เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyprangsn
โรคซึมเศร้ากับการป่วยมาตลอด 3 ปี || เอาหละถึงเวลาเล่าสักที || PART I
  • สวัสดี เราเป็นคนเศร้ามาตลอด 3 ปีแล้ว 
    อาการป่วยเริ่มต้นตอนเราอายุ 23 ปี 

    เราจำได้ดีเลยแหละกับการเริ่มต้นอาการป่วยของเรา ต้องย้อนกลับไปเมื่อสามปีก่อน ประมาณเดือนกรกฎาคม 2015 (จริงๆ ตอนเขียนบันทึกนี้ก็ยังไม่สามปีดีหรอก แต่นับรวมเลยละกัน ง่ายดี) เราจำได้ว่ามันเป็นวันเข้าพรรษา เราเลิกกับแฟน และนั่นแหละคือเหตุผลหลักของการป่วยในครั้งนี้ 

    เริ่มต้น
    จริงๆหรือนี่จะเป็นบันทึกเอาไว้บ่นมากกว่านะ? เอาหละช่างเถอะ เราก็แค่อยากเล่าให้ฟัง ถึงมันจะผ่านมานานสำหรับใครหลายคน แต่ก็ไม่ใช่สำหรับเราเลย 

    ตอนเลิกกันยังไม่รู้ว่าป่วยหรอกนะ แต่ช่วงนั้นเราร้องไห้ทุกวัน ทุกเวลา ตลอดทั้งวัน ไม่สามารถทำงานได้ ไม่สามารถกลั้นน้ำตาได้ เราร้องไห้ทุกที่ บนรถไฟฟ้า ในออฟฟิศที่ทำงาน ที่บ้านไม่ต้องพูดถึงเลย ลงไปกลิ้งๆ ร้องไห้กับพื้นก็ทำมาแล้ว และที่สำคัญ เราไม่ได้กินอะไรเลยตลอดระยะเวลาสองเดือนหลังจากเลิกกัน นอกจากน้ำเปล่า (ให้ทายน้ำหนักลดไปเท่าไหร่ 11 กิโลไปเลย) ทุกๆ วันของเราผ่านไปด้วยความยากลำบาก จนมีจุดแตกหักขั้นสุดที่คิดว่าเค้าจะไม่กลับมาแล้ว หลังจากนั้นเราเริ่มมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย มันไม่ใช่แค่คิดนะสิ แต่มันลงมือทำจริงๆ เริ่มจากเล็กๆ น้อยๆ ก่อน อย่างการทำร้ายร่างกายตัวเอง 

    ถึงตอนนี้คงมีคำถามกัน ทำไมถึงได้รักเค้ามาขนาดนั้น? เราต้องตอบยังไงดี เอาเป็นว่าเว้นไว้ก่อนนะ
    เอาเป็นว่าเราร้องไห้หนักมาก ร้องไห้จนชัก จนต้องไปรพ.กันหลายรอบมากๆ มากกๆๆ ป่วยบ่อยป่วยเก่ง
    กลับมาที่การทำร้ายร่างกายตัวเอง เราเริ่มทำมากขึ้นเรื่อยๆ จนเลือดตกอย่างออก บวกกับความไม่สบายของเราที่ไม่ได้กินข้าวมาเป็นระยะเวลานาน มันเลยทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ลง ครั้งสุดท้ายก่อนไปหาจิตแพทย์ ถ้าจำไม่ผิดเราพยายามทำให้ตัวเองตกบันไดแล้วหัวฟาด ซึ่งมันก็ฟาดจริงๆ เจ้ากรรมไม่พอในมือถือแก้วน้ำอีก แตกใส่ไปกันใหญ่เลยทีนี้ 

    ครั้งนั้นเราเลยได้ทำ MRI เนื่องจากหัวฟาดพื้นและมีอาการปวดหัวมากๆ จริงๆ เรื่อง MRI เราปวดหัวด้วยสาเหตุอื่นก่อนอยู่แล้ว ปวดบ่อยๆ จนหมอเคยบอกว่าให้ตรวจมันซะ นี่แหละเป็นโอกาสพอดี แต่ทำแล้วก็ไม่เจออะไรนะ ก็ผ่านไป แต่ร่างกายก็ป่วยออดๆ แอดๆ อยู่ดี จนแม่ทนไม่ไหว บอกให้เราไปหาจิตแพทย์เถอะ

