เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
19 เป็นความผิดของข้าเอง (2/2)
  • วอลล็อคเลือกที่จะเดินเลี่ยงหลบสายตาคนงานโดยไปทางลัดผ่านโกดังเก่า เขาไม่อยากให้ใครมาเห็นว่าเขาให้ไอ้เจ้าหนูนี่ขึ้นขี่หลังตนเอง พักหลังเขามักได้ยินเสียงกระซิบกระซาบว่าเขาเอาแต่แกล้งเจ้าเด็กทาสอยู่หลายครั้ง

    แรก ๆ เขาก็ไม่อะไรหรอก แต่พักหลังมันชักจะลามปามไปกันใหญ่ หาว่าเขาใจร้ายบ้างแหละ ใช้แรงงานเกินควรบ้างแหละ ฟังแล้วปวดหัวไปหมด

    เดี๋ยวพอคนมาเห็นก็เอาไปแต่งเติมสีสันให้อรรถรสการคุยขี้โม้สนุกปากต่อปาก ฉะนั้นเขาจะไม่ยอมให้ทั้งเขาและเด็กนี่ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเด็ดขาด

    “เจ้าก็อยู่ที่นี่มาได้สักพักแล้วทำไมตัวยังเบาขนาดนี้ไอ้หนู”

    เขาพยายามชวนเกรเทลคุยเพื่อไม่ให้บรรยากาศอึมครึมจนน่าอึดอัด เขาว่าได้ปรับปรุงเรื่องโรงครัวเรียบร้อยดีแล้ว แต่ทำไมเจ้าหนูยังตัวเล็กอยู่เหมือนเดิมไม่มีผิด

    “ข้าก็…กินปกติ”

    เธอตอบเขากลับไปแบบงึมงำในลำคอเพราะยังรู้สึกเพลีย ๆ จากเวทมนตร์ผูกพันธะ วอลล็อคพอได้ยินเสียงพูดของคนบนหลังจึงพยักหน้าว่าเข้าใจ หลายครั้งที่เกรเทลกอดรัดคอเขาไว้ก็จะมีลมหายใจอุ่นของอีกฝ่ายรดต้นคอจนเขารู้สึกสยิวนิดหน่อย

    ระยะทางไม่ดูเหมือนไม่ไกลเท่าไรแต่เหมือนนานแสนนาน วอลล็อคอุ้มเกรเทลเดินไปอย่างช้า ๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร

    “ข้างนอกนั้นมีอะไรดีเจ้าถึงอยากออกไปนัก”

    หลังจากที่เดินมาได้สักพักต่างคนต่างเงียบไม่มีบทสนทนากันสักประโยค จู่ ๆ เจ้านายเธอก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง

    “…”

    เธอไม่รู้จะตอบไปดีไหมมันเกิดความลังเลขึ้นมาดื้อ ๆ ไม่พร้อมอยากบอกข้อมูลส่วนตัวกับใครเพราะเธอไม่ใช่คนที่นี่ ถ้าบอกอะไรที่แตกต่างไปเขาจะเชื่อไหมเธอก็ไม่รู้

    “บอกมาเถอะข้าไม่เอาไปโพนทะนาหรอกไอ้หนู อย่างน้อยข้าจะได้เข้าใจเจ้ามากขึ้นไง”

    ชายหนุ่มพูดออกมาเพียงแค่นั้น เขาเลือกที่จะไม่พูดต่อ ‘ว่าเจ้าใช่ลูเซีย ฮาร์ฟ หรือไม่ใช่’ เขาอยากเข้าใจว่ามันคือเรื่องจริง แต่ความคลุมเครือในตัวเด็กนี่ก็น่าสงสัยด้วยเช่นกัน

    “ท่านสัญญาได้ไหมล่ะว่าจะเก็บเป็นความลับ”

    เกรเทลรู้ว่าเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ระดับหนึ่ง ไม่สิ ระดับมหากาพย์เลยต่างหากโดยเฉพาะการยื่นหมูยื่นแมว

    “ข้าถือสัจจะเกรเทล”

    “แต่ท่านเจ้าเล่ห์เหมือนสุนัขจิ้งจอก”

    เธอสวนประโยคทันควันไม่ให้เขาได้มีโอกาสแก้ตัว ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงว่าเขามันเหลี่ยมจัด ใครจะไปไว้ใจได้ลง

    “ข้ารับปากเกรเทล ข้าแค่อยากรู้ เจ้าเลิกระแวงได้แล้ว”

    วอลล็อคเอียงคอเพื่อหันหน้ามามองเด็กทาสด้วยแววตาจริงจังและมั่นใจ เธอกระชับแขนกอดคอเจ้านายตนเองแน่นขึ้นอีกหนึ่งระดับ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าดูจริงจังผิดปกติ เธอเม้มปากแน่นลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตอบตกลง

    “ข้าแค่อยากกลับบ้านขอรับ”

    ประโยคเรียบง่ายถูกเอ่ยขึ้น เธอซุกหน้าตนเองลงบนหลังคอที่มีผมสีเขียวยาวปล่อยไว้ เธอได้กลิ่นเหงื่อจาง ๆ ผสมกับดอกไม้อะไรสักอย่างที่หอมหวนจนต้องเขยิบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ เจ้านายตนเองเพื่อสูดกลิ่นให้ชัด

    น่าแปลกที่เธอชอบกลิ่นนี้มากตั้งแต่เริ่มมาทำงานในบ้านวอลล็อค โดยเฉพาะเวลาต้องซักเสื้อผ้าและผ้าปูเตียงต่าง ๆ ก็จะได้กลิ่นนี้ลอยตลบขึ้นมาเสมอ เป็นกลิ่นหอมเหมือนดอกกุหลาบผสมกับมะลิซ้อนเจือจางด้วยกลิ่นไม้ป่าสน ผ่อนคลายแต่ไม่ฉุน

    “ข้ามีพี่ชายที่ต้องกลับไปหา…”

    แม้ว่าเธอจะยังรู้สึกเหมือนร่างกายไม่มีแรง แต่พอพูดถึงเรื่องกลับบ้านทีไรไม่รู้ว่าเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอพูดออกมาเต็มเสียงจนเกือบกลายเป็นเสียงเดิมที่ไม่ได้ดัด

    “อะแฮ่ม! ข้าอยากกลับไปหาครอบครัวแค่นั้นเองขอรับ”

    พอคนตัวเล็กพูดจบเจ้านายของเธอก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์จนเธอต้องสะกิดเรียกเขา

    “นะ…นายขอรับ”

    เขาไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดออกมา ทำเพียงแค่เดินฟังในสิ่งที่เธอพูดไปเงียบ ๆ ตลอดทางจนเกือบถึงบ้านพัก

    “ข้าฟังอยู่เจ้าเล่าต่อสิ”

    คนตัวเล็กที่ขี่บนหลังเจ้านายเงยหน้าขึ้นมาเพื่อพยายามมองเสี้ยวใบหน้าหล่อว่าเขาแสดงสีหน้าแบบไหนอยู่ แต่ก็มองไม่ชัดเจนนักเพราะมุมที่เธอขี่หลังอยู่นั้นมีผมสีเขียวยาวของวอลล็อคบดบังใบหน้าคมของเขาอยู่

    “ข้าทะเลาะกับคนที่บ้านขอรับ ยังมีเรื่องที่ต้องกลับคุยให้รู้เรื่อง…”

    เกรเทลเลือกที่จะตัดจบบทสนทนาเอาