เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว ใครบ้างไม่เคยเห็นซุป'ตาร์
  • ใครบ้างไม่เคยเห็นซุป'ตาร์
    ผู้เขียน : MOLLY
    ผู้แปล : เหอมู่
    Rose Publishing
    2 เล่มจบ


              ตอนแรกไม่ได้สนใจเลยแกกก สารภาพกงนี้ แบบแวบแรกเลยอ่ะ ชื่อเรื่องอะไรวะ คือเข้าใจใช่มะว่านิยายจีนสมัยนี้เป็นชื่อประมาณนี้ตลอดก็เลยไม่อยากสนใจเท่าไร 55555

              แต่ว่าเหลือบไปเห็นชื่อคนเขียน เป็นคุณ MOLLY ที่รักของชั้นนี่เอง คือเราชอบเรื่องหัวใจมีหลิงซีมากๆๆๆ ชอบสไตล์งานเขียนของคุณเค้า ก็เลยเอาวะ ลองอ่านหน่อยในทดลองอ่าน สรุปอีบ้าาาา ดือมากกก น้องค้าบบบบมากๆ

              เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ เจียงจื่อเฉิง ดาราไม่ดังแต่มากับดวง เล่นหนังเรื่องไหนหนังก็มักจะปังแบบงงๆ ตลอด และล่าสุดน้องรับเล่นหนังค่าตัวโคตรน้อย ฝีมือผู้กำกับที่เพิ่งกำกับหนังเป็นครั้งแรก แถมทุนก็มีแบบจำกัดกำเขี่ย นักแสดงหลักๆ มีแค่สามคนเองมั้ง

              สรุป เฮ้ยยย หนังดังเฉย แถมได้เข้าชิงรางวัลใหญ่ที่เวนิสอีกต่างหาก คนก็แบบเอาอีกแล้ว เจียงจื่อเฉิงนี่มันมากับดวงจริงๆ ซึ่งอันที่จริงที่มาที่ไปของความ "ดวงดี" ของเจียงจื่อเฉิงคือเขามี "ความสามารถพิเศษ" อย่างหนึ่งที่สุดแสนจะไม่ธรรมดา

              ความสามารถนั้นคือ "การหยั่งรู้อนาคต" ด้วยการสบตา!?

              มันจะมีความเหนือธรรมชาติตรงนี้หน่อยแหละ แบบว่าเวลาน้องสบตากับใครเกินสิบวินาที น้องจะสามารถมองเห็นอนาคตของคนคนนั้นได้ ซึ่งการที่น้องดังแบบงงๆ มันก็เป็นเพราะแอบไปดูอนาคตชาวบ้านอ่ะแหละ 5555

              บริษัทต้นสังกัดของเจียงจื่อเฉิงเป็นบริษัทเล็กๆ ที่ขนเอาญาติพี่น้องมาทำงานหมด งานก็ไม่ค่อยมี ว่ากันตามตรงทั้งบริษัทก็มีแค่เจียงจื่อเฉิงที่ดัง สุดท้ายแล้วได้ทางรุ่ยฉือเอนเตอร์เทนเม้นต์เข้ามาเทคโอเวอร์ตอนกำลังจะเจ๊งพอดี คนก็งงว่ารุ่ยฉือเป็นบริษัทใหญ่อันดับหนึ่งทำไมมาซื้อบริษัทเล็กๆ แบบนี้กันน้อออ (และเจียงจื่อเฉิงใช้ความสามารถตัวเองมองอนาคตและบอกให้เถ้าแก่เนี้ยไปเปิดร้านหม้อไฟแทน ซึ่งต่อมาทำรายได้ดีกว่าตอนทำบริษัทดาราอีก เหอๆ)

              ประธานรุ่ยฉือคือ เซี่ยเป่ยวั่ง หน้าตาท่าทางคล้ายกับต้นแบบท่านประธานจอมเผด็จการทั่วไปเลย แต่เจียงจื่อเฉิงดันไปเห็นว่าในอนาคต เขากับท่านประธานผู้นี้จะทำเรื่องอย่างว่ากัน แถมยังถูกอีกฝ่ายเลี้ยงดู (?) อีกต่างหาก!