    พบจิตแพทย์สักที
    เรื่องขั้นตอนอะไรต่างๆ ในการทำเอกสารขอผ่านเลยละกัน
    เราตรวจที่รพ.รัฐแห่งนึง วันแรกที่ไปจำได้ว่าเค้าให้เราเขียนเรียงความเล่าเรื่องตัวเองยาวๆ สองหรือสามหน้านี่แหละ แล้วเข้าไปเจอพยาบาล เค้าถามว่าเป็นไงมั่งคะ วันนั้นเราร้องไห้อย่างเดียวเลย ร้องหนักมาก ร้องจนเล่าอะไรไม่ได้ แต่เค้าก็น่าจะอ่านเอามั่งแล้วแหละ เลยบอกว่าเดี่ยวออกไปรอพบหมอนะคะ 

    ตอนเข้าไปเจอหมอครั้งแรก หมอเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ซึ่งน่าจะจบมาไม่นาน ในความคิดเราคือแบบรักษากับคนนี้ฉันจะหายมั้ยเนี่ย แต่เอาเถอะ ตอนนั้นไม่เลือกละ ทำไงก็ได้ให้มันดีขึ้นก่อน วันแรกหรอ ฮึ! เราเอาแต่ร้องไห้เล่าอะไรไม่รู้เรื่องสักอย่าง เค้าเลยบอกว่าเนี่ยเป็นโรคซึมเศร้านะ หมอจะจ่ายยาให้ ก็เลยได้ยามากิน fluoxetine ไงจะใครละ แล้วหมอก็นัดทุกอาทิตย์เป็นเวลาหลายเดือนมากๆ เราก็จำไม่ได้แล้วว่านานแค่ไหน

    สามเดือนแรกที่เริ่มกินยาต้องบอกก่อนเลยว่า แย่มากกกกก แย่ที่สุด แย่กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ดิ่งมาก อยากตายอย่างเดียวเลย เรารู้สึกเฟลกับทุกอย่าง คิดว่าทำไมไม่ดีขึ้นเลย แต่โชคดีอย่างนึงคือเราไม่มีผลข้างเคียงอะไรกับยานี้เลยตนคิดว่า นี่กินละได้ผลมั้ยเนี่ย แต่ก็อดทนกินมันต่อไป

    หลังจากนั้นก็มีปรับเปลี่ยนยาบ้าง เราจำชื่อมันไม่ค่อยได้ละ แต่ถ้าเห็นก็จะแบบเอออันนี้เคยกิน ก็หยุดยาตัวเดิมไป หลังจากนั้นแหละเหวี่ยงมาก ทั้งอารมณ์ทั้งผลข้างเคียงจากยา มาเต็ม มาหมด หน้าที่ตั้งแต่เกิดไม่เคยเป็นสิวเลย สิวเริ่มขึ้นจนถึงตอนนี้! เสียใจนะเว้ย แอบรับไม่ได้ 

    พอเปลี่ยนยาไปเปลี่ยนยามาเริ่มรับไม่ได้ คือมันดิ่งลงกว่าเดิม เลยแอบหยุดยาเองแล้วก็ไปบอกหมอ ว่าเนี๊ยะหยุดยาแล้วมันดีขึ้นช่วงนึง หลังจากนั้นมาหมอเลยไม่จ่ายยาให้อีก แล้วมันก็แย่ลง แต่นี่ก็ไม่เข้าใจว่าหยุดกินไปเลยได้หรอ มันยังไม่ดีขึ้นขนาดนั้นอะ คือเราพึ่งรักษามาปีนึงเองมั้งในตอนนั้น

    หลังจากนั้นก็ได้หยุดยามาเลยยาวๆ แต่อาการแย่ลง เราบอกหมอแล้วแต่หมอก็ไม่จ่ายยาให้อยู่ดี
    เราเลยไปปรึกษาเพื่อนที่เป็นหมอ แล้วก็คิดจะย้ายรพ. ...


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
withphr (@withphr)
เป็นเพราะความรักเหมือนกันเลยค่ะ