เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I love not man the less, but books moreรั่วชิงบ้านสกุลหาน
(Book) รีวิว RED SPARROW สวย ลวง สังหาร
  • RED SPARROW สวย ลวง สังหาร

    ผู้เขียน: Jason Matthews
    ผู้แปล: ปุณณารมย์
    แพรวสำนักพิมพ์
    3 เล่มจบ


              อาจจะหยิบมารีวิวช้าสักนิดเพราะหนังสือฉบับแปลไทยออกมาช่วงเดือนกุมภาฯ ถ้าจำไม่ผิด ลังเลว่าจะหยิบมารีวิวดีหรือไม่ แต่ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง และหนังสือเล่มนี้ก็มีตัวเอกเป็นผู้หญิง (ที่แคแรคเทอร์มีมิติมาก) เป็นตัวเดินเรื่อง เลยตัดสินใจว่าหยิบมารีวิวดีกว่า

              หนังสือเล่มนี้พูดถึง โดมีนีกา เอโกโรวา สาวรัสเซียนวัย 25 ที่มีพรสวรรค์มาตั้งแต่เกิด พ่อเป็นศาสตราจารย์ แม่เป็นนักดนตรี เธอเองก็มีความสามารถแบบที่น้อยคนจะมีคือสามารถมองเห็นสีสันต่างๆ ซึ่งบอกแทนอารมณ์หรือจังหวะได้ ทำให้เธอสามารถรู้ได้ว่าใครคนไหนเป็นยังไง กำลังรู้สึกแบบใดอยู่ แต่ก็ทำให้เธอเป็นคนอารมณ์ปรวนแปรโมโหร้ายพอควร

              โดมีนีวาเดิมทีเอาดีด้านการเต้นบัลเล่ต์ เพราะการเห็นสีทำให้เธอไปได้สวยในวงการนี้ แต่เพราะถูกซอนย่า หนึ่งในนักเรียนบัลเล่ต์อิจฉาอยากได้ตำแหน่งทำให้เกิดเรื่องร้ายกับโดมีนีวา เธอได้รับบาดเจ็บที่ขาทำให้เต้นบัลเล่ต์ต่อไม่ได้ เวลาเดินจะโขยกเขยกเล็กน้อย ประจวบเหมาะกับพ่อที่เธอรักที่สุดมาจากไป หญิงสาวกำลังจะสติหลุด ในตอนนั้นเองที่ลุงของเธอมาชักชวนให้ทำงานกับหน่วยข่าวกรองรัสเซีย ซึ่งนั่นถือเป็นจุดเริ่มต้น

              โดมีนีวาได้รับการฝึกฝนในทุกๆ ด้าน มีความสามารถและความพยายาม แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับความน่าขยะแขยงของอำนาจรัสเซีย ในที่สุดเธอก็ถูกบีบบังคับให้เข้าเรียนในสถาบันที่รู้จักกันในนามสแปโรว์ พูดง่ายๆ คือเป็นสถาบันฝึกให้ยั่วยวนฝ่ายตรงข้าม

              เมื่อการฝึกฝนผ่านไป เธอกลายเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่าของรัสเซีย ได้รับเลือกให้เข้าร่วมในโปรเจ็คลับที่ทำให้เธอต้องบินไปที่เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์เพื่อพบกับ นาธาเนียล แนช เจ้าหน้าที่ซีไอเอหนุ่มจากอเมริกา เรื่องดำเนินไปในแบบที่ว่าโดมีนีวาพยายามหาทางใกล้ชิดกับเนทผู้ระวังตัวแต่ก็มีท่าทีสบายๆ ใช้ความรักใคร่หลงใหลล่อลวงเขาโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นรู้อยู่แล้วว่าเป็นเธอเป็นสายลับรัสเซีย

              ช่วงต้นเรื่องเต็มไปด้วยการหลอกลวง การล้วงข้อมูล การพยายามพลิกตนให้อยู่เหนือคู่ต่อสู้ โดยที่เนทได้รับมอบหมายภารกิจว่าให้พยายามดึงโดมีนีวาเข้ากับสายลับอเมริกา ระหว่างที่คิดว่าตนควรทำอย่างไร จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นกับโดมีนีวา ทำให้ความเชื่อทั้งหลายที่เธอมีต่อชาติสั่นคลอน เธอกลายเป็นฝ่ายเดินเข้าหาเขาเพื่อเสนอตัวเป็นสายลับให้และเข้าพวกกับฝั่งอเมริกาเงียบๆ ซึ่งเนื้อเรื่องหลังจากนี้มีแต่การทุ่มตนในแผนการต่างๆ การทรยศหักหลังและสัตว์ร้ายที่รอคอยตะครุบเหยื่อ

              ถามว่าทำไมจึงลังเลที่จะรีวิวเรื่องนี้ สารภาพเลยว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างหนักอยู่บ้าง ถ้าใครโฟกัสที่ความรักสายลับสาวจากรัสเซียและซีไอเอหนุ่มจากอเมริกา ชื่นชอบความเป็นโรมิโอกับจูเลียตแล้วล่ะก็ ขอแนะนำให้ผ่านได้เลย เพราะแม้จะมีเรื่องของความใคร่ความหลงใหลเจือปนมาบ้างแต่สิ่งที่ผู้เขียนให้ความสำคัญมากกว่าคือการเจาะลึกไปถึงระบบการทำงานของสายลับสองประเทศ นั่นคือรัสเซียและอเมริกา ถ้าคนที่ไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องสายลับ หรือไม่อินกับความดำมืดเย็นชาในแบบฉบับรัสเซียแล้วล่ะก็ คิดว่าคงอ่านไม่สนุกเท่าไร

