เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
หลงแรกรักCigarabbit
/Sweet/
  • ผมไม่ใคร่จะลิ้มลองรสชาติใหม่นัก นอกจากวานิลลา ต้องเป็นวานิลลาที่เป็นตัวเลือกของผมเสมอ เหมือนกับสีขาว เสื้อเชิ้ต กางเกงสแล็ก ทรงผมและกรอบแว่นเก่าที่ค่าสายตาเปลี่ยนไปเสมอเมื่อจ้องแสงสีฟ้า หมายรวมถึงสถานที่ใหม่ๆ ซึ่งไม่เคยย่างก้าวเข้าไปเมื่อตนเองไม่คุ้น

    ต่อเมื่อผมพบเขา หลักการของผมไม่สลักสำคัญอีกต่อไป พอๆ กับตัวผมซึ่งราบเรียบ ไร้รสชาติ ไร้อารมณ์ที่ไม่นึกอยากเปลี่ยนแผนชีวิตหรือก้าวเข้าไปในสถานที่ใหม่อย่าง Sweven C. ที่ปรากฏอยู่ในนามบัตรหลังชื่อเจสซี จาร์วิสกี

    "เห็นไหม คุณมาจนได้" เขาดูกึ่งรู้กึ่งประหลาดใจและไม่แปลกใจไปพร้อมกันตอนที่เห็นหน้าผม "นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณชอบเพลงของผม หรือร้านของผมหรือครับ"

    "ถ้าคุณจะคิดอย่างนั้นไปตลอด ผมก็ไม่มีสิทธิ์แย้งอะไรอีก"

    "คุณแย้งไม่ได้ตั้งแต่ก้าวขาเข้ามาที่นี่แล้วครับ"

    "ด้วยความยินดี"

    "และยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง"

    ผมจึงรู้เดี๋ยวนั้นว่านักดนตรีของผมแท้จริงไม่ใช่นักดนตรี เป็นเพียงเจ้าของร้านกาแฟสไตล์ลอฟต์ซึ่งตกแต่งไปด้วยสีขาว สีดำและสีน้ำตาล ผมหอบตัวตนที่ไร้รสชาติเข้าไปภายใน นั่งอยู่ในมุมสุดของร้าน หวังเพียงที่นี่จะให้ฉากบางฉากที่จำเป็นต้องใส่ลงในเรื่องราวของตัวเองได้ หลังผมค้างเติ่งอยู่มุมเดิมมาสามวัน บรรณาธิการซึ่งเป็นจอมรีบเร่งแนะนำว่าควรจะมีบทรักของพระนาง และผมเกือบทำสำเร็จ กับฉากจูบของชายหนุ่มซึ่งเป็นตัวเอกบนเรือเหาะ หอบหุ้มความหวังของมนุษยชาติเอาไว้ ก่อนบังเอิญพบรักกับนักสืบสาวบนดาวเคราะห์น้อยที่ยังไม่ถูกสำรวจ

    อย่างน้อยมันก็เกือบสำเร็จ ถ้าผมไม่เพียรเอาแต่มองท่อนแขนประดับเส้นเลือดอย่างคนออกกำลังที่คอยทำหน้าที่แทนบาริสต้าอยู่ที่เคาน์เตอร์ของเขา ต่อเมื่อจวนเจียนจะปิดร้าน เจสซีจึงตรงมานั่งฝั่งตรงข้ามโดยไม่บอกกล่าวนอกจากถามถึงเพื่อนยากและงานของผม ดังนั้น ผมจึงทำกลับในแบบเดียวกัน

    "คุณเคยจูบมาก่อนหรือเปล่า"

    "ไม่ว่าใครก็ต้องเคยจูบอยู่แล้วครับ" เขาตอบพร้อมรอยยิ้ม เดี๋ยวหนึ่งจึงชะงักงันเมื่อมองดูท่าทีนิ่งเฉยและตระหนักรู้ว่าผมคือนักเขียนที่อ่อนต่อโลกเพียงไรผ่านแววตาคู่โศกที่ขยายกว้าง "เดี๋ยว คุณไม่เคยหรือ"

    "อาจจะเร็วๆ นี้" ผมกระแอม "ถ้าคุณพอจะให้ข้อมูลได้"

