เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ลอง — CHALLENGE (ฺBL)paparkro9er
F) ที่สอง


  • หลังทานอาหารเสร็จพวกเขาตัดสินใจจะไปดูภาพยนตร์สักเรื่องหนึ่งเพื่อผ่อนคลายจากความตึงเครียดก่อนหน้า ไม่รู้ว่าการที่ไอ้ชา ไอ้ซันได้กลิ่น และการที่ไอ้เจมองเห็นจะทำให้เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า อย่างน้อย ๆ ตอนนี้พวกเขาก็ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น


    ไอ้ชาชี้ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง เป็นแนวอินดี้ผสมประวัติศาสตร์ แต่ถูกไอ้เจกับไอ้เป๋าปฏิเสธเสียงแข็ง มันสองคนให้เหตุผลว่าควรเลือกดูอะไรที่ผ่อนคลายสมอง ไม่ใช่ต้องดูไปคิดไป สุดท้ายจึงจบลงด้วยภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้เรื่องหนึ่ง


    ด้วยเนื้อหาที่ไม่หนักสมองเกินไป ทั้งยังทำให้ยิ้มและหัวเราะได้ ภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้จึงถูกเลือกไปโดยปริยาย ระหว่างที่ไอ้เป๋ากับไอ้เจต่อแถวซื้อตั๋ว เขากับไอ้ชาก็พากันไปเลือกซื้อป๊อปคอร์นกับน้ำอัดลมสองคนเพราะไอ้ซันติดสายโทรศัพท์กับที่บ้าน


    เนื้อหาในภาพยนตร์ก็เป็นไปดังคาด สนุกสนานและชวนผ่อนคลาย เพื่อน ๆ ของเขาหัวเราะเอิ้กอ้ากกันยกใหญ่ เมื่อภาพยนตร์ฉายจบลงพวกเขาก็พากันไปเดินเล่นโซนเกมเซนเตอร์ พวกเขาไม่ค่อยได้เล่นเกมแบบนี้กันสักเท่าไร ต่างคนจึงต่างเลือกเกมที่สนใจ


    พวกเขาวนเวียนในห้างสรรพสินค้ากันจนกระทั่งเย็นย่ำจึงตัดสินใจแยกย้ายไปบ้านใครบ้านมันตามเดิม สารถีจำเป็นอย่างไอ้เจเปิดวิทยุเพื่อฟังเพลง จากเพลงสากลยอดฮิตก็ถูกแทนที่ด้วยเพลงสตริงไทยของเมื่อหลายปีก่อน


    ที่หนึ่งไม่ไหว ฉันเต็มใจขอเป็นแค่ที่สอง ยอมเป็นคนสำรองตลอดไป


    ไอ้เจเบรกรถดังเอี๊ยดก่อนจะสบถออกมา "เชี่ย!"


    ท่ามกลางสายตางุนงงของคนอื่นในรถ ไอ้ชาเริ่มยกมือปิดจมูก ไอ้ซันเริ่มเบียดตัวเข้ามาใกล้ ไอ้เป๋าทำหน้าตาเหลอหลามองซ้ายมองขวา ทั้งยังหันกลับมามองที่เบาะนั่งด้านหลังด้วยความงุนงง และเช่นเดียวกัน เขาก็ยังไม่รู้อะไรอย่างเคย


    ตอนนี้เขาห่วงอยู่เรื่องเดียวคือพวกเขาอยู่บนถนนใหญ่ การที่อยู่ ๆ ไอ้เจเหยียบเบรกโดยไม่มีปี่มี่ขลุ่ยส่งผลให้การจราจรบนท้องถนนเกิดความชุลมุน โชคดีที่มันไม่ได้ขับรถเร็วและรถเก๋งข้างหลังขับห่างออกไปพอสมควรจึงไม่เกิดอุบัติเหตุหรือทำให้ใครบาดเจ็บ มีเพียงเสียงบีบแตรและการสบถด่าให้ได้ยินแว่ว ๆ เท่านั้น


    เด็กหนุ่มยื่นมือไปจับไหล่เพื่อนทันที "ไอ้เจมึงไหวไหม เปลี่ยนให้กูขับแทนก่อนหรือเปล่า"


    พยัคฆ์ไม่มีใบขับขี่เพราะเขายังอายุไม่ถึงเกณฑ์ไปสอบ แต่ไม่ได้แปลว่าเขาขับรถไม่เป็น เขาเอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ว่ามันตกใจอะไรถึงได้เหยียบเบรกกะทันหัน ดีที่หลังจากนั้นมันได้สติรีบตบไฟเลี้ยวและเบี่ยงรถลงข้างทางเพื่อจอดรถ


