เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
/Sun/dry/xibppk
เมื่อฉันต้องแต่งนิราศ
  •          " เราคือนักศึกษาสาขาวิชาการสอนภาษาไทย เราต้องทำได้ " นี่คือความคิดของฉัน ที่มีต่อรายวิชาการเขียนและการอ่านกวีนิพนธ์ไทย 
                     ถ้าเทียบกับเพื่อนคนอื่นในสาขา ฝีมือการแต่งคำประพันธ์ของฉันก็เหมือนดักแด้นั่นแหละ แต่จะทำไงได้ในเมื่ออาจารย์สั่งงานเราก็ต้องทำส่ง ทำเท่าที่ฝีมือของเรามีเนี่ยแหละ

                     ในเมื่อโจทย์คือ " นิราศ " ก็คงต้องมีการเดินทางแน่นอน ฉันคิดวางแผนท่องเที่ยวมากมายแต่เวลาและการเงินไม่วางแผนไปกับฉัน ทำให้ฉันต้องมานั่งคิด จินตนาการถึงสถานที่นั้นๆแล้วลองแต่งนิราศออกมาเอง

                    สถานที่ที่ฉันเลือก ก็เป็นที่ที่ฉันไม่เคยไปแต่ " ฝัน " ที่จะไปให้ได้ในชีวิตหนึ่ง นั่นก็คือ " เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี " นั่นเอง

                       มาถึงตรงนี้ก็ถึงเวลามาอ่านนิราศที่ฉันแต่งแล้ว ฝีมือและภาษาอาจจะดูแปลก แต่ความตั้งใจเต็มร้อยเลยแหละ ไปอ่านกันได้เลยยยยยยยยยยยย.........

    * นิราศนี้เกิดจากจินตนาการล้วนๆไม่เคยไป
    * ขออนุญาตใช้รูปที่เอาขึ้นปก



    นิราศ

    ร่ายสุภาพ

              แดนดินนี้มีชื่อ แสนเลื่องลือร้อยเกาะ สุดยอดเงาะอร่อย บ่มเพาะหอยพันธุ์ใหญ่ สีสันไข่สดแดง งดงามแหล่งธรรมะ มาพบปะเพื่อนพ้อง รวมจิตคล้องผูกไว้     เป็นมิตรแท้กันไซร้         ชิดใกล้ไป่สูญ

    กลอนสุภาพ

                                                                                                    จำนิราศแสนห่างไกลไปแดนเกาะ

              หวังเพื่อให้คลายทุกข์โศกโดยเฉพาะ                              และสืบเสาะหาความฝันอันนำทาง

                        กราบพระพุทธขอพระพรอันศักดิ์สิทธ์                  มงคลฤทธิ์อยู่ข้างเคียงชี้สว่าง

              เที่ยวครานี้หวังสนุกมิให้จาง                                          ฝากสะสางหลากปัญหาให้พ้นไป

                       ลาแล้วบ้านเมืองขอนเราที่เคยอยู่                         ขึ้นรถตู้ออกเดินทางวันสดใส

              เพียงไม่นานก็ออกมาได้แสนไกล                                   ก่อนหลับใหลสู่นิทรารอเวลา

                       เมื่อผ่านไปก็ตื่นจากห้วงความฝัน                         เสียงเรียกฉันให้จ้องมองเหล่าหินผา

              ที่รายล้อมธรรมชาติท้องธารา                                       งดงามตาดั่งร่อนฟ้ามาแดนดิน

                       ลงเรือรับสายลมโกรกโบกพัดพลิ้ว                        เหมือนจิตปลิวลอยไปยังชายใจหิน

              แสนเย็นชาบอกรักไปไม่ได้ยิน                                      น้องแทบสิ้นหมดแรงหวังคู่กายา

                       มุ่งเข้าสู่กุ้ยหลินไทยเห็นใกล้อยู่                           เรือนแพคู่คือที่อยู่พักผ่อนหนา

              เก็บข้าวของสวมชุดสวยแต่งหน้าตา                             พร้อมออกมาเพื่อเฝ้ารอทานข้าวกัน

                       ฉู่ฉี่กุ้งพุงปลาแกงน่าลิ้มรส                                   หอยแครงสดน้ำลายสอชวนให้หัน

              ปูผัดพริกต้มทะเลอีกทอดมัน                                         เริ่มทานกันให้อร่อยก่อนช้าไป

                       อิ่มเสร็จสรรพยามฟ้ามืดดูเศร้าสร้อย                   ลองนั่งปล่อยเท้าจุ่มลงในน้ำใส

              พลางหวนถึงความเก่าที่พาทุกข์ใจ                               ปล่อยตัวให้จิตคิดฟุ้งมุ่งดิ่งลง

                       มองดาวเด่นอยากจะเอื้อมมาถือครอง                  แต่ต้องตรองหักห้ามจิตคิดไปหลง

              ดาวแสนดื้อดั่งใจพี่น้องสุดปลง                                      ขอโปรดจงจิตเอนอ่อนมอบดวงใจ