    ผมร้องขอความช่วยเหลือ สอบถามรสชาติของการจูบแลกกับการที่เขาได้รู้ชื่อของผม เพื่อจะเรียกว่าคุณเล็กอย่างเจ้ายศเจ้าอย่าง อย่างที่ใครหลายคนค่อนแคะและมันเป็นอย่างนั้นเสมอ กระทั่งหลุดออกจากปากเขา คำว่าคุณเล็กกลับให้ความรู้สึกไปอีกอย่าง อย่างที่ผมยังตอบตัวเองไม่ได้ว่าทำไม

    "จูบแรกไม่หวานอย่างที่ใครหลายคนคิด น้ำลายใครต่อใครทำให้ผมอาเจียน เป็นประสบการณ์ที่แย่สำหรับผม" เขาอธิบาย "แต่มีวิธีที่ง่ายกว่ามาก ดีกว่าการถามจากปากผมโดยตรง"

    เจสซีไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พูด เขาเพียงโน้มตัวลงมาใกล้เสียจนเห็นไฝเม็ดเล็กอยู่กลางจมูก มันเป็นบ่อเกิดของความสนใจ เป็นจุดรวมสายตาที่ผมไม่อาจละหนีไปได้

    "ใช้ปากของคุณสัมผัสเองเสียสิ คุณเล็ก"

    ระฆังเตือนภัยในอกผมสั่นสะเทือน รวดเร็วพอกับการกะพริบตาอื้ออึงราวคนใบ้ สัญญาณระวังภัยไม่ทำให้ผมผละกายถอยหนีอย่างที่ควรเป็น เมื่อเขาแตะจูบเข้ากับปากของผม ขยับเพียงนิดให้ริมฝีปากเปิด ชำแรกเรียวลิ้นอย่างใคร่รู้ ทุกรสชาติที่ผมเคยลิ้มรสเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จุดรวมศูนย์ไม่ได้อยู่ที่ดวงตาของเขาหรือไฝเม็ดเล็กตรงจมูก นาสิกประสาทได้กลิ่นหอมหวนชวนลุ่มหลงจนหลับตา และคล้ายกับตัวผมไร้น้ำหนัก โลกใบนี้พลันไร้น้ำหนักอย่างฉับพลันเหมือนตนเองกำลังหลับฝัน กระทั่งเขาผละจาก

    "ปากคุณเล็กไม่ได้ทำให้ผมอาเจียน สักหน่อยก็ไม่" เขากระซิบ เกลี่ยปลายจมูกเข้ากับข้างแก้ม เมื่อผมเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วไม่แพ้กันว่าทำไม เจสซีจึงเอ่ย "ผมจะตอบก็ต่อเมื่อได้จูบคุณเล็กอีกครั้ง"

    จากนั้น ทุกสิ่งอย่างในหัวพลันไหลพรั่งพรูราวกับคลื่นชายฝั่งซึ่งซัดสาดกระแทกเข้ากับโขดหินเสียจนสึกกร่อน ปากของผมเป็นอย่างเดียวกันนั้น ถูกดูดกลืนและเป็นฝ่ายดูดกลืน ถูกสัมผัสและเป็นฝ่ายสัมผัส กรุ่นกาแฟ กรุ่นกลิ่นหวานอมขมที่ถูกหลอมละลายกลายเป็นความต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีก ผมใคร่สงสัยว่าเหมือนกับการสบตาเขาครั้งแรกหรือไม่ หรือความเป็นจริงแล้วผมต้องการอะไรกันแน่ ต้องการจูบเขา หรือต้องการการอ้างอิงดังที่แอบอ้าง 

    จะอย่างไรก็ตาม ผลของการสัมผัสครั้งนั้นผมจึงได้เรียนรู้ว่าวานิลลาไม่ใช่รสชาติที่ตัวเองรู้จักอีกต่อไป

    "เพราะรสวานิลลาจากปากคุณเล็ก ดูจะหวานหอมยิ่งกว่าวานิลลาที่ผมเคยรู้จักเสียอีก"


    และถ้าจะมีสิ่งใดที่หวานซาบซ่านยิ่งกว่า คงจะเป็นวาจาและจูบของเขา

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in