สรุปสั้นๆ กับงานเสวนาคนรุ่นใหม่ในพื้นที่วรรณกรรมไทย ของทางแพรวสำนักพิมพ์ จัดขึ้นที่ร้าน A Book With No Name ที่มีคุณอาทิตย์ ธรรมชาติ เป็นผู้ดำเนินงานเสวนา และได้คุณจิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท (ร เรือในมหาสมุท), คุณปราปต์, คุณแพน พงศ์พนธาร และคุณนฤพนธ์ สุดสวาท มาร่วมเสวนา

- เด็กไทยยังคงอ่านหนังสือ ขึ้นอยู่กับว่าเขาเลือกอ่านอะไร
- เด็กมักเลือกอ่านในสิ่งที่เหมาะสมกับเขาเอง
- การอ่านหนังสือแต่ละประเภทมันต้องเป็นไปตามวัย
- ทุกอย่างคือวรรณกรรม ไม่ว่าจะอยู่ในหนังสือ ในเว็บ ในเด็กดี หรือในจอยลดาก็ตาม
- งานเขียนของนักเขียนไทยที่ดีๆ ก็ยังมีอีกเยอะ แต่คนไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญ
- อาชีพบรรณาธิการยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น แม้ในปัจจุบันนักเขียนจะสามารถทำหนังสือแบบ Print-on-Demand ได้แล้วก็ตาม ยิ่งมีบรรณาธิการเก่งเท่าไหร่ ก็จะทำให้เรายิ่งเก่งมากขึ้นเท่านั้น
- อาชีพนักเขียนในประเทศไทยยังไม่ใช่อาชีพที่มั่นคง
- เมื่อมีชื่อเสียงแล้วก็ต้องผลิตงานออกมาเรื่อยๆ เพราะคนอ่านพร้อมที่จะลืมเราตลอดเวลา
- สังคมสอนเราว่า “ความฝันกินไม่ได้ เราต้องกินข้าว!”
- เราควรเลือกสำนักพิมพ์ที่เราสามารถวางใจได้ว่าเขามีทีมการตลาดที่ดี เพื่อให้ผลงานที่เราตั้งใจทำออกมานั้นขายออกได้
- หนังสือที่ดีควรมากับการประชาสัมพันธ์ที่ดี เพราะหนังสือดีใช่ว่าจะขายตัวเองได้ หนังสือเดี๋ยวนี้มันมาไว ไปไว ถ้าทีมโปรโมทไม่ดีก็จบ
- นักเขียนก็อยากที่จะได้สำนักพิมพ์ที่โปรโมทงานให้เรา ส่วนสำนักพิมพ์ก็อยากที่จะได้นักเขียนที่ช่วยกันโปรโมทงาน เพื่อให้ผลงานนั้นขายออก
- ถ้าคุณอยากที่จะก้าวหน้า คุณต้องขายตัว ต้อง show your work เพื่อให้อีกฝ่ายซื้อผลงานของคุณไป
- ถามตัวเองให้ได้ว่าเขียนหนังสือเพื่ออะไร
- การเป็นนักเขียนนั้น นอกจากการได้รับคำชมแล้ว ก็ต้องเปิดใจรับคำติให้ได้ และพร้อมนำไปปรับปรุง เพื่อให้ผลงานของตัวเองดีขึ้น แต่อย่าไปสนใจคำติที่มีแต่ความอคติ
- นักเขียนไม่จำเป็นต้องเป็นกระบอกเสียงทางการเมือง
- เยาวชนไม่ได้ต้องการอ่านหนังสือแล้วถูกสั่งสอนเกี่ยวกับการเมือง
- นักเขียนแค่จุดประกายความคิด แล้วให้คนอ่านเก็บกลับไปคิดต่อ
- ถ้าเป็นไปได้ การลดต้นทุนของกระดาษ จะทำให้ลดต้นทุนของหนังสือลงได้ และทำให้มีคนซื้อหนังสือเพิ่มขึ้น

วันนี้เป็นงานเสวนาที่สนุกมากๆ ไหลไปเรื่อย แต่ประเด็นดี บรรยากาศเป็นกันเอง แล้วไปกำลังใจกลับมาเยอะมากๆ ถ้าจัดอีกก็จะตามไป

ขอบคุณเหล่านักเขียนทั้ง 4 ท่าน แพรวสำนักพิมพ์ และร้าน A BOOK with NO NAME มากๆ ด้วยสำหรับงานเสวนาในครั้งนี้