[สถานที่: ร้านกาลเก่า]
(ตอนที่จัดเรียงข้อมูลอยู่กับลุค จู่ ๆ คุณก็นึกเรื่องที่สำคัญมากออกมาได้)
คุณ:
ผลวิเคราะห์สารเคมีกับรอยนิ้วมือที่เราได้มาอาจจะไม่ใช่หลักฐานที่จะเอาไปใช้ว่าความได้นะ ฉันต้องส่งหลักฐานให้ตำรวจเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้รับรองให้อีกทีก่อน
ลุค เพียร์ซ:
ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก ฉันจะปรินต์เอกสารรายงานเป็นทางการออกมาแล้วเซ็นให้เอง การรับรองจากฉันก็ใช้ได้เหมือนกัน
คุณ:
ของนายเหรอ ได้ยังไงกัน…
ลุค เพียร์ซ:
ฉันไม่ใช่นักสืบเอกชนธรรมดา ๆ ซะหน่อย
(ลุคกำลังปิดบังบางอย่างอยู่อย่างแน่นอน คุณจะหาเวลานั่งคุยกับเขายาว ๆ ให้ได้เลย)
ลุค เพียร์ซ:
แล้ว แผนขึ้นศาลของเธอรอบนี้เป็นยังไง จะมุ่งเป้าไปที่ DeliCart หรือโจมตีตัวเพโดรตรง ๆ เลย
คุณ:
เราในตอนนี้ไม่มีหลักฐานมากพอจะโยงไปถึง DeliCart ได้เลยน่ะสิ อย่างแรกเลยนะ ฉันจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเพโดรเป็นคนร้าย ผู้พิพากษาถึงจะสามารถตัดสินให้ข้อเรียกร้องฝ่ายโจทก์เรื่องค่าเสียหายเป็นโมฆะได้
ลุค เพียร์ซ:
นั่นสินะ แต่เธอจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าตัวเพโดรมีเหตุจูงใจในการก่อคดี
[เริ่มการวิเคราะห์]
คำถาม: เพโดรต้องมีแรงจูงใจในการก่อเหตุก่อน เขาถึงจะสามารถเป็นผู้ต้องสงสัยได้…
หลักฐานที่ใช้:
การขายแบบฮาร์ดเซลที่ล้มเหลว
วินนี่บอกคุณว่าเวอร์นอนได้ปฎิเสธข้อเสนอของเพโดรซ้ำไปซ้ำมา
แรงกดดันจากงานของตัวเอง
เพโดรจะถูกประจานให้อับอาย และลงโทษหากเขาทำยอดขายได้ไม่ถึงเป้า
[เชื่อมโยงหลักฐาน]
[พบความเชื่อมโยง!]
คุณ:
แรงจูงใจของเพโดรคือการที่ DeliCart กดดันให้เขาทำยอดขายให้ถึงเป้า คุณกรีนเคยเล่าว่า DeliCart นั้นลงโทษลูกจ้างด้วยวิธีที่ทำให้อับอายขายหน้าถ้าหากว่าทำยอดไม่ถึงเป้า ตัวเพโดรจะสามารถทำยอดถึงเป้าได้ถ้าคุณกรีนยอมสมัครบริการพรีเมียม แต่คุณวินนี่เล่าว่าคุณกรีนปฏิเสธไปหลายครั้งมาก ซึ่งนั่นก็คงเป็นสาเหตุที่บีบให้เขาเลือกใช้วิธีการร้ายแรงแบบนี้
ลุค เพียร์ซ:
ก็จริง คุณกรีนไม่ได้ใส่ใจคอมเมนต์เชิงลบที่อยู่บนแอปอยู่แล้วด้วย ดังนั้นเพโดรจะขายพรีเมียมของบริษัทได้ในกรณีที่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นในร้านเท่านั้น
คุณ:
ใช่เลย
ลุค เพียร์ซ:
ตอนนี้เราก็รู้แรงจูงใจเขาแล้ว เราต้องมีหลักฐานด้วยว่าเขามีโอกาสในการลงมือ อย่างเช่น ช่วงเวลาที่เขาสามารถก่อคดีได้
[เริ่มการวิเคราะห์]
โจทย์: เพโดรสามารถวางยาในน้ำในช่วงระยะเวลาหนึ่งได้หรือไม่
หลักฐานที่ใช้:
คำให้การของเวอร์นอน
น้ำแร่จะถูกจัดส่งทุกวันเวลา 06:00 ในวันที่คดีเกิดขึ้น ไม่ได้มีใครอยู่ในร้านอาหารช่วง 06:30 ถึง 08:00
เวลาเข้าออกของเพโดร
ภาพจากกล้องวงจรปิดบอกว่าเพโดรเข้าร้านมาตอน 07:28 และออกไปตอน 07:43
[เชื่อมโยงหลักฐาน]
[พบความเชื่อมโยง!]