              นักแสดงชายแซ่เจียงอายุไม่ถึงสามสิบปีผู้นี้จึงพยายามหลบหลีกท่านประธานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก็นั่นแหละ ยิ่งหลบเธอยิ่งเจอรัก ท่านประธานแกก็หาเรื่องเข้ามาใกล้ชิดน้องเค้าตลอด ดูแลเทคแคร์อย่างดีจนชั้นเขินตัวบิดแบบถ้าเป็นผ้าก็แห้งไปแล้ว

              พล็อตคร่าวๆ มันก็จะประมาณนี้ แต่ระหว่างทางมันทำให้เราเพลิดเพลินไปมากกับความสามารถของน้อง คือเจียงจื่อเฉิงตอนเด็กๆ นางเข้าใจว่าตัวเองเป็นซูเปอร์แมนที่มาพร้อมพลังวิเศษ ตอนแปดขวบเห็นทุ่งข้าวสาลีสีเหลืองทองก็น้ำตาไพลพรากไปยืนรอให้ครอบครัวที่แท้จริงจากดาวคริปตันมารับกลับบ้าน รอแล้วรอเล่าก็ไม่มา มีแค่พ่อแม่มนุษย์ที่มาพากลับไปเท่านั้น (เนี่ยยย เป็นเอ็นดู)

              ด้านคุณพระเอกของเราก็เอาใจน้องเหลือเกิน สายเปย์มั่กๆ แต่ความเอ็นดูนี้มันมีที่มา ซึ่งอิชั้นจะไม่สปอยล์ว่าคืออะไร แต่อิ่มเอมใจมาก น่ารักเป็นที่สุด แล้วตัวพระเอกเป็นพวกชอบทำงานหาเงินเยอะๆ มีพ่อโคตรจะเหี้ยเพราะอายุหกสิบแล้วยังเยเก่ง เห็นสาวๆ เอ๊าะๆ ต้องขอเอามาไว้ข้างกาย (คุ้นๆ ว่ะแก แบบ เออ ใช่มะ) มีลูกนอกสมรสเต็มบ้านเต็มเมืองแต่ให้ออกหน้าแค่พระเอกกับน้องสาวพระเอกเท่านั้น และอีพ่อเห้นี่ก็ไม่ได้รักอะไรพระเอกนะ แค่เห็นว่าหาเงินเก่งเท่านั้น เนี่ย มันน่าจะตายคาอกสาวมั้ยล่ะคนแบบนี้

              แต่พระเอกฮีก็ไม่สนไม่แคร์จ้า บ้านช่องไม่ค่อยกลับเพราะขี้เกียจไปให้พ่อด่า ตอนขึ้นเป็นรักษาการประธานบริษัทก็ปรับปรุงระบบทั้งหลายใหม่หมด ตอนแรกที่บริษัทปลูกดงเมเปิ้ลไว้เพราะอีท่านประธานแก่มันชอบ แต่พระเอกเราสั่งตัดหมดแล้วปลูกต้นแปะก๊วยแทน คนก็แบบโอ้โห กำลังแสดงอำนาจสินะ แต่ความจริงแล้วต้นแปะก๊วยมันมีที่มาที่ไปอยู่ ซึ่งตรงนี้ก็ไม่สปอยล์อีกเหมือนกัน แต่น่ารักอีกแล้ว น่ารักแบบเอาอิชั้นไปต้มค่าาา

              คือมันจะสอดคล้องกันกับปกของทั้งสองเล่มอ่ะ หน้าปกของทั้งสองเล่มจะมีแบ็คกราวนด์เป็นสถานที่ในความทรงจำของทั้งคู่ อย่างน้องเฉิงเฉิงเป็นทุ่งข้าวสาลี ของพี่วั่งวั่งเป็นดงต้นแปะก๊วย