              อีกเรื่องคือตัวละครกว่าครึ่งเป็นรัสเซียน ใช้ชื่อแบบรัสเซียนซึ่งแน่นอนว่าอ่านยากและจำยาก อย่างเราเองยังงงๆ เหมือนกัน จำได้เฉพาะตัวละครสำคัญเท่านั้น นอกจากนั้นคือนิยายเรื่องนี้เน้นบรรยาย บทพูดโต้ตอบก็แน่นอนว่ามี แต่เชื่อเถอะว่าบทบรรยายนั้นเยอะกว่ามาก

              ฟังดูอาจน่าเบื่อ แต่มาอ่านถึงเหตุผลที่ทำให้เลือกหยิบมารีวิวดีกว่า

              เหตุผลที่ว่าคือตัวนางเอก โดมีนีวาเป็นตัวละครที่มีมิติ มีเสน่ห์ และดูเข้าถึงยาก แต่เป็นตัวละครที่สายนิยายอ่อนไหวไม่น่าจะชอบ เพราะนางเอกนิสัยไม่น่ารักเท่าไร แถมยังหัวรักชาติรุนแรง จุดนี้เรามองว่ามันเป็นธรรมดาของวัยรุ่นรัสเซีย หนุ่มสาวรัสเซียส่วนใหญ่โตมาก็เห็นปูตินเป็นประธานาธิบดีแล้ว ดังนั้นพวกเขาส่วนใหญ่จึงมีมุมมองทางการเมืองที่ค่อนข้างจะ...อยู่บ้าง อ้อ ในเรื่องนี้มีบทของปูตินด้วยนะ บทเยอะและดึงความเป็นปูตินออกมาได้ดีด้วย

              เพิ่มเติมคือ นางเอกอารมณ์รุนแรงในบางครั้ง แต่พยายามกดตัวตนดำมืดเอาไว้ในโพรงลึกของจิตใจ แถมสิ่งที่เธอเจอมาก็รับได้ยาก อย่างการถูกลุงแท้ๆ สั่งให้ไปนอนกับเหยื่อแล้วส่งนักฆ่ามาฆ่าต่อหน้า หรือการจับหลานยัดใส่โรงเรียนสอนยั่วผู้ชาย ซึ่งไอ้โรงเรียนนี้เราอ่านยังขยะแขยงตาม สิ่งที่คนพวกนั้นเทรน วิธีที่พวกเขาใช้ มันน่ารังเกียจจนเราต้องย้ำว่าไม่สตรองจริงก็อาจอ่านไม่จบนะ หลังๆ คือด้านชา เหมือนกับตัวโดมีนีวาเองที่พออยู่ไปก็ชาชิน ไม่รู้สึกอะไรอีกแล้ว เรามองว่าโดมีนีวาเป็นตัวละครที่น่าสงสาร เป็นผู้หญิงที่ต้องพบเจอเรื่องราวต่างๆ มากมาย แต่นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราอยากรู้ว่าสุดท้ายแล้วชีวิตเธอจะลงเอยยังไงนั่นแหละ

              ท้ายเล่มมีประวัติผู้เขียน ซึ่งบอกไว้ว่าเป็นถึงอดีตซีไอเอ เป็นส่วนที่ช่วยเฉลยให้เรารู้ว่าทำไมเนื้อหาสายลับถึงได้แน่นขนาดนี้ แน่นแบบแน่นจริงจัง แต่ถ้าถามความรู้สึกเราแล้วหนังสือเล่มนี้พูดถึงการกระทำของรัสเซียในทางที่ชวนให้คนอ่านรู้สึกเกลียดประเทศนี้ไปนิด ในความเป็นจริงเรามองว่าไม่มีประเทศไหนหรือรัฐบาลใดดีไปกว่ากันหรอก ทุกคนต่างทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองทั้งนั้น

              สำหรับเล่มแรกนี้จบทิ้งท้ายไว้ได้แบบน่าติดตามมาก ตามแบบฉบับนิยาย Trilogy เล่ม 2-3 ของไทยน่าจะกำลังแปลอยู่ แต่ของต่างประเทศนั้นจบเซ็ทไปช่วงเดือนกุมภาฯ นี่เอง (เทียบกันง่ายๆ คือ ฉบับแปลไทยเล่มแรกออกมาช่วงเดียวกับฉบับออริจินอลของเล่มจบ) ซึ่งเราผู้คาใจว่าชีวิตของโดมีนีวาจะจบลงในรูปแบบไหนก็ได้ดิ้นรนหาแบบฉบับภาษาอังกฤษมาอ่านไปเป็นที่เรียบร้อย ไม่ค้างคาใจอะไรอีกต่อไป คิดว่าภาพรวมสมควรได้ไป 8/10 มองในมุมของคนที่อ่านนิยายแนวข้อมูลหนักหน่วงได้

              Best Quote: น้ำตาไหลอาบแก้ม เธอร้องไห้ให้มาร์ตา ให้พ่อ อาจจะให้ตัวเองด้วย เธอร้องไห้ให้รัสเซีย เธอรู้ว่าตัวเองไม่ศรัทธาอีกต่อไปแล้ว เธอหมุนตัวหนีจากหน้าต่าง ดวงตาปิดสนิท อะไรบางอย่างสลัดหลุดเป็นอิสระในตัวเธอ


เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
Jaruwat Jrs (@jaruwat.ton)
ผมอ่าน ผมก็งงมากๆ