คุณ:
ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าเพโดรอยู่ในร้านอาหาร ในช่วงเวลาที่คุณกรีนบอกไว้ว่าไม่มีใครอยู่ที่ร้าน น้ำแร่ก็ถูกจัดส่งไว้เรียบร้อยแล้วด้วย แต่ว่า…
ลุค เพียร์ซ:
ภาพจากกล้องถ่ายเห็นแค่ตัวเขาเท่านั้น ไม่มียาฆ่าแมลงสูตร 330 เราต้องการหลักฐานอื่นอีกเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้ครอบครองหลักฐานที่ใช้ก่อเหตุ
[เริ่มการวิเคราะห์]
โจทย์: ฉันจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าเพโดรเป็นเจ้าของยาฆ่าแมลงสูตร 330 ที่ใช้ก่อคดี
หลักฐานที่ใช้:
ใบเสร็จรับเงิน: เลขบัญชีผู้ซื้อ
เลขบัญชีบางส่วนของผู้ซื้อสินค้าถูกแสดงไว้บนใบเสร็จยาฆ่าแมลงสูตร 330
บันทึกธุรกรรมการเงินส่วนที่ใช้สนับสนุนเพโดร
บันทึกของเวอร์นอนแสดงจำนวนเงินที่เขาให้เพโดรไป รวมถึงเลขบัญชีของเพโดรด้วย
[เชื่อมโยงหลักฐาน]
[พบความเชื่อมโยง!]
คุณ:
ในใบเสร็จแสดงเลขบัญชีของผู้ซื้ออยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเลขนั่นก็ตรงกับเลขบัญชีส่วนตัวของเพโดรในบันทึกการทำธุรกรรมของร้าน
ลุค เพียร์ซ:
แล้วเพโดรก็ยังให้หลักฐานอื่นกับเรามาโดยไม่ได้ตั้งใจด้วย
คุณ:
เพราะเราทุกคนเห็นเขาปลดล็อกประตูและเดินเข้ามาในร้านด้วยตัวเอง
[จบการวิเคราะห์]
คุณ:
ตอนนี้เราก็มีหลักฐานแล้วว่าลายนิ้วมือบนใบเสร็จกับที่อยู่ในกลอนประตูอัจฉริยะเป็นของเพโดร! หมายความว่าเขาคือคนที่ครอบครองยาฆ่าแมลงไว้
ลุค เพียร์ซ:
ถ้าเขาปฏิเสธ เธอก็สามารถขอให้ผู้พิพากษาเทียบลายนิ้วมือพวกนี้ในศาลได้
คุณ:
เพโดรคงจะเอาใบเสร็จติดตัวมาที่ร้านอาหารตอนที่เขาก่อเหตุ ไม่งั้นมันก็คงไม่ไปอยู่ใต้ตู้เก็บของแบบนั้นหรอก
ลุค เพียร์ซ:
เราเจอลายนิ้วมือที่เหมือนกันจากบนใบเสร็จและเครื่องปั๊มน้ำดื่ม แถมยังรู้องค์ประกอบทางเคมีของยาฆ่าแมลงสูตร 330 ด้วย รายงานอุบัติการณ์ของ FSB ก็ระบุไว้ว่าเชื้อที่ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษตรงกับเชื้อที่พบในยาฆ่าแมลงสูตร 330 แต่ว่า…
คุณ:
ยังมีช่องให้เพโดรหลุดรอดคดีไปได้อยู่ เขาสามารถอ้างได้ว่าเขาซื้อยาฆ่าแมลง และถอดเครื่องปั๊มน้ำดื่มออกมา แต่ตัวเขาไม่ได้เป็นคนลงมือทำ
ลุค เพียร์ซ:
เราไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าเขาเป็นคนทำไปมากกว่านี้แล้ว แต่ที่เราทำก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ในชั้นศาลแล้วว่าเหตุการณ์นี้เป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นโดยเจตนา
คุณ:
