เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ลอง — CHALLENGE (ฺBL)paparkro9er
K) เสียงข้างห้อง
  •  


    เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งดิ้นรนไขว่คว้าหาความรัก แล้วก็ตายตกไปทั้งยังปรารถนาในรักนั้น


    เด็กน้อยไม่เคยรู้ตัวเลยว่าที่ตนคิดว่าตัวเองเป็นที่สอง แท้จริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างที่เข้าใจ


    เด็กวัยรุ่นผู้น่าสงสาร ผู้ปรารถนาในรัก ทว่ากลับไม่รู้ตัวเลยว่าถูกรักมาตั้งแต่แรก


    .
    .
    .


    พยัคฆ์ หลวงอาสมรและเพื่อนที่เหลือนิ่งงันจากคำพูดที่โพลงขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่มีใครรู้ตัวเลยว่าในร่างเพื่อนของตนยังมีวิญญาณดวงหนึ่งสิงอยู่


    "ถ้ารักหนูทำไมถึงทิ้งหนูไป ทำไมถึงให้ความสำคัญกับอย่างอื่นมากกว่าหนู ทำไมไม่ปกป้องหนูตอนที่หนูต้องการพ่อ!!"


    "หนูทรมาน พ่อรู้ไหม หนูเจ็บ พ่อรู้หรือเปล่า หนูร้องไห้หาพ่อกับแม่ แต่ก็ไม่มีใครได้ยิน!!!" ไอ้เจอกอดตัวเอง "แต่พี่เขาได้ยินหนู"


    "ในขณะที่คนอื่นไม่เคยรับรู้อะไรเลย แต่พี่เขาร้องไห้เพื่อนหนู แม้แต่ตอนนี้พี่เขาก็ยังปลอบหนูอยู่ในนี้!" ร่างไอ้เจทุบอกตัวเองดังปั่ก


    "ทุกคนมีแต่กลัวหนู ทั้ง ๆ ที่หนูไม่ได้จะทำร้ายใคร"


    เสียงร้องไห้ของผีตนหนึ่งฟังแล้วน่าเวทนานักในความคิดของเขา เพราะเสียงของคนที่ตายไปแล้วมาไม่ถึงคนเป็น ทั้งคนเป็นและคนตายจึงต่างเป็นทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น เด็กหนุ่มมองเพื่อนที่น้ำตาไหลนองจ้องมองพระสงฆ์ชรา ในดวงตาของมันฉายแววรวดร้าวจับจิต


    น้ำเสียงและท่าทางที่แสดงออกดูน่าสงสารเสียจนไอ้เป๋าน้ำตาคลอ เขาเห็นไอ้ชาลูบหัวลูบไหล่ปลอบใจเพื่อนผ่านหางตา แล้วจึงเก็บสายตาของตัวเองกลับไปยังร่างของเพื่อนที่ถูกควบคุมอยู่ ร่างไอ้เจลุกขึ้นนั่งและตัดพ้อต่อว่าหลวงอาสมรเสียจนท่านหลั่งน้ำตา


    "นั่น...นั่นลูกหรือ" ท่านเอ่ยถามน้ำเสียงแหบพร่า  สายตาจับจ้องไปยังเพื่อนของเขาที่นั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า


    "ฮึก ฮึก ฮือ" ฝ่ายเพื่อนของเขาไม่ได้ตอบกลับอะไรนอกจากส่งเสียงสะอึกสะอื้นน่าเวทนา เด็กหนุ่มหันมองหน้าเพื่อนคนอื่น ๆ อย่างขอความเห็นว่าควรจะทำเช่นไรกับเหตุการณ์นี้ดี


    ไอ้ซันขยับเข้ามาใกล้แล้วกระซิบให้พอได้ยินสองคน "ยัก กูคิดว่าเขาอาจยอมออกจากร่างไอ้เจถ้าความปรารถนาสุดท้ายก่อนตายเป็นจริง"


