เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ผงขี้เถ้ากับเขม่าควันไฟ (คลัง SF) / แหลมศรีคือคนไหนแหลมศรีคือคนไหน
In War or In darkness of heart
  • สงครามของหญิงสาวผู้โดดเดี่ยว

         กาลครั้งหนึ่งไม่นานมานี้ หญิงสาวที่เคยร่าเริงและถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย ทำให้เธอนั้นมีความสุขจนไม่คาดคิดว่าเธอกำลังจะโดนพรากสิ่งเหล่านั้นไป ความสุขอยู่กับเธอไม่นาน สงครามและพายุฝนโหมกระหน่ำพัดพาความปวดร้าวมากมายให้กับเธอ
         ความปวดร้าวทำให้หญิงสาวต้องโดดเดี่ยว ผู้คนที่เคยห้อมล้อมเธอต่างพากันออกห่าง สายตาที่มองมายังที่เธอช่างห่างเหิน เกลียดชัง วาจาที่คนเหล่านั้นเอ่ยออกมาเสมือนมีดเล็กที่ค่อยๆกรีดหัวใจของเธอออกเป็นชิ้นๆ 

     เธอเจ็บปวดจนเธอคิดว่าไม่สามารถลบภาพเหล่านี้ออกไปได้ มันมักจะตามหลอกหลอนเธอไปทุกที่

         เหมือนว่าหญิงสาวกำลังหลงอยู่ในสงคราม ที่ไม่มีแม้แต่โอกาสที่เธอจะลุกขึ้นมาสู้ และเรียกร้องสิทธิของเธอ เธอก็คือคนคนหนึ่ง เธอมีร่างกาย เธอมีหัวใจ มีเหมือนกับทุกๆคน แต่เธอกลับโดนมองข้ามความรู้สึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เธอทรมาน ความกดดันมากมายที่เธอต้องแบกรับเอาไว้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากทำก็ตาม


       
         หญิงสาวนั่งเหม่อมองท้องฟ้า เธอท้อแท้เหลือเกิน เธอใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยเอาแต่ถามตัวเองว่า ‘เมื่อไหร่วันนี้จะจบลง’  ทุกวันของเธอเต็มไปด้วยคำเหล่านี้ เธอโดนทำร้ายทุกๆวัน จนเธอคิดจะทำให้ชินกับมัน แต่เธอกลับไม่สามารถชินกับมันได้เลย


         “หากใจเจ้าเหนื่อยล้า โปรดพักกายไว้กับข้า หากใจเจ้าร้าวราน มาสิ…ข้าจักเยียวยาให้” เสียงทุ้มเอ่ย เมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังรู้สึกอย่างไร


         หลังจากที่เธอได้ยินเสียงใครสักคนดังขึ้น เธอพยายามหาที่มาของเสียง แต่เธอกลับมองไม่เห็นใคร ที่ตรงนั้นมีเพียงเธอที่นั่งอยู่ หญิงสาวเม้มริมฝีปาก ในใจของเธอรู้สึกอุ่นใจกับคำพูดนั้นอย่างบอกไม่ถูก นานแล้วสินะ ที่ไม่มีคนเข้ามาคุยกับเธอแบบนี้ แม้เธอจะไม่เห็นเขาก็ตาม


         “แล้วข้าต้องอดทนรออีกนานแค่ไหน ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนข้านั้นต่างเจ็บปวดเหลือเกิน” 

    หญิงสาวพูดพลางกุมมือตัวเอง เธอรู้สึกถึงหัวใจที่ร้าวราน มันเป็นแผลภายในที่เจ็บปวดเหลือเกิน หยดน้ำตาแห่งความเสียใจเอ่อล้นขอบตาจนแทบจะไหลออกมา แต่เธอกลับกลั้นไว้ เธอไม่อยากร้องไห้

         “หากเจ้าปรารถนาที่จะร้องไห้ โปรดร้องออกมาเถิด ข้าจักเป็นที่พักพิงในยามที่เจ้าเหนื่อยล้า” เจ้าของเสียงทุ้มนี้เป็นน้ำเสียงเดียวที่อ่อนโยนกับเธอในตอนนี้
      

         “แผลนี้มันมากมายเหลือเกินท่าน ข้ารู้สึกทรมานแทบทนไม่ไหว หากความทรมานนี้ที่ข้ารู้สึก สามารถทำให้ผู้คนตายได้ ข้าคงหมดลมหายใจไปตั้งนานแล้ว” หยดน้ำตาหยดลงมา หลังจากที่เธอกลั้นมาได้ไม่นานหญิงสาวล้วนผ่านสงครามมามากมาย แต่ไม่เคยเลยที่จะผ่านสมรภูมินั้นโดยไร้ร่องรอยของความเจ็บปวด
      