              เรื่องนี้มันมีเสน่ห์ที่ลักษณะการเขียนจริงๆ เป็นแบบที่อ่านแล้วเอาล่ะนี่คืองานของคุณ MOLLY อะไรทำนองนี้ คือศัพท์แสงแต่ละอย่างมันมุ้บมิ้บใจมาก ยิ่งการใช้คำมาบรรยายตัวเจียงจื่อเฉิงก็คือยิ่งให้ความรู้สึกเอ็นดูเหมือนอะไรจิ๋วๆ ที่เราต้องใช้สองมือประคอง แต่ก็ต้องรีบจับไว้ให้มั่นเพราะน้องดื้อ น้องจะดิ้น แงๆๆ

              แล้วตัวนายเอกเจียงจื่อเฉิงก็คือเป็นนายเอกแด๊ดแด๋แบบที่ชอบเลย ชอบทำท่าทางโง่ๆ เอ๋อๆ ชอบฉลาดในเวลาที่ไม่ควรฉลาด ชอบชมตัวเองว่าหน้าตาดี เป็นเด็กดื้อแต่ปากหวาน ประจบคนเก่งอะไรทำนองนี้ คือน้องมาก 5555

              อย่างแอคเค้าท์เว่ยป๋อก็ชอบเล่นเองแล้วแชร์หรือโพสต์อะไรไร้สาระ (เพราะตอนนั้นไม่ดังมาก แฟนคลับน้อย ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก) แต่จะชอบโดนผู้จัดการยึดไป น้องก็จะแอบสมัครแอคเค้าท์ใหม่ไปเรื่อย จาก @เจียงจื่อเฉิง ก็เป็น @เจียงจื่อเฉิง1 @เจียงจื่อเฉิง2 @เจียงจื่อเฉิง3 จนมาจบที่ @เจียงจื่อเฉิง18

              หรืออย่างตอนมัธยมด้วยความหน้าตาดีก็จะมีสาวๆ เอาจดหมายสารภาพรักมาหย่อนให้ประจำ "ฉันชอบเธอ" น้องก็พิมพ์จดหมายตอบกลับ (จดหมายปฏิเสธ) เอาไว้ปึกหนึ่งเพื่อส่งตอบไปว่า "ขอบใจ ฉันก็ชอบตัวเองเหมือนกัน" เนี่ยยย แบบไอ้น้องโว้ยยย 55555

              ตัวละครอื่นๆ ในเรื่องก็มีเสน่ห์มาก เป็นตัวละครที่ขับเคลื่อนให้นิยายมันสนุกทั้งๆ ที่เป็นแค่ตัวประกอบนะ ไม่ว่าจะพี่ฮู่ผู้จัดการ สองแฝดผู้ช่วย น้องสาวพระเอก ทีมงานในกองถ่าย สองผัวเมียร้านหม้อไฟ ฯลฯ คือเป็นตัวละครทั้งหลายที่ทำให้เรื่องมีสีสันมากๆ อ่านแล้วหลงรักจริงๆ

              ชมมาเยอะ ขอบ่นหน่อย นิยายเรื่องนี้พิมพ์ผิดประปรายเลย เหมือนไม่ได้ผ่านการตรวจพิสูจน์อักษรเลย ขัดใจมาก ทั้งพิมพ์ผิด พิมพ์ตก ใช้คำผิดก็มี แบบหน้าตาดี เป็นน่าตาดีอะไรทำนองนี้ คือเข้าใจว่าผู้แปลอาจจะมีจังหวะที่แปลงานแล้วเบลอ แต่คนพิสูจน์อักษรจะมีช่วงเบลอไม่ได้นะเพราะนี่คืองานของคุณ แล้วมันไม่ใช่น้อยๆ เลยอ่ะ ถ้าจุดสองจุดก็ยังพอหยวนอาจจะไม่พูดถึง แต่นี่เจอจนขัดใจ แบบเฮ้ออออ

              สรุปก็คือนิยายดีมากกกก ขึ้นแท่นนิยายที่ชอบไปแล้วเรียบร้อย การผูกเรื่อง การบรรยาย การใช้คำก็ทำได้ดี แต่ไม่ดีตรงฝ่ายพรู๊ฟของไทยนี่แหละ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสอะไรขนาดนั้นนะ ยังไงก็ซื้ออ่านเถอะ มาหลงรักและเป็นแฟนคลับน้องเฉิงเฉิงกัน~


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in