เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ความทรงจำ (ในวงเล็บ)Nirawath Narod
ความทรงจำ (ในวงเล็บ)
  • กรอบรูปตก (เป็นกรอบไม้สีน้ำตาลผิวขัดมันเรียบ ภายในบรรจุภาพขาวดำ และวินาทีเดียวกันนั้นเองเมื่อสายตาของเขาได้เหลือบมองไปยังภาพนั้น กาลเวลาราวกับจะช้าลง กรอบรูปค่อยๆ ตกลงอย่างช้าๆ แสงแดดที่ส่องลอดผ้าม่านเข้ามาคล้ายกับว่าส่ายไหวเป็นระรอกเมื่อภาพๆ นั้นเคลื่อนที่ผ่านไป เคยมีใครบางคนเขียนไว้ว่า ความทรงจำบางอย่างในอดีตเราไม่ควรรื้อค้น หรือเฉียดเข้าไปใกล้ ควรปล่อยให้มันดำรงอยู่ในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ตราบจนเราตายจากไป และเขาเพิ่งจะเข้าใจในวินาทีนั้นที่เขาได้เห็นภาพในอดีต ความสุขที่เคยเกิดขึ้น และแน่นอนมันยังคงเป็นความสุขของวันวาน เพียงแต่มันคือบาดแผลแห่งความรวดร้าวในปัจจุบัน สายลมอ่อนที่พัดมาวูบหนึ่งคล้ายกับว่าจะพัดกิ่งก้านของต้นปีบในภาพให้ส่ายไหว สลัดความเท่าทึมออกไป กลายเป็นภาพจำที่มีสีสัน ในห้วงขณะหนึ่งดอกปีบสีขาวบริสุทธิ์หล่นลงมาใส่ใบหน้าอันระเรื่อไปด้วยรอยยิ้มของเขา

    อยู่กันแบบนี้ไปอีกนานๆ นะ / เขาจดจำทุกถ้อยคำที่เอื้อนเอ่ย จดจำทุกคำตอบของคำถาม ทุกการถามที่เขาตอบ ความรักนั้นเป็นสิ่งพิสดาร มันทำให้จิตใจของเขาในวัยนั้นฮึกเหิม และเหงาหงอยได้ในเวลาเดียวกัน มันทำให้เขากล้าหาญ และหวาดกลัว มีความสุขได้สูงสุดพอๆ กับความทุกข์ เขาจดจำดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกายที่มองเขาได้ เพียงแต่บางความรักที่เกิดขึ้นนั้นถูกจับตามองด้วยมาตราทางสังคมที่กดขี่ บีบคั้น และบางครั้งเขาเองรู้สึกเหมือนถูกเอาปืนมาจ่อหัวให้เลือก หรือไม่เลือกทางใดทางหนึ่ง และความรักในครั้งนี้ เขาถูกบังคับให้ต้องหยุดลงด้วยมาตราของครอบครัวของตัวเอง 

    ฉันไม่เคยบังคับขืนใจอะไรแกเลย แต่ครั้งนี้ฉันขอเถอะ แกเป็นลูกผู้ชายต้องสืบสกุล แกจะคบใครฉันไม่เคยว่า แต่แกต้องไว้หน้าบรรพบุรุษแกบ้าง ไว้หน้าเตี่ยแกบ้าง แกคบหาผู้ชายด้วยกันแบบนี้วิญญาณบรรพบุรุษเราคงไม่สงบสุขแน่ 

     หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นแม่กับพ่อก็รีบจัดพิธีมั่นหมายกับลูกสาวเถ้าแก่ร้านขายยาจีนในเวลาไม่กี่เดือน คนที่สังคมบอกว่าเหมาะสม และคู่ควรกับเขาที่สุด ในคืนที่ความคับข้องใจ ความเคียดแค้นในโชคชะตา นำมาซึ่งความกล้าในการหยิบมีดสีเงิน ที่สะท้อนแสงจันทร์แวววาวสวยงามขึ้นมาในความมืด มือหนึ่งกำแน่นจนเส้นเอ็นหดเกร็ง เส้นเลือดปูดโปนออกมาอย่างเห็นได้ชัด มือหนึ่งกำด้ามไม้ของเพชฌฆาตด้วยความมั่นคง นิ้วซีดขาวด้วยแรงบีบ ใบมีดค่อยๆ วางทาบลงบนตำแห่งที่เหมาะสมที่สุดในมาตรวัดของเขา ความเย็นเฉียบแล่นจากใบมีดคมกริบสู่จิตใจที่แน่วแน่ 