นั่นสินะ พอคดีนี้ถูกตัดสินว่าเป็นคดีอาญา คุณกรีนก็จะพ้นผิดทันที แถมเรายังพอมีเวลาหาหลักฐานเพิ่มอยู่
ลุค เพียร์ซ:
เอาล่ะ วันนี้ก็พอเท่านี้ก่อน เธอน่าจะเหนื่อยมากแล้ว ไปหาอะไรกินด้วยกันเถอะ
คุณ:
ขอโทษทีนะลุค แต่ฉันไม่หิวน่ะ ฉันควรจะกลับไปที่สำนักงาน แล้วก็จัดการเรื่องเอกสารก่อน ฉันซึ้งใจมากจริง ๆ เรื่องที่นายช่วยฉันวันนี้ แต่ว่านะ…เฮ้อ เอาเป็นว่าเราค่อยไปกินข้าวด้วยกันทีหลังนะ ฉันไปก่อนล่ะ
ลุค เพียร์ซ:
เดี๋ยวก่อน อย่างน้อยก็ให้ฉันได้ไปส่งเธอเถอะนะ ฉันเป็นห่วงถ้าเธอจะเดินกลับไปแบบนี้
(ลุคโทรเรียกแท็กซี่และพาคุณไปส่งถึงชั้น G ของสำนักงาน คุณเดินเข้าลิฟต์และเอาตัวพิงผนังไว้ มองใบหน้าฉายแววเป็นห่วงของลุคที่ค่อย ๆ หายไปจากสายตาเพราะประตูลิฟต์ที่ปิดลง คุณรู้สึกถึงได้น้ำหนักของทุกสิ่งทุกอย่างที่ถาโถมใส่ ความเหนื่อยล้าและทุกข์ใจก่อตัวขึ้นมา คุณไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้ทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นได้ สองแขนกอดขาของตัวเองเอาไว้ เวอร์นอนกับร้านอาหารของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป คุณจะลาก DeliCart เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้อย่างไร การร่วมมือกันของคุณกับลุคในตอนโตเป็นครั้งแรกนี้จะจบลงด้วยความล้มเหลวไหม คุณจะไม่ยอมรับอะไรแบบนั้นหรอกนะ…)
(พอคุณกลับมาถึงออฟฟิศ และเห็นโลโก้ที่คุ้นเคย คุณก็นึกถึงเรื่องที่สำคัญมากออกมาได้)
คุณ:
เครือแพ็กซ์น่ะเป็นลูกค้าสำนักงานเราไม่ใช่หรือไงกัน!
(สันหลังคุณเย็นวาบขึ้นมาหลังจากที่ตระหนักได้ว่าตัวเองงานเข้าแล้ว…)
อาร์เท็ม วิง:
ไง การสืบสวนเป็นยังไงบ้าง
(พอคุณเห็นอาร์เท็ม น้ำหนักที่กดทับไหล่คุณอยู่ก็เพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว)
คุณ:
คุณอาร์เท็มคะ…เอ่อคือ…เครือแพ็กซ์น่ะเป็นลูกค้าเราใช่ไหมคะ
อาร์เท็ม วิง:
ใช่ พวกเขามีเอี่ยวกับคดีนี้เหรอ
คุณ:
คดีนี้ไม่ใช่คดีอาหารเป็นพิษธรรมดา แต่เป็นคดีอาญาที่เกิดขึ้นโดยเจตนาค่ะ เพโดร บรูกส์จาก DeliCart เป็นคนวางยาลงในน้ำ แล้ว DeliCart…ก็ดูจะมีความเกี่ยวข้องกับเครือแพ็กซ์อีกที
อาร์เท็ม วิง:
แล้วยังไงต่อ ทางนั้นข่มขู่เธอมาเหรอ
คุณ:
แพ็กซ์ไม่ได้ข่มขู่อะไรหรอกค่ะ แต่ตัวเพโดรนั่นแหละ…
อาร์เท็ม วิง:
แล้วเธอตอบไปว่ายังไง
คุณ:
ฉันบอกเขาไปว่าต่อให้เป็นตระกูลวอน ฮาเกนส์ก็อยู่เหนือกฎหมายไม่ได้หรอกนะ ต่อให้ต้องสู้คดีนี้ไปจนถึงศาลฎีกาฉันก็จะไป คือตอนที่พูดไปนั่นฉันอารมณ์ขึ้น แต่ตอนนี้เรางานเข้าแน่ค่ะคุณอาร์เท็ม…