    เขามองสบตามัน เห็นแต่ดวงตากระจ่างใสที่มุ่งมั่นจริงจังในสิ่งที่มันพูด เขาไม่รู้หรอกว่าที่ไอ้ซันพูดเป็นเพราะมันรู้จักเรื่องราวแบบนี้มากกว่าเขาหรือมันอาจแค่ตั้งสมมติฐานขึ้นมา เขาพยักหน้าให้มันก่อนจะหันไปกระซิบบอกกับเพื่อนอีกสองคน


    สิ้นคำพวกมันก็หันมามองไอ้ซันเป็นตาเดียวทว่าพยักหน้าให้อย่างพร้อมเพรียงกัน ไอ้เป๋าหันมากระซิบกับเขา "กูเคยอ่านเจอมาเหมือนกัน อาจจะเป็นไปได้นะ"


    พยัคฆ์เพียงพยักหน้ากับคำพูดเพื่อนแล้วจับตามองสถานการณ์แปลกประหลาดตรงหน้าต่อ ไอ้ชาหยิบแมสก์ขึ้นมาสวมคล้ายกับมันทนสูดกลิ่นตรงนี้ไม่ไหวอีกแล้ว ส่วนไอ้ซันนอกจากนั่งข้าง ๆ เขามันก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรอีก หากไม่ใช่มันทนเก่งก็คงเป็นเพราะมันไม่รู้สึกอะไร


    "ลูกยังไม่ไปเกิดอีกหรือ.... ที่ผ่านมาพ่ออุทิศบุญกุศลให้ ลูกได้รับบ้างไหม" พระสมรเอ่ยถามขณะพยายามเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ใบหน้าท่านดูทุกข์ระทมจนดูเหมือนมีอายุเพิ่มขึ้นอีกหลายปีในความรู้สึกของเขา


    ร่างไอ้เจส่ายศีรษะ ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมตอบรับอะไร ไอ้ซันเห็นว่าหากเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มันก็คงไม่มีประโยชน์ ผีสิงร่างคนนาน ๆ มันดีที่ไหน มันกระซิบบอกเขาอย่างนั้น เด็กหนุ่มไม่ได้ตอบรับอะไรนอกจากการพยักหน้ารับคำเพื่อน เรื่องทั้งหมดนี้มันใหม่สำหรับเขาจริง ๆ


    "ขอโทษทีนะครับ"ไอ้ซันเอ่ยแทรกจนเรียกความสนใจทั้งพระท่านทั้งผีในร่างเพื่อน

     

     

    "ผมอยากทราบว่าคุณจะเอายังไงกับเพื่อนผม เรื่องราวของคุณผมทราบมาแล้ว และผมเสียใจที่มันลงเอยแบบนั้น" มันสูดหายใจเข้าสายตาจับจ้องไปข้างหน้า

     

     

    "แต่คุณก็ไม่ควรมาลงกับเพื่อนของผมที่มันไม่รู้อะไรนอกจากเห็นอกเห็นใจคุณนะครับ"



    ร่างไอ้เจหันหน้าควับมามองไอ้ซัน ดวงตาที่ใช้มองมานั้นเหลือกลานน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ไอ้ซันตัวสั่นเล็กน้อยทว่ามันไม่หยุดขยับปาก ไม่หยุดจ้องหน้า จนเขาเริ่มกังวลว่าหากพูดไปมากกว่านี้ใครสักคนในร่างไอ้เจอาจไม่พอใจจนพุ่งเข้าใส่ได้



    เด็กหนุ่มขยับตัวขึ้นมาเล็กน้อยแล้วดันร่างไอ้ซันให้ไปอยู่ข้างหลัง เขาพนมมือไหว้พระท่านเพื่อขอแทรกบทสนทนาก่อนจะหันกลับไปมองเพื่อนที่ใบหน้าเริ่มไม่คล้ายเพื่อนของเขามากขึ้นทุกที