    อยู่กันแบบนี้ไปอีกนานๆ นะ / พูดจาเป็นละครน้ำเน่าไปได้ / จะว่าน้ำเน่าก็ได้ ก็มันรู้สึกแบบนี้จริงๆ กลัววันหนึ่งจะต้องจากกัน นายก็รู้บ้านเราเป็นยังไง ขืนรู้ว่าคบกันมีหวังพ่อแม่ได้เล่นเราตายแน่ / ถ้าวันหนึ่งเราจะจากกันจริงๆ มันก็เป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นอย่างธรรมดาๆ ถ้าเรารับรู้ว่าเรายังรู้สึกถึงกัน เราก็ไม่ได้จากกันไปไหน 

    เพชฌฆาตสีเงินวาวค่อยๆ ร่วงหล่นจากมือสู่พื้น เวลานี้มันกลายเป็นเพียงเครื่องมือที่ทำให้เขารู้ว่าเหตุการณ์ที่คนเราจากลากันนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เขาก็ผ่านมันมาด้วยความเข้มแข็งที่สุด 

    หลังจากหมั้นหมายไม่กี่เดือน งานแต่งตามธรรมเนียมจีนก็ถูกจัดขึ้น ญาติทั้งสองฝ่ายต่างมาร่วมยินดี เจ้าสาวของเขางดงามที่สุดในงานวันนั้น เธอเป็นสาวสวยที่เห็นได้ชัดในแววตาว่าตกอยู่ในสถานะไม่ต่างจากเขา ทั้งสองเข้าอกเข้าใจซึ่งกัน หากชีวิตต่อจากนี้ไปคือการทดแทนบุญคุณพ่อแม่ เขาและเธอได้ทำมันอย่างสมบูรณ์ที่สุดแล้ว 

    เขาทั้งสองอยู่กินกันด้วยความเข้าใจ พ่อยกกิจการค้าขายอุปกรณ์ก่อสร้างบางส่วนให้เขาดูและ เธอทำหน้าที่เป็นพนักงานบัญชีตามที่ได้ศึกษามา คอยบริหารการเงินเป็นอย่างดี หลังจากแต่งงานได้ปีเศษ เธอก็ตั้งครรภ์ 

    ลูกคนแรกเป็นเด็กชายน่ารักน่าชัง การมีลูกนี้เองที่ทำให้เขาและเธอมีความรู้สึกบางอย่างที่ค่อยๆ บ่มเพาะขึ้นด้วยหัวใจ ชีวิตหลังมีลูกด้วยกันเจือไปด้วยสีสันแห่งความสุขของชีวิต เขาทำงานหนักขึ้นด้วยความรู้สึกของการเป็นพ่อคนที่จะต้องมีมรดกไว้ให้ลูก เธอคอยปรนนิบัติเขาและเลี้ยงลูกด้วยความทะนุถนอม เวลาที่ผ่านไปในแต่ละวันเขาใช้ไปกับเจ้าตัวน้อย หากมีใครสักคนมองเข้ามาคงเห็นแวดตาแห่งความสุขของครอบครัวนี้ หากใครสักคนเห็นการเปลี่ยนแปลงของเขาคงสังเกตว่าไม่กี่ปีผ่านไปเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หากใครสักคนเฝ้าดูอยู่ คงมองด้วยความอิ่มใจ 

    และเวลาก็ผ่านไปจนกระทั้งเจ้าตัวเล็กเข้าเรียน และเป็นช่วงที่เธอรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในร่างกาย พวกเขากำลังจะมีลูกอีกหนึ่งคน
  • เป็นน้องผู้หญิงนะคะ / คุณหมอผู้รับฝากครรภ์บอกด้วยรอยยิ้ม เขาทั้งสองรู้สึกดีใจที่จะได้ลูกสาว เธอดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ของวันไปกับการถักร้อยเสื้อไหมพรมตัวน้อยสีสันสดใส รูปเด็กน่ารักๆ ถูกติดไว้ทั่วบ้าน แม้กระทั่งรอบๆ บ้านเธอยังปลูกดอกมะลิซ้อนไว้หลายต้นเพื่อให้บ้านดูมีชีวิตชีวา เขามองเธอด้วยความขบขัน และตามใจทุกอย่างที่เธอต้องการ จนกระทั่งเธอให้กำเนิดเด็กผู้หญิงตัวน้อยน่ารักออกมา 

    วันนั้นเขาไปโรงพยาบาลเพื่อซื้ออาหารไปให้เธอ เมื่อมาถึงหน้าห้องเขามองลอดผ่านกระจกใสของประตูห้องพักฟื้นเข้าไป คุณหมอในชุดกราวด์สีขาวสามท่านยืนล้อมเตียงเธอ เขารีบเปิดประตูเข้าไปทั้งหมดหันมามองเขา เธอมีดวงตาที่แดงก่ำในขณะที่อุ้มเจ้าตัวน้อยในอ้อมอก 

    บางอย่างที่หมอบอกคล้ายกับว่าลูกสาวของพวกเขามีความผิดปกติทางการมองเห็น เป็นความผิดปกติแต่กำเนิด และไม่สามารถตรวจพบได้ขณะอยู่ในครรภ์ ลูกสาวของพวกเขาอาจจะต้องตาบอดตลอดชีวิต หากไม่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา ซึ่งจะได้รับจากผู้บริจาคเท่านั้น ต้องรออีกนานแค่ไหนครับหมอถึงจะมีคนบริจาค / หมอไม่สามารถบอกได้ในเรื่องนี้นะคะ เพราะการบริจาคตาถือว่ามีน้อยมาก แต่ความต้องการสูง ยังไงหมอจะใส่รายชื่อน้องเข้าไปในบัญชีผู้ขอรับบริจาคนะคะ 

    เมื่อเธออกจากโรงพยาบาล ความสุขทั้งมวลดูเหมือนจะซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้าอมทุกข์นั้น ต้นมะลิที่ปลูกไว้แม้เขาจะคอยดูแลมันอย่างดี แต่เหมือนความเศร้าโศกจากเธอส่งผลให้มะลิเหล่านั้นแห้งเฉา เป็นเวลานานกว่าเธอจะกลับมายิ้มได้อีกครั้ง ซึ่งก็นานพอที่ลูกสาวของพวกเขาจะอายุเกือบๆ สองปี 

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาจึงไปรับ ปลายสายเป็นคุณหมอที่ทำคลอดลูกสาวของเขา บอกให้เขาไปพบที่โรงพยาบาล 

    ตอนนี้มีผู้บริจาคดวงตาเข้ามาแล้วนะคะอยากจะนัดคุณพ่อให้พาน้องมาทดสอบความเข้ากันได้ของผู้ให้กับผู้รับ / อะไรนะครับหมอ ผมฟังไม่ผิดใช่ไหม? / หากผลการทดสอบของน้องกับผู้ให้เข้ากันได้หมอก็จะรีบทำการผ่าตัดให้ทันทีเลยค่ะ / ครับหมอ ขอบคุณหมอมากครับ / ถือว่าน้องโชคดีนะคะ ปกติการบริจาคดวงตาถือว่ามีน้อยมาก แต่ผู้บริจาครายนี้ยื่นความจำนงให้กับลูกของคุณพ่อโดยตรง / ใครหรือครับคุณหมอ / ตามปกติเราจะไม่สามารถบอกชื่อผู้ให้ได้นะคะ และครั้งนี้ผู้ให้เองก็ขอปกปิดชื่อเช่นกัน / ครับ ยังไงก็ต้องขอบคุณคุณหมอ และผู้ใจบุญคนนั้นด้วยนะครับ 

    เขากลับบ้านและแจ้งข่าวนี้ให้เธอรู้ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นน้ำตาแห่งความดีใจของเธอ 

    วันถัดมาเขารีบพาลูกสาวไปพบหมอ เพื่อทำการตรวจ และอาจจะเป็นโชคดีของเขา หรืออำนาจใดก็ไม่ทราบได้ที่ผู้ให้ท่านนี้กับลูกของเขาเข้ากันได้ดี สามารถผ่าตัดเปลี่ยนได้เลย การผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี เขารอกระบวนการทางการแพทย์เป็นช่วงเวลาหนึ่ง การทดสอบมากมายที่เขาไม่เข้าใจ เมื่อเห็นคุณหมอในชุดกาวด์สีขาวเดินเข้าห้องมาพร้อมพยาบาล ทำให้เขาตื่นเต้นที่จะได้รู้ว่าวันนี้เขาจะได้เห็นดวงตาของลูก 

    บ่ายวันนั้นเขากลับมาบ้าน บางอย่างที่คอยเกาะกุมจิตใจเขายากที่จะสลัดออก เขาถามหมอว่า 

    หมอบอกได้ไหมครับว่าผู้บริจาคเป็นใคร / ต้องขอโทษคุณพ่อด้วยนะคะที่หมอบอกไม่ได้จริงๆ / ถ้าหากเขาบริจาคดวงตา แสดงว่าเขาเสียชีวิตแล้วหรือครับ / ผู้ป่วยที่ประสงค์บริจาคอวัยวะ จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อเกิดภาวะสมองตาย ทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้วค่ะ / สมองตาย? / ส่วนใหญ่เกิดจากอุบัติเหตุค่ะ เท่าที่หมอพอจะบอกได้คือผู้ป่วยที่บริจาคมีภาวะสมองตายมาก่อนแล้วหมอถึงติดต่อคุณให้นำน้องมาตรวจค่ะ

    เขาเปิดประตูห้องเก็บของ เป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่ไม่ค่อยมีใครเข้ามาใช้ประโยชน์ จึงเต็มไปด้วยฝุ่นหนาและหยากไย่ ภาพที่หมอค่อยๆ เปิดผ้าปิดตาลูกของเขายังคงวนเวียนอยู่ในหัวเขาตอนนี้ คำถามต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ใครเป็นคนบริจาค? ทำไมถึงต้องเจาะจงเป็นลูกเขา? พลันสายตาก็เห็นกล่องใบหนึ่งวางบนหลังตู้ไม้เก่าๆ เขาปีนขึ้นไปหยิบมันลงมา ในกล่องมีซองกระดาษสีน้ำตาลเก่าซองหนึ่ง ภายในบรรจุบางสิ่งที่ค่อนข้างหนา 

    ด้วยความสะเพร่าและร้อนรน สิ่งที่เลื่อนออกมาจากซองคือกรอบรูป เป็นกรอบรูปสีน้ำตาลผิวขัดมันเรียบ ภายในบรรจุภาพขาวดำ และวินาทีเดียวกันนั้นเองเมื่อสายตาของเขาได้เหลือบมองไปยังภาพนั้น กาลเวลาราวกับจะช้าลง 

    ผ้าก๊อชสีขาวถูกเปิดออกมาจนหมด เด็กน้อยนั่งหลับตาพริ้ม เขาและเธอต่างตื่นเต้นกับสิ่งที่จะได้เห็นตรงหน้า และเมื่อลูกของพวกเขาค่อยๆ ลืมตาขึ้น... 

    แสงแดดที่ส่องลอดผ้าม่านเข้ามาคล้ายกับว่าส่ายไหวเป็นระรอกเมื่อภาพๆ นั้นเคลื่อนที่ผ่านไป สายลมอ่อนที่พัดมาวูบหนึ่งคล้ายกับว่าจะพัดกิ่งก้านของต้นปีบในภาพให้ส่ายไหว สลัดความเท่าทึมออกไป กลายเป็นภาพจำที่มีสีสัน ในห้วงขณะหนึ่งดอกปีบสีขาวบริสุทธิ์หล่นลงมาใส่ใบหน้าอันระเรื่อไปด้วยรอยยิ้มของเขา ใครคนหนึ่งในภาพมองเขามาด้วยดวงตาสีน้ำตาลเป็นประกาย เช่นเดียวกับดวงตาของเด็กน้อยที่เรื่อไปด้วยน้ำตากับครั้งแรกที่เธอได้เป็นผู้เฝ้ามองโลก 

    กรอบรูปค่อยๆ ตกลงอย่างช้าๆ) แล้วมันก็แตก


    นิราวัฒน์ นารอด
    ------------------------------
    fb: Nirawath Narod

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in