         “บทเรียนชีวิต ไม่เคยทำร้ายใครให้ถึงตาย”


         “แล้วข้าต้องใช้ความอดทนมากแค่ไหนกัน ข้าต้องอยู่ในสงครามนี้ถึงเมื่อไหร่กัน ในเมื่อข้าหาทางที่จะชนะไม่เจอเลย” หญิงเอ่ยวาจาอย่างหมดหวัง เธออยากหนีจากคนเหล่านี้ไปให้พ้นๆเหลือเกิน

         “ข้าคิดว่า สงครามที่เจ้ากำลังเผชิญ เจ้าไม่จำเป็นต้องไปคิดถึงเรื่องแพ้หรือชนะหรอก เพราะมันอาจจะไม่มีด้วยซ้ำ” หญิงสาวเลิกคิ้ว เธอไม่เข้าใจ ทำไมสงครามจะไม่มีคำว่าแพ้กับชนะกันล่ะ
      

         “…” เธอตัดสินใจไม่พูดอะไรต่อ เธอเลือกที่จะหยุดฟังเจ้าของเสียงนิรนามแจ้งให้เธอคลายสงสัย


          “หากเจ้าเอาแต่คิดเรื่องชนะ สักวันจะเป็นเจ้าเองที่แพ้ อีกอย่างข้าอยากให้เจ้าลองไตร่ตรองว่าสงครามที่ผ่านมาเจ้าเจ็บปวดหรือไม่” เขาถามคำถามที่ทำให้เธอนึกถึงอดีตที่เลวร้าย…


         สงครามในอดีตที่ผ่านมา ล้วนแล้วแต่มีความเจ็บปวดมามากมาย ความเจ็บปวดเหล่านี้เป็นบทเรียนให้เธอเสมอ มันอาจจะแปลกที่เธอถูกคนอื่ืนทำร้ายมามากมาย เธอเข้าใจความรู้สึกนั้นดี ว่าคนที่โดนจิตใจมันย่ำแย่แค่ไหน…

         “เจ็บสิท่าน เจ็บมากมายเหลือเกิน เจ็บจนคิดว่าจะเยียวยาไม่ได้แล้ว”

         “แล้วสงครามที่ผ่านมา มันทำให้เจ้าตายรึเปล่า”

         “ไม่เลย…” ใช่สิ สงครามที่ผ่านมา ถึงความรู้สึกเธอจะแหลกสลายเท่าไหร่ แต่มันไม่เคยฆ่าเธอให้ตาย

         “หากเจ้ารู้อย่างงั้นแล้ว เจ้าอย่ากังวลไปเลย ถึงตอนนี้เจ้าจะทรมานมากแค่ไหน แต่มันจะทำให้เจ้าเข้มแข็งในอนาคตแน่นอน” เขาพูดถูก ฉะนั้นเราอย่ากลัวสงครามนี้เลย ในความคิดเรามักจะจินตนาการความกลัวให้มันใหญ่กว่าที่มันมีเสมอ

         “อย่างน้อยมันก็ดี ที่ข้าอยู่ในสงครามที่มีท่านอยู่ข้างๆในตอนนี้ ขอบคุณเหลือเกิน” อย่างน้อยตอนนี้เธอก็มีคนที่รักและหวังดีกับเธอขนาดนี้

         “ข้าจะอยู่ข้างเจ้า เพราะตัวเจ้าเอง หากสงครามผ่านไป ก็เหมือนฟ้าหลังฝน เจ้าต้องเจออะไรในชีวิตแน่นอน จงอย่าถอดใจและยอมแพ้ในโชคชะตา”

         “ข้าสัญญา” เธอรับปากที่จะจดจำสิ่งเหล่านี้ไว้ หลังจากนี้เธอจะใช้ชีวิตของเธอให้ดี

         “หากเจ้ารักตัวเอง ข้าก็สามารถอยู่ข้างๆเจ้าแทนความโดดเดี่ยว เพราะถ้าเจ้าไม่รักตัวเอง ความเป็นข้าถึงจะหายไป เพราะข้านั้นก็เป็นส่วนหนึ่งของเจ้า” 






    -----------------------------------------------------------------------------------------------
    เป็นเรื่องสั้นงานเก่ามากๆของเราแล้วค่ะ อาจจะพล็อตไม่ได้แน่นมาก แต่เป็นงานแรกที่เรากลับมาเขียนในตอนนั้น เป็น one night miracle ที่เราพอใจที่สุดแล้วค่ะ เราเลยอยากเอามาลงเพื่อเก็บไว้ในเว็บ และ ขอบคุณสำหรับคนที่หลงเข้ามาอ่านนะคะ

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in