เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
GB’s devilpoophea21697772
โพสต์นี้มีเนื้อหาที่อาจไม่เหมาะสมกับเยาวชน special; vanilla
  • คำเตือน: เนื้อหาตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลักนะคะ 'ย้ำ' ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก เป็นเพียงจินตนาการของคนใจบาปอยากมีกรรมที่คิดเองว่าน้องโตกันแล้ว เลยอยากรู้อยากลองได้y.y



    นรก: อิรัชชัยมาเส่ะ

    .

    .

    .







    "พี่เฟอร์จะบอกความลับให้อย่างนึงนะครับ"



    "ปีศาจชอบกลิ่นวานิลลา "



    ชอบกลิ่นวานิลลา



    วานิลลา

    .

    .

    .


    แม่งเอ้ย เอาวะ



    ผมตัดสินใจหยิบขวดโลชั่นน้ำหอมของผู้หญิงตรงหน้าที่มีตัวอักษรสีหวานแหววเขียนไว้ว่า “Vanilla Sky” โชว์หลาอยู่ที่กลางขวดมาเปิดออกพร้อมทั้งบีบเนื้อครีมนั่นลงบนมือและชะโลมไปทั่วแขนทั้งสองข้างรวมไปถึงลำคอของผมด้วย


    อ่า กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ


    ฮือ


    ใช่ ผมต้องเสียสติไปแล้วแหละครับทุกคน ในเมื่อผมกำลังจะทำตามคำแนะนำที่แสนจะอันตรายจากไอพี่เฟอร์นั่นกับปีศาจหน้าหมูอู๊ดอย่างเบบี้ ที่ตอนนี้น่าจะยังคงนอนเคี้ยวเยลลี่อยู่บนเตียงโดยไม่รับรู้ถึงภัยร้ายที่กำลังยืนจับลูกบิดประตูแน่นด้วยความประหม่า


    มาขนาดนี้ถอยไม่ได้แล้วนะกัสเบล


    แล้วมือมันจะสั่นอะไรขนาดนั้นอะ!!!!!!!!

    .

    .


    แกร๊ก


    ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนตัวเองก็ต้องเจอกับสิ่งมีชีวิตก้อนสีแดงๆที่กำลังทำท่าปั่นจักรยานกลางอากาศพร้อมกับหันหน้ามายิ้มทักทายให้ผมอย่างเคยชิน

    .

    .



    “กะเบนดูสิ เบบี้แง๊นได้”



    “....”



    “แง๊นนนนนนนนนนนนนนนน”




    อืม


    บอกได้คำเดียวเลยว่า


    เจอแบบนี้เข้าไปวานิลลากูบูดทันที


    .


    “ตะกวดทำไมไม่มาแง๊นด้วยกับเบบี้บนเตียง”

    “จะเล่นเกมอีดแล้วหรอ”




    “เออ”



    “งั้นเบบี้เล่นด้วย”



    “ไม่ต้องเลย ห้ามลุ—“



    ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยค ไออู๊ดก็วิ่งมากระโดดนั่งทับผมอย่างแรงที่เก้าอี้หน้าคอมจนขาแทบหัก ให้ตายเถอะตัวหนักเป็นบ้า แต่เจ้าตัวคงลืมไปแล้วว่าถึงเราจะนั่งเล่นเกมด้วยบ่อยแค่ไหน ก็ไม่เคยเลยที่ตัวของเราจะแนบชิดกันมากได้เท่าครั้งนี้


    ใช่ครับ เบบี้กำลังนั่งอยู่บนตักของผม


    เอาล่ะ ใจไม่ดีแล้วนะ

    .

    .



    “กะเบน”



    “อะไร”



    “เบบี้ได้กลิ่นหอมคุณแม่”



    “...”



    “กะเบนได้กลิ่นมั้ย”



    “....”



    “ไม่”



    “......”



    “หรอ”

    “แต่ว่ากลิ่นมันมาจากตรงนี้”




    “.....”



    พูดจบคนตรงหน้าก็หันมาและเคลื่อนตัวลงใช้จมูกนุ่มนิ่มลากไปตามลำคอของผมพร้อมทั้งสูดดมกลิ่นหอมจางๆ เหมือนกับผึ้งตัวเล็กที่กำลังอยากจะลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้แสนสวยที่ส่งกลิ่นกระตุ้นความมัวเมาให้ตลอดเวลา





    “หอมจังกะเบน”



    “......”



    “ทำไมมันหอมแบบนี้นะ”



    “.....”



    “เธอ พอแล้ว”




    “แต่เบบี้อยาดดมอีด”




    “กะเบนอย่าขี้งดได้มั้ย”




    “กัสไม่ได้งก”

    “แต่ถ้าไม่หยุดมันจะแย่เอานะ”




    “งน”




    “เห้อ”

    “ลุกออกไปได้แล้วเบบี้”




    “......”