    "การที่คุณปรารถนาในรัก อยากถููกรัก มันไม่ผิดหรอกครับ มันแค่ไม่แฟร์ที่คุณต้องเป็นฝ่ายถูกกระทำ" เขาเอ่ย "ผมอาจไม่สามารถพูดไปเต็มปากว่าผมเข้าใจความรู้สึกของคุณ ผมอาจไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณเผชิญ ไม่เข้าใจในความเจ็บปวด แต่ผมอยากให้คุณรู้อย่างหนึ่งนะครับ"



    พยัคฆ์สบตา "คุณได้รับความรักที่คุณปรารถนานักหนามาตลอด แม้กระทั่งคุณตายไปแล้ว คุณก็ยังได้รับความรักนั้นอยู่เสมอ"



    ดวงตาคลอหยาดน้ำของร่างเพื่อนเขากลิ้งกลอกไปซ้ายทีขวาทีจนน่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมา มือของมันลูบอกตัวเองซ้ำ ๆ จนเกิดภาพติดตา เขาไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร แต่ถ้าหากให้เดาก็คงเป็นตัวไอ้เจเองที่ยังอยู่ในนั้น ในร่างของมันเอง



    "พ่อขอโทษนะลูก... พ่อผิดเอง พ่อผิดเองที่ผลักไสลูก" พระสงฆ์ชราเอ่ยขึ้นมาหลังจากท่านเงียบไปพักใหญ่ "พ่อขอโทษที่ไม่ได้แสดงความรักของพ่อให้ลูกได้เห็น พ่อขอโทษที่ใจแคบไม่ยอมรับตัวตนของลูกจนทอดทิ้งให้ลูกอาศัยอยู่กับญาติตามลำพัง พ่อเป็นพ่อที่ล้มเหลว พ่อสมควรตายตามลูกไปจริง ๆ"



    "ลูกไม่ต้องให้อภัยพ่อก็ได้ แต่ปล่อยเขาไปได้ไหมลูก" ท่านกล่าวพลางยื่นฝ่ามือเหี่ยวย่นหมายจะแตะสัมผัสบุตรในร่างชายหนุ่มตรงหน้า



    "พ่อจะทำทุกอย่าง... ทุกอย่างจริง ๆ เพื่อชดเชยให้ลูก แต่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับโยมคนนี้ หากลูกเข้าร่างเขานานจะทำให้เขาไม่สบายได้ เขาร้องไห้เพื่อลูกไม่ใช่หรือ เขาเห็นใจลูก... แล้วลูกไม่เห็นใจเขาบ้างหรือ" ฝ่ามือของพระสมรแตะสัมผัสลงที่ข้างแก้มเพื่อนเขาในที่สุด ปลายนิ้วท่านสั่นระริกอย่างควบคุมความรู้สึกไม่ได้



    ผีตนหนึ่งคร่ำครวญไม่หยุดแต่ก็ชะงักงันไปเมื่อปลายนิ้วมือที่ไม่ได้สัมผัสมานานแสนนานแตะอย่างอ่อนโยนที่ข้างแก้ม



    วิญญาณในร่างเด็กหนุ่มกำลังนึกถึงตนเองตอนยังเป็นเด็กน้อยที่ถูกพ่อลูบแก้มอย่างรักใคร่ยามเอ่ยปลอบใจที่ตัวเธอร้องไห้เพราะหกล้ม นิ้วมือของพ่อสากแต่อบอุ่น เธอเกือบจำสัมผัสนั้นไม่ได้แล้ว น้ำตาที่คลอหน่วยอยู่ไหลออกมา เธอจำได้เพียงความทรงจำที่พ่อแม่พาเธอไปอยู่กับญาติคนหนึ่ง ในวันที่พ่อเธอรู้ว่าเธอชอบเล่นแต่งหน้าทาปากมากกว่าเล่นหุ่นยนต์ เธอจำสายตาที่ผิดหวังของพ่อกับแม่ได้ดี หลังจากนั้นพ่อกับแม่ก็มาหาเธอน้อยลง จนกระทั่งไม่กลับมาหาเธออีกเลย