    ไอ้เจหันกลับมามองเขา ใบหน้ามันยับย่นเหมือนคนมึนงงสุดชีวิต มันอ้าปาก หุบปาก อ้า ๆ หุบ ๆ อยู่หลายทีแต่ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมา ท่ามกลางเสียงเพลงที่หนึ่งไม่ไหวที่ใกล้ตอนจบมันยกสองมือตบแก้มตัวเองเรียกสติก่อนเอ่ยตอบเขา "กูไหวไอ้ยัก ขอบใจมึงมาก วันนี้กูไปนอนบ้านมึงได้ไหม"


    เด็กหนุ่มพยักหน้าตกลงแบบไม่ต้องคิดอะไรทันที ดูเหมือนว่าไอ้เจกำลังมีเรื่องไม่สบายใจ มันตบไฟเลี้ยวอีกทีแล้วจึงขับรถกลับเข้าไปบนถนน เขาหันไปมองเพื่อนอีกสองคนที่ก่อนหน้านี้มีท่าทีแปลก ๆ ตอนนี้ไอ้ชาเลิกเอามือปิดจมูกและไอ้ซันก็ไม่ได้เกร็งตัวเหมือนทีแรก แม้พวกมันจะทำท่าทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เขาคิดว่าอะไรที่ว่ามันคงเกิดขึ้นกับพวกเขาเมื่อสักครู่นี้ไปแล้ว


    ไอ้เจไปส่งไอ้เป๋าที่บ้าน ตามด้วยไอ้ชา และไอ้ซันที่ทำท่าอยากจะพูดอะไรตามลำดับ เขาส่ายหัวเป็นเชิงห้ามกับมันก่อนที่มันจะพยักหน้าตกลงแล้วเข้าบ้านไป ไอ้เจแวะกลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าก่อนจะรีบขับออกมาด้วยความเร็วสูงแล้วหยุดลงที่หน้าบ้านของเขา


    เขาส่งข้อความไปบอกพ่อแม่ก่อนแล้วว่าวันนี้ไอ้เจจะมานอนด้วยแล้วพวกท่านก็รับรู้แล้วด้วยการส่งสติ๊กเกอร์รูปนิ้วโอเคกลับมา ไอ้เจทำหน้าเหมือนกำลังคิดไม่ตก มันฝืนยิ้มไหว้พ่อแม่เขาและตอบคำถามเพียงสองสามคำ เขาพาเพื่อนขึ้นห้องเพื่อเอาของไปเก็บและคิดว่าควรจะสนทนาบางอย่างกับมัน


    "ไอ้เจ เกิดอะไรขึ้น" พยัคฆ์เอ่ยถาม เขาหมายถึงตอนที่มันเบรกกะทันหันบนถนนใหญ่เมื่อช่วงเย็น


    เพื่อนของเขายกมือขึ้นลูบหน้า มันมองหน้าเขาแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นห้อง "กูได้ยินเสียงคนร้องเพลงคลอตามเพลงในวิทยุข้างหูกูเลย"


    "กูเลยตกใจจนเผลอเหยียบเบรก ตอนแรกกูว่าจะถามแต่นึกได้ว่าเรายังอยู่บนถนนถึงได้รีบขับไปจอดข้างทาง กูตกใจมากจริง ๆ แต่กูคิดแล้วว่าแม่งต้องมีอะไร กูเลยเงียบไว้ เลยได้ฟังเสียงคนร้องเพลงคลอไปตลอดจนจบ" มันเล่าพลางกลั้วหัวเราะ


    "กูคิดไม่ตกจริง ๆ ว่ะไอ้ยัก ไม่รู้จะหันไปคุยกับใคร ไอ้เป๋ามันก็ดูกลัว ไอ้ชาก็ดูเหมือนคิดอะไรอยู่ ส่วนไอ้ซัน กูว่ามันคงมีเรื่องเข้าหาเยอะแล้ว เลยไม่อยากรบกวน... แล้วมึงคือคนที่ดูน่าพึ่งพาที่สุดแล้วอะ กูเลยมาเล่าให้มึงฟัง" มันถอนหายใจ "ขอโทษนะเว้ยถ้าแม่งทำให้มึงรำคาญ"


    เขาส่ายหัวปฏิเสธคำมันทันที "กูไม่ได้รำคาญไอ้เจ ไม่เป็นไรหรอกถ้ามึงอยากจะพึ่งพากูหรือเพื่อนคนอื่น ๆ เราประสบเรื่องนี้มาด้วยกัน เราไม่ทิ้งกันอยู่แล้ว"


    เขาพูดให้กำลังใจพลางบีบบ่าเพื่อนเบา ๆ หวังว่ามันจะสบายใจขึ้นบ้าง มันคงไม่ง่ายนักที่จะทำตัวดั่งปกติเมื่อคนธรรมดาคนหนึ่งอยู่ ๆ ก็สัมผัสอะไรแปลก ๆ ได้ เขาจึงไม่แปลกใจเลยที่ไอ้เจจะมึนงงและตกใจกับสิ่งที่กำลังเผชิญ