    “ยังอีก”



    “กะเบน”



    “อะไร”



    “พูดต่อไปเรื่อยๆได้มั้ย”



    “.....”



    “เบบี้ว่า”



    “.....”



    “เบบี้ได้กลิ่นหอมจาดตรงนี้ขอมกะเบน”



    “......”



    “ที่ปาก”



    “......”

    .


    อ่า นั่นคงจะเป็นเพราะกลิ่นลิปมันที่ผมทามาก่อนหน้านี้แน่ๆ


    แล้วก็นะ


    vanilla lip balm สะด้วยสิ


    .


    “กะเบน”

    “พูดต่อเดี๋ยวนี้เลย”




    “.....”




    “เบบี้บอดให้พูดไม่ใช่ให้ยิ้มนะ”




    “เธออย่าตีกัสดิ”

    “เจ็บ”




    “ก็กะเบนดื้อ”

    “เบบี้จะดม”



    “อู๊ด”



    “อะระ”



    “เธอชอบกลิ่นนี้หรอ”



    “อือชอบมาด”

    “หอมฉุย”



    “แล้วรู้รึเปล่าว่ามันมีรสด้วยนะ”



    “จะบ้าหรอกะเบน”

    “กลิ่นหอมไม่มีรสชาติ”



    “มีสิ”



    “.......”



    “เธออยากลองกินมั้ย”



    “.....”



    “วานิลลาน่ะ”

    .


    ผมมองคนตัวเล็กที่กำลังทำหน้าครุ่นคิดอย่างใจเย็น ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆพยักหน้าเพื่อเป็นคำตอบ พร้อมทั้งยังใช้นิ้วชี้อ้วนๆมาจิ้มที่คิ้วผมเล่นอย่างสนุกสนาน


    โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าต่อจากนี้กำลังจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง


    หึ เชิญสบายใจไปก่อนเถอะอู๊ด


    .


    “แต่มีข้อแม้นะ”



    “อะไรหรอ”



    “ถ้าอยากกินให้อร่อย”

    “เธอต้องทำตามที่กัสบอก”



    “.......”



    “ตกลงมั้ย”



    “โอเคเง”

    “แล้วเบบี้กินได้ยัง”





    .

    .

    .




    “อืออ..อร่อย”


    เสียงหวานเอ่ยขึ้นจากคนตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังวุ่นวายอยู่กับการใช้ลิ้นนุ่มเลียริมฝีปากล่างของผมขึ้นลงไปมา สลับกับการดูดเม้มพร้อมทั้งใช้ฟันขบเบาๆ ราวกับเด็กน้อยที่รู้สึกหมั่นเขี้ยวเวลาที่ฟันพึ่งขึ้นใหม่


    .


    “เธออยากอร่อยมากกว่านี้มั้ย”




    “อยาด...กะเบน อืม.. อย่าเลียปากเบบี้... มันเปื้อนน้ำลาย”




    “กัสอยากกินบ้างไม่ได้หรอ”




    “ไม่ได้”




    “.....”




    “เดี๋ยวมันหมด ห้ามแย่ม”




    “.....”




    “แล้วเบบี้ต้อมกินยันไงต่อ”




    “ง่ายมาก”

    “เธอลองแลบลิ้นออกมาดิ”





    “แบร่”




    “เห้อ ไม่ใช่แบบนี้”




    “แล้วทำยันไง”




    “ดูนะ”




    พูดจบผมก็ใช้มืออีกข้างที่ว่างบีบเข้าที่แก้มอ้วนเบาๆจนปากบางเปิดออก ก่อนที่จะส่งลิ้นเข้าไปสัมผัสกับอวัยวะเดียวกันที่ทั้งนุ่มและเปียกชื้น เราหยอกล้อกันไปมาตามประสาเด็กน้อยที่อยากรู้อยากลองไปเรื่อย จนเกิดเสียงเฉอะแฉะดังออกมาเป็นระยะจากการกินกลิ่นวานิลลาของพวกเรา แต่ก็ดูเหมือนว่าคุณปีศาจตัวอ้วนจะทำได้แค่นั่งเผยอปากให้ผมเป็นฝ่ายไล่กินลิ้นนุ่มนั่นสะมากกว่า


    แน่ล่ะ จูบเบาอย่างกับแมวเลีย


    จะไปตามใครเขาทันห้ะ





    “อือ..”



