอนเขาร่ายคาถามันดูทรงพลังมาก แต่การปรากฏตัวของตัวละครลับของเรื่องนี้ มันเซอร์ไพรส์ผมเอามากๆ ไปชมเอาละกันครับว่าเขาจะมาตอนไหน ดนตรีประกอบของเรื่อง ผมก็ว่ายังไม่ติดหูเท่าไหร่ เพราะในเรื่องแฮรี่ผมติดหูอยู้หลายสกอร์เลยในเรื่องนี้ยังต้อง แก้อยู่นิดหน่อย ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้ฟังธีมของเรื่องในภาคถัดไปก็ได้







เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in