    "กูไม่เคยกลัวผีมาก่อนเลยไอ้ยัก" ไอ้เจเล่า "เพราะกูคิดว่าไม่มีจริง วิทยาศาสตร์ไม่ได้สอนเราแบบนั้น แล้วดูกูตอนนี้สิ ดันเสือกเห็นผีแล้วได้ยินเสียงร้องเพลงอะไรไม่รู้ จนมันทำให้กูอดคิดไม่ได้ว่าถ้ากูเจอมากกว่านี้ล่ะ กูจะยังเป็นกูคนเดิมอยู่ไหม... กูไม่อยากให้ไอ้สิ่งนี้มาเปลี่ยนแปลงตัวกู มันน่ากลัวว่ะ"


    "มึงจะยังเป็นมึง เป็นไอ้เจคนเดิมที่เติบโตขึ้น" เขาตอบกลับ "มึงอย่าเพิ่งไปกังวลอะไรล่วงหน้า มึงไม่ได้ตัวคนเดียวนะ"


    สีหน้าไอ้เจดูดีมากขึ้น มันขยับตัวแล้วเข้ามากอดเขาเบา ๆ มันยิ้มให้เขาเหมือนได้รับความกล้ากลับคืนมา คืนนั้นเขากับไอ้เจวิดีโอคอลไปเล่าเรื่องให้เพื่อน ๆ ฟัง ไอ้ซันมีสีหน้าเหมือนรู้อยู่แล้ว ไอ้เป๋าโวยวายหนักแล้วโห่ร้องด้วยความดีใจว่าถึงคราวดวงดีของมันแล้ว ส่วนไอ้ชา... ก็ยังเป็นไอ้ชาที่พูดน้อยเน้นเอออาและพยักหน้าตามอย่างเดียว


    "มึงคิดว่ามันมีนัยนะอะไรกับเพลงนี้ไหม" ไอ้เป๋าถามขึ้นหลังจากในหัวมันทำการเชื่อมโยงเสร็จ "คืองี้นะ เพลงก่อนหน้ามึงไม่ได้ยินเสียงใครร้องคลอตามใช่ปะ แต่พอเพลงนี้มาปุ๊ป เสียงร้องคคลอตามก็ลอยเข้าหูมึง แล้วพอเพลงนี้จบมึงก็ไม่ได้ยินอะไรอีก"


    ไอ้เจพยักหน้าตอบเพื่อน "กูไม่รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกันยังไงจริง ๆ ว่ะ ไม่รู้ด้วยว่าทำไมอยู่ ๆ ถึงได้ยิน กูแม่งทำตัวไม่ถูกแล้วเนี่ย"


    "ไม่มีอะไรหรอกไอ้เจ เรื่องพวกนี้อาจทำให้มึงตื่นตัวขึ้น แต่มันก็เท่านั้น" ไอ้ซันตอบ ภาพวิดีโอจากมันเบลอเล็กน้อยเพราะมันกำลังเดินไปกินน้ำที่ครัว "ระมัดระวังไว้ดีที่สุด ไม่ว่าจะผีหรือคน จริงไหมล่ะ"


    เพื่อน ๆ ต่างพากันพยักหน้าคล้อยตามคำไอ้ซัน ไอ้เป๋าที่นั่งพึมพำอะไรของมันไม่รู้ อยู่ ๆ ก็เอ่ยขึ้น "ไอ้เจ มึงจะโอเคไหมถ้ากูเปิดเพลงนั้น กูอยากรู้ว่ามันเกี่ยวกันจริง ๆ หรือเปล่า แต่ถ้ามึงไม่โอเคก็ไม่ต้องก็ได้นะเว้ย"


    ไอ้เจหันมามองหน้าเขาก่อนที่มันจะเอ่ยตกลง ไอ้เป๋าเปิดเพลงนั้นขึ้นมา เพลงที่หนึ่งไม่ไหวที่เคยฮิตเมื่อหลายปีก่อน โดยมีเขาคอยสังเกตท่าทีของไอ้เจอยู่ข้าง ๆ เพลงเริ่มเล่นไปไม่ทันไรไอ้เจก็พยักหน้าคล้ายกับจะบอกว่าที่ไอ้เป๋าคิดมันถูกต้อง ไอ้เจขยับมืือมาบีบมือเขา มันอดทน พวกเราอดทนจนจบเพลง ไอ้เจทำท่าเหมือนโล่งอก ก่อนที่มันจะก้มหน้าลงและพูดว่า


    "หนูไม่เคยอยากเป็นที่สอง"


    จากนั้นมันก็ล้มพับไป


    (แนบเพลงประกอบ)



    TBC.



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
sxcxc (@mxcdrop)
โห ขนลุกอ่ะ เห็นภาพตามเลย
thisdayisfriday (@thisdayisfriday)
คงฟังเพลงนี้เหมือนเดิมไม่ได้แล้ว .. ติดตามครับ