    เบบี้ส่งเสียงอื้ออึงออกมาในยามที่ผมผละออกจากริมฝีปากของเจ้าตัว และเปลี่ยนมาเลียน้ำใสๆที่เยิ้มอยู่ตรงมุมปากนั่นเบาๆ ทำให้คนตรงหน้าถึงกับใช้มือกำคอเสื้อของผมไว้แน่นเพราะตั้งรับกับสัมผัสที่เปลี่ยนไปมาไม่ทัน จนผมต้องคว้ามือเล็กอีกข้างมาประสานไว้ เพื่อปลอบใจเด็กน้อยที่ยังคงถูกผมเลียขอบปากไม่หยุด




    “กะเบน..”




    “หื้ม”




    “อร่อยมั้ย”




    “.......”




    “แย่มเบบี้กินหมดแล้ว”



    จิงด้วยแฮะ




    “ทำไม”

    “โกรธกัสหรอ”



    ผมถามไปยิ้มไปพร้อมทั้งกดจูบที่คางมนของเบบี้ค้างไว้ ก่อนจะรู้สึกถึงแรงโยกหัวขึ้นลงงึกงักจากเจ้าตัวที่กำลังพยักหน้าเพื่อตอบคำถามของผม




    “ถ้างั้น”




    “....”




    “กัสจะไถ่โทษให้เอามั้ย”




    “ยันไงหรอ”




    “ก็”

    “ทำให้เธอรู้สึกดีไง”




    “.....”




    “ดีมั้ยเบบี้”


    .

    .

    .



    กึก กึก กึก



    เสียงพนักพิงเก้าอี้ที่กำลังกระแทกกับขอบโต๊ะคอมดังขึ้นเป็นจังหวะในตอนที่ผมกำลังใช้มือชักรูดแกนกายขนาดเล็กของเบบี้เร็วขึ้น จนทำให้เก้าอี้ที่เรานั่งกันอยู่ตอนนี้สั่นไปมาอย่างช่วยไม่ได้ และด้วยสภาพที่คนตัวเล็กกำลังนั่งหันหลังให้พร้อมทั้งอ้าขาออกโดยวางปลายเท้าไว้ที่ต้นขาของผม แถมยังมีกางเกงในลายอีโมจิหน้ากวนประสาทห้อยอยู่ตรงข้อเท้าเป็นพร้อบประกอบด้วยแล้วนั้น


    ขอบอกเลยว่า


    สุดยอดมาก





    “กะ..เบน...อ่ะอื้อ”




    “ว่าไง”




    “เบบี้...อยาดหอม..กลิ่นหอมอีด..อ๊ะ”




    “อยากให้กัสใส่เพิ่มหรอ”




    “อื้อ ... ”




    “ได้สิ”



    ผมหยุดการกระทำลามกทั้งหมดไว้และเอื้อมหยิบขวดโลชั่นน้ำหอม’กลิ่นวานิลลา’ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะคอมมาบีบใส่มือ ก่อนที่จะทาลงบนแกนกายของคนตรงหน้าเบาๆพร้อมทั้งเริ่มชักรูดขึ้นลงไปมาอีกครั้ง



    “กะเบน...อื้อ อึก”




    “.....”




    “หอม อื้อ..หอมจัน...อ่า”




    “......”




    ให้ตายเถอะ ผมจะทนไม่ไหวอยู่แล้วนะ ยิ่งผมก้มลงไปมองเจ้าตัวที่กำลังหลับตาพริ้มเอาหัวกลมๆพิงที่อกของผมไว้ ใบหน้าขาวขึ้นสีเล็กน้อยรวมถึงเหงื่อที่ซึมออกมา ไหนจะเสียงหวานที่เอ่ยชอบใจกับการปรนเปรออันแสนหอมนี้อีก



    เขาไม่รู้เลยหรือไงว่าผมก็คลั่งเป็น


    ไม่ใช่พี่เนคนเดียวหรอกนะที่เลี้ยงสัตว์ร้ายไว้ในตัวน่ะ


    เห้อ



    .



    “กะ..เบน อือ เบบี้... เบบี้ปวดท้อง ...อ่า”

    “หยุดนะ..หยุดก่อน...อ้ะ”




    “...”




    ผมเลื่อนมือมากุมไว้ที่ส่วนปลายและเร่งจังหวะชักรูดให้เร็วขึ้น นั่นยิ่งทำให้เบบี้ดิ้นตัวไปมาอยู่บนตักของผมอย่างทุรนทุรายอยากที่จะปลดปล่อย จนผมต้องใช้มืออีกข้างสอดไว้ใต้ขาเล็กเพื่อที่จะประคองคนตรงหน้าให้อยู่กับที่ ไม่อย่างนั้นพวกเราอาจจะกลิ้งตกจากเก้าอี้กันหมดเพราะอาการเสียวท้องของเจ้าตัว






    “อือ ... ไม่เอา...เบบี้..ไม่เอา อึก..แล้ว”

    “ปล่อย..นะ”

    “ฮือ กะเบนช่วยด้วย..ฮึก”





    คนตัวเล็กโวยวายพร้อมทั้งเอี้ยวตัวมากอดคอผมไว้แน่นและยังหลับตาปี๋ด้วยความกลัว จนทำให้น้ำตาเม็ดใสไหลออกมาเล็กน้อยเปรอะเปื้อนอยู่ที่หางตาทั้งสองข้าง ผมอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปคลอเคลียอยู่กับใบหน้าของคนตัวเล็กเพื่อเป็นการปลอบประโลมความรู้สึกหวาดเสียวนี้




    “จูบกันนะ”

    “โอเคมั้ย”



    “ฮึก...อ่ะ โอเค...อื้อ”




    ไม่รอให้เบบี้พูดจบประโยคผมก็ประกบปากลงไปจูบคนตรงหน้าทันที โดยที่ไม่ได้สอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวพันใดๆเป็นเพียงแค่กดค้างไว้ พร้อมทั้งเร่งจังหวะการปรนเปรอที่แกนกายให้เร็วขึ้นจนเบบี้กระตุกครั้งสุดท้ายและปลดปล่อยน้ำสีขาวออกมาเต็มมือของผม คนตัวเล็กส่งเสียงครางลั่นในลำคอทั้งๆที่ปากของเรายังเชื่อมกันอยู่

    ผมผละออกจากริมฝีปากบางและเลื่อนตัวมาจูบซับที่แก้มยุ้ยของเบบี้อย่างเอ็นดู






    “แฮ่ก...กะเบน”




    “ว่าไง”




    “น้ำอะไร..แฮ่ก เปื้อนมือกะเบน”

    “ใช่น้ำขอมกลิ่นหอมมั้ย”




    “....”




    “เบบี้..กินได้มั้ย”




    “....”




    “ขอชิมนิดเดียวก็ไ—“





    “พอ”

    “มันจะบาปไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว”




    “งน”




    “เธอลุกหน่อย”

    “กัสจะไปห้องน้ำ”




    “ลุดไม่ขึ้น”

    “ตะคริวกินขาเบบี้”

    “เพราะกะเบนนั่นแหละ ให้นั่มแบบนี้ทำไมก็ไม่รู้”




    “.....”




    “กะเบน”




    “อะไร”




    “ใส่กานเกนในให้หน่อย”

    “เบบี้ขี้เกียด”




    “ไม่”

    “ลุกไปใส่เอง”




    “ก็ด้ะ”



    พูดจบเจ้าตัวเล็กก็ลุกขึ้นยืนหยิบกางเกงในที่ยังคงห้อยติดอยู่ที่ข้อเท้าเลื่อนขึ้นมาใส่ต่อหน้าผม และกระโดดลงบนเตียงพร้อมทั้งหยิบเยลลี่ที่กินค้างไว้ก่อนหน้านี้เข้าปากอย่างสบายใจ ทำเหมือนกับว่ากิจกรรมวานิลลาพาเพลินเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ



    แม่งเอ้ย


    กูทนมาถึงขนาดนี้ได้ไงวะเนี่ย


    ฝากไว้ก่อนเถอะ


    คราวหน้าไม่รอดแน่ๆไออู๊ด



    .

    .

    .



    “กะเบน”




    “อะไร”




    “จะไปไหนหรอ"




    “ห้องน้ำ”




    “ไปทำอะไรหรอ”




    “ไม่ต้องถามหน่า”

    “รีบกินรีบนอนไปเลย”




    “อื้อได้”

    “แต่ว่ากะเบนก็ต้อมรีบมานะ”




    “....”



    “เบบี้กับจุ๊มะ01จะนอนเล่นรอ”

    “แล้วก็กินยาด้วย”

    “รับรอมว่าหายป่วยแน่นอน”




    “....”



    ชิบหายละลืมไปเลย นี่ผมโดนคดีพรากผู้เยาว์ไม่พอยังจะรังแกคนป่วยอีกหรอเนี่ย เป็นเพราะมึงเลยไอเหี้ยพี่เฟ่อ มาทำให้กูอยากรู้ทำไมว่าปีศาจแพ้วานิลลาจริงหรือเปล่า




    แล้วเป็นไงล่ะ


    คืนนี้สงสัยต้องวิ่งเข้าห้องน้ำไม่ต่ำกว่า 3 รอบเป็นแน่


    อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา





    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .



    ไรท์เตอร์ใจบาป : ฮืออออออออออออออออออ ทุกคนๆๆๆๆๆ หยุดนะ อย่าพูดอะไร เอาเป็นว่า5555 ตอนนี้ก็เป็นเพียงสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกคู่ขนานแระกันเน้อ ความจริงในเนื้อเรื่องก็แค่นอนกอดกันกุ๊กกิ๊กที่หัวจัย ไม่มีอะไรมากกว่านี้นะ!แง้งเอ๋ง









Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in