    เธอได้รับเงินให้ใช้สอยมากมายจากญาติผู้ดูแลเธอ แต่ญาติของเธอก็หาได้ดูดำดูดีเธอไม่ คุณป้าคนนั้นยอมดูแลเธอส่ง ๆ เพราะพ่อกับแม่ส่งเงินก้อนใหญ่มาให้ทุกเดือน เธอจึงเติบโตมาด้วยการใช้เงินซื้อความสุขเข้าหาตัวเอง แม้กระทั่งความรัก มันผิดอะไรหากเธอจะปรารถนาในความรักที่เธอไม่ได้รับ มันผิดหรือที่เธอใช้เงินซื้อความรัก แล้วมันผิดมากหรือไรที่เธอแค่อยากถูกรักแต่เธอกลับต้องมาถูกฆ่าตาย



    พี่ชายคนนั้นบอกเธอว่าเธอไม่ผิด พี่ชายที่เธอสิงร่างของเขาก็บอกว่าเธอไม่ผิด เขาร้องไห้ปลอบใจเธอ บอกว่าเธอสมควรได้รับความรักมากมายแค่ไหน พ่อของเธอเอาแต่กล่าวโทษตัวเอง น่าเศร้านักที่เขาบอกว่ารักเธอในตอนที่เธอเป็นเพียงวิญญาณดวงหนึ่ง เธอกลับมาคิดทบทวน... เรื่องราวของเธอ เธอก้าวพลาดที่ตรงไหน ตรงที่เธอตัดใจจากการอธิบายกับพ่อแม่ง่ายไปหรือตรงที่เธอเลือกที่จะใช้เงินซื้อความรักทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันจอมปลอม



    เธอคิดว่าต่อให้คิดไปจนกระทั่งเธอไปเกิดใหม่เธอก็อาจยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เธอหยุดฟูมฟามเมื่อได้อยู่ท่ามกลางผู้คนที่รับรู้ตัวตนและความรู้สึกของเธอ ความปรารถนาก่อนตายของเธอนั้นเรียบง่าย ส่วนความปรารถนาหลังตาย เธอมีเยอะแยะเลยทีเดียว เธออยากให้มีใครสักคนที่รับรู้ว่าเธอเป็นทุกข์ เธออยากบอกเล่าเรื่องราวของเธอให้ใครสักคนได้รับฟัง อยากถูกบอกว่าเธอสมควรถูกรัก อยากถูกปลอบประโลม อยากถูกมองว่ามีค่า มีความสำคัญและอยากเล่าว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่เธอต้องเป็นผู้ถูกกระทำ



    เธอไม่ได้แค้นเคืองในตัวคนที่ฆ่าเธอด้วยซ้ำ ทั้ง ๆ ที่เธอคิดว่าเคียดแค้น แต่แท้จริงแล้วเธอเวทนาตัวเองเสียมากกว่าที่ต้องมาตายโง่ ๆ โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันส่งผลกระทบต่อครอบครัวขอเธอมากแค่ไหน คนไม่สำคัญอะไรกัน เธอแค่นหัวเราะ หากเธอเป็นลูกที่ไม่ถูกรัก พ่อกับแม่ของเธอจะเป็นทุกข์เช่นนี้หรือ



    น้ำตาเธอไหลอาบแก้ม เธอมองสบตาพ่อของเธอและยื่นมือไปแตะชายผ้าเหลืองแผ่วเบา เธอก้มลงกราบแล้วเอื้อนเอ่ยประโยคที่ทำให้พ่อของเธอน้ำตาไหล "หนูก็รักพ่อเหมือนกัน"



    แล้วเธอก็ยินยอมออกจากร่างของพี่ชายคนที่ใจดีกับเธอไป เธอเหลือบมองสร้อยพระที่แตกร้าวบนคอขาวและเบะปากนิดหน่อย ร่างวิญญาณของเธอเป็นตอตะโกไหม้เกรียม มันน่าเกลียดทว่าพี่ชายคนหนึ่งกลับจ้องมองเธอเขม็ง แววตาของเขาอ่อนลงจากทีแรกที่เขาเค้นถามเอาคำตอบจากเธอมากทีเดียว เธอลอยไปใกล้เขาแล้วกระซิบข้างหู