อาร์เท็ม วิง:
พูดได้ดีนี่ คนของเธมิสต้องแบบนี้แหละ
คุณ:
หือ
อาร์เท็ม วิง:
Pax Capital ยังไม่ได้ลงทุนใน DeliCart อย่างเป็นทางการหรอกนะ หรือต่อให้พวกเขาลงทุนไปแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงอยู่ดี ถ้าทางแพ็กซ์จะตัดขาดกับเราเพราะบริษัทแค่บริษัทเดียวก็ปล่อยเขาไปเถอะ หรือหากประธานของแพ็กซ์ ออสติน วอน ฮาเกนส์ หรือทายาทของเขา มาเรียส วอน ฮาเกนส์มาสร้างปัญหาให้เธอเพราะเรื่องนี้ ก็บอกฉันแล้วกัน ฉันจะช่วยเธอฟ้องพวกเขาจนกว่าจะล้มละลายเลย
(คุณได้สติกลับมาเพราะได้ยินคำที่อาร์เทมพูด จากนั้นคุณก็หลุดขำออกมายกใหญ่)
คุณ:
ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินคุณพูดอะไรแบบนี้น่ะค่ะ
อาร์เท็ม วิง:
…
คุณ:
ขอบคุณนะคะคุณอาร์เท็ม ฉันเพิ่งรู้สึกตัวว่าฉันโชคดีขนาดไหนที่ได้ทำงานที่นี่
(คำชมจากปากอาร์เท็มที่หาได้ยากทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาก แต่ก่อนที่คุณจะได้หารือกับเขาเรื่องคดี วินนี่ก็มาที่สำนักงานกฎหมายเสียก่อน เธอเอาหลักฐานชิ้นสำคัญมาให้คุณแทนเวอร์นอน)
[ได้รับหลักฐาน ‘ภาพวงจรปิดจากห้องครัว’]
(แต่เพราะเวอร์นอนยังมีความรู้สึกผสมปนเปต่อเพโดรอยู่…เขาจึงเลือกที่จะไม่นำหลักฐานชิ้นนี้ไปแสดงต่อศาล)
หลักฐานที่ได้รับเพิ่มมาในตอนนี้
ภาพวงจรปิดของห้องครัว
ภาพวงจรปิดของห้องครัวในร้านอาหารที่จับภาพเพโดรกำลังวุ่นวายอยู่กับน้ำดื่มไว้ได้
Talk:
ใกล้จบตอนแรกแล้วค่ะทุกคน อีกนิดเดียวเท่านั้น!
แอบกระซิบนิดนึงค่ะว่าตอนหน้ายากมาก ขอเวลาหน่อยนะคะ ฉันไม่ค่อยคุ้นกับศัพท์กฎหมาย เลยแปลไปยังไม่ถึง 20% เลยค่ะ
อาร์เท็มตอนบอกจะฟ้องบ้านมาเรียสให้ล้มละลาย อ่านกี่รอบฉันก็ขำทุกรอบเลยค่ะ เป็นคำตอบที่จริงจังสมกับเป็นเขาดีจริง ๆ
แต่ฉันกับอาร์เท็มนี่ บางทีฉันก็ไม่รู้ว่าเขารักฉันไหมนะคะ ตอนอีเวนต์ทะเลทราย ฉันแตะ 100 โรลการันตีเลยค่ะถึงได้การ์ดเขามา แต่พอมาอีเวนต์ฉลอง 1 ปีที่จัดอยู่ตอนนี้ ฉันกดไปแค่ 10 โรลก็มาหาแล้วค่ะ
นับว่าเขาไถ่โทษฉันได้ไหมนะ…
วันนี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ดีใจจริง ๆ ค่ะที่ยังมีคนยังคอยอ่านงานของฉันอยู่ ทั้ง ๆ ที่หายไปหลายเดือนแท้ ๆ
ขอให้พบเจอวันที่ดีค่ะ
(จริง ๆ ฉันโพสต์งานดึก ๆ ตลอดเลย ฉันควรเปลี่ยนเป็นบอกฝันดีแทนไหมคะ…เพราะเห็นมีคนแวะมาอ่านตอนดึก ๆ อยู่เหมือนกัน)
*edited 24/7/22 แก้คำผิดเล็กน้อยค่ะ เศร้าจัง ฉันอุตส่าห์คิดว่าตัวเองตรวจทานดีแล้วนะ...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in