                       ท้องธารายามสว่างดูแสนกว้าง                            แต่ยามร้างไร้แสงกลับดูแคบใกล้

              เหมือนใจพี่สุดคับที่น้องเหนื่อยใจ                                 ตัวอยู่ใกล้แต่ใจไซร้นั้นห่างกัน

                       บรรยากาศชวนให้คิดถึงเรื่องงาน                       เหลืออีกบานต้องสะสางเหนื่อยแน่ฉัน

              แต่ยามนี้มาท่องเที่ยวสุขใจกัน                                     ปล่อยทุกข์มันลอยลมไปคงจะดี

                       เสียงรอบข้างเริ่มเบาลงส่งสัญญาณ                    คืนเปลี่ยนผ่านพร้อมขับสู้วันพรุ่งนี้

              ลุกขึ้นเดินไปหาเตียงหลับราตรี                                   ดับแสงสีลาหลับฝันพักผ่อนกาย

                                                                                                              โคลงสี่สุภาพ

                                          ยามอรุณเบิกฟ้า                      นภาขาว

                                          สายหมอกรายล้อมราว            เทพสร้าง                            

                                          หากได้กอดคลายหนาว           คงอุ่น

                                          แต่เพราะน้องรักร้าง                สุดเศร้าเหงาทรวง

                                          ชมบรรยากาศเช้า                   ตราตรึง

                                          ลมพัดชวนคะนึง                      หวั่นฟุ้ง 

                                          ดั่งใจถูกรุมทึ้ง                          รุมเร้า                      

                                          เพราะจิตคิดถึงคลุ้ง                  ห่วงเฝ้าฝันหา

                                                    กาพย์ยานี๑๑

                                           มื้อเช้าคือข้าวต้ม            พร้อมผลส้มรสเปรี้ยวหวาน

                                 ก่อนเริ่มท่องเที่ยวนาน              ทานประทังพอมีแรง

                                          ลอยแพชมทิวทัศน์           ลมโบกพัดแดดส่องแสง

                                 ช่างไร้ความแห้งแล้ง                 เพราะเป็นแหล่งเก็บน้ำใช้

                                          ลอยล่องในธารา               แสนสุดร่าเริงกายใจ

                                 อิ่มเอมสุขนี้ไซร้                         ได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

                                          บรรยากาศสงบ                จึงได้หลบมาพึ่งพิง

                                 หนีงานสุดระวิง                         ได้อยู่กับความคิดตน

                                          อยู่กลางน้ำแล้วชวน         คะนึงหวนเรื่องสับสน

                                 เรื่องรักที่ไร้หน                         ทางเดินต่อไร้สัมพันธ์

                                         อยากฝากสายน้ำนี้            และลมที่พัดผ่านกัน      

                                 บอกถึงชายคนนั้น                     ว่าดั่งที่ข้าเอื้อนเอ่ย

                                           จะรักจริงหรือหลอก         หรือเพียงหยอกโปรดอย่าเฉย

                                 เงียบต่างไม่เหมือนเคย              กลายเป็นไม่รู้จักกัน

                                          หรือมีใครบอกพี่               ว่าน้องนี้อยากสัมพันธ์

                                 หากลำบากใจนั้น                       ก็บอกกันคงเข้าใจ

                                          ไม่รักก็ไม่ว่า                      ถ้าหน้าผาสูงชันไกล      

                                 หากปีนขึ้นไม่ได้                         จะยืนรอที่ตีนภู

                                          ไม่อาจอยู่ในใจ                   แต่ขอใกล้คอยเฝ้าดู

                                 ถึงแม้พี่มีคู่                                   อาจจะเศร้าแต่ทนได้

                                          ผ่านพ้นกลางทิวเขา           ดูเหมือนเราเพ้อไปไกล

                                 กลับมาสู่จุดใหม่                          คือที่เรือนแพเราเอง

                                          ปล่อยกายลงน้ำ                 ใจชุ่มฉ่ำเพลินกับเพลง

                                 เสียงหมู่นกบรรเลง                     พาเพื่อนพ้องคืนกลับรัง

                                          ว่ายชมปลาน้อยใหญ่         หลงอยู่ในชลภวังค์

                                 สดใสปะการัง                             ธรรมชาติยังคงมี

                                          กลับขึ้นมาเก็บของ           เตรียมฉลองในคืนนี้

                                 แสนสุขสนุกดี                            แต่จะขอไม่กล่าวถึง

                                                                                          วิชุมมาลาฉันท์๘

                                          เตรียมล่องกลับบ้าน       พบพานจากลา

                                 เมื่อถึงเวลา                             ต้องปล่อยมันไป

                                          หวังเพื่อหลบทุกข์          พบสุขมากมี

                                 ช่วยได้เต็มที่                           มีแรงสู้ไป

                                          ข้าขอจดจาร                 วันวานนี้ไว้

                                 งดงามสุดใจ                           เที่ยวเขื่อนเชี่ยวหลาน    

     

     


                  
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in