    "พี่มองเห็นหนูด้วยเหรอคะ" เธอถามทั้ง ๆ ที่มั่นใจว่าเขาเห็นเธอ เขาตัวเกร็งจนขยับเข้าไปแนบชิดพี่ชายอีกคน ปลายสายตาเห็นพ่อของเธอมองซ้ายมองขวาหาเธอจนเธออดขำออกมาเล็กน้อยไม่ได้ "ขอโทษที่สร้างความเดือดร้อนนะคะ ฝากบอกพี่คนใจดีด้วยว่าหนูจะไม่มาตามแล้ว ขอบคุณที่ยอมให้หนูทำตามใจ ความปรารถนาก่อนตายของหนูเป็นจริงแล้วล่ะ"


    .

    .

    .



    สาทิสกลับมาหอพักของตนเองด้วยความเหม่อลอย วิญญาณลูกพระสมรที่ออกจากร่างไอ้เจมาคุยกับเขาก่อนจะหายวับไปกับตา เขาไม่รู้ว่านั่นคือการไปสู่สุคติหรือเพียงแค่กลับไปยังบ้านพักครูร้างริมสระหลังนั้น เขาถอนหายใจเฮือกขณะนั่งเอนหลังพิงกำแพงห้องนอน โชคดีที่คราวนี้ก็จบสวย โชคดีที่วิญญาณที่พวกเขาเจอไม่ใช่วิญญาณอาฆาตอย่างที่กังวล



    แต่พวกเขาจะโชคดีได้นานอีกสักเท่าไรกัน เด็กหนุ่มคิดอยากให้เพื่อน ๆ ของเขากลับไปมองไม่เห็นและไม่จำเป็นต้องเห็นตลอดไป เขากังวลเรื่องความปลอดภัยและสภาพจิตใจของเพื่อนมากกว่าสิ่งใด



    เขายอมรับว่าเขากลัวที่จะเข้าไปในโลกที่ครอบครัวของเขาเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ ความกลัวนั้นฝักลึกในใจมาตั้งแต่เยาว์วัย เด็กหนุ่มหลับตาลงก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบกระซาบฟังไม่เป็นภาษาอยู่ไม่ไกล เขาขมวดคิ้วแล้วลองแนบหูกับกำแพง



    บางทีีข้างห้องอาจจะเปิดโทรทัศน์ก็ได้ สาทิสคิดในใจทว่ายังคงแนบหูกับข้างกำแพงเพื่อฟังเสียง



    "ตาย ตาย ตาย!"



    อยู่ ๆ เสียงกระซิบก็ดังขึ้นจนเขาสะดุ้งโหยง เด็กหนุ่มมองซ้ายมองขวาเพื่อมองหาว่ามีผีที่ไหนแอบเข้ามาให้ห้องเขาหรือไม่ เขาส่ายหัวไปมาปฏิเสธความคิดนั้นทันที เพราะหอพักแห่งนี้เขาให้ที่บ้านมาดูเรื่องความแรงของเจ้าที่แล้วแท้ ๆ ยิ่งเจ้าที่มากอิทธิฤทธิ์ก็ยิ่งสามารถกำราบวิญญาณเร่ร่อนไมให้เข้ามารบกวนภายในบริเวณที่ท่านคุ้มครองได้



    แปลว่าไม่ใช่ผี.... สาทิสมองกำแพงสีขาวที่บางอย่างไม่น่าเชื่อด้วยความชั่งใจ ขอให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทีเถอะ เขาเหนื่อยจะแย่แล้ว



    TBC.


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
sxcxc (@mxcdrop)
ทำไมมันเดินเรื่องเร็ว ข้างห้องคืออะไร อันนี้คือหลังจากกลับมาพักแล้วใช่ไหม
sxcxc (@mxcdrop)
@mxcdrop อ่านใหม่แล้ว อ่านไม่แตกเอง 555555555555