วันนี้ 24 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 17.38 นาที
ฉัน...ในวัย 29 ปี ตัดสินใจกลับมาเขียนอีกครั้ง
ด้วยเหตุผลง่ายๆ สั้นๆ
.
.
ถ้าอยากเขียน ก็ควรเขียนซะ
เลิกป่าวประกาศบอกใครว่าอยากเป็นนักเขียน
เพราะเธอไม่อาจเสกสรรปั้นแต่งมันได้ด้วยลมปาก
มีเพียงตัวอักษรเท่านั้นจะที่นำฉันกลับไปสู่เส้นทางนั้นได้
.
.
เสียงระรัวคีบอร์ด และการโลดเต้นของปลายนิ้วบนแป้นพิมพ์
ทำให้ฉันเผลอหัวเราะออกมาแผ่วเบา
คิดถึงเหลือเกิน
.
.
ฉันผู้ขลาดเขลาทว่าหลงระเริงโลดเต้น
คิดว่าตัวเองเก่งฉกาจเสียเต็มประดา
เบาใจกับการผัดวันประกันพรุ่งว่าสักวันนึงเถอะ
ฉันจะกลับไปสู่วงการมนต์น้ำหมึก
ประกาศศักดาลือชาชื่อ ให้บรรณพิภพได้ลือลั่นสะท้านสะเทือน
.
.
ความฝันไม่เคยทำให้ใครสมปรารถนาฉันใด
การที่ฉันมัวแต่รอคอยจนโอกาสหลุดลอยไป
รอบแล้วรอบเล่าก็ฉันนั้น
อยากเป็นนักเขียนหรือ...ก็แค่เขียนเท่านั้น เท่านั้นเอง
.
.
สำหรับฉันแล้วข้อความข้างต้นทั้งหมดนั้นไม่อสจเรียกได้ว่าบันทึก
ไม่ใช่ไดอารี่ ไม่ใช่คำประกาศสัญญาอะไร
แต่หากมีสิ่งใดที่พอจะนิยามได้
ฉันขอเรียกมันว่าบันทึกการสนทนาเงียบงัน
กับตัวฉันเองก็แล้วกัน
.
.
นี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆที่ไม่รู้ว่าจะไปจบตรงไหน
แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันรู้ว่า
ฉันคิดถึง และโหยหาความสงบสุข
ในระหว่างบรรทัดมากเพียงใด
และการเขียนก็จะยังเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม
ที่ทำให้ชีวิตมีความหมายอีกครั้ง
.
.
ปีนี้จะเป็น 29 ปีที่ดี
29 ปีที่เรียนรู้ที่จะให้อภัยตนเอง
เปิดรับสิ่งใหม่ๆ
ยอมรับข้อผิดพลาด
ค้นหาจุดอ่อนและแก้ไข
ถึงแม้ว่ามีเรื่องที่ทำให้รู้สึก 'สายไป' หลายๆเรื่อง
เรื่องที่อยากจะวนกลับไปแก้ไข
แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย
แต่ชีวิตมันก็แบบนี้
เราต้องยอมสูญเสียบางอย่างไป
เพื่อแลกกับบางอย่างที่จะกลับคืนมา
.
.
หวังว่าบันทึกนี้จะเป็นบันทึกแรกของการเดินทางระยะยาว
ที่ถึงจะเริ่มต้นแบบยังจับต้นชนปลายไม่ถูก
แต่ในที่สุด
ก้าวแรกก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
.
.
อย่าลืมภาพฝัน...ถึงวันที่เธอจะได้จรดลายเซนต์ลงบนหนังสือของตัวเอง
มาทำให้มันเป็นจริงกันนะ
ฉันยังเชื่อและศรัทธาในเธออยู่เสมอ
ไม่มีสิ่งใดสายไป
ตราบที่เรายังมีลมหายใจ
#ก้าวแรกของการเดินทางกลับไปสู่ถนนนักเขียน
#บันทึกการสนทนาเงีียบงันระหว่างข้าพเจ้าและข้าพเจ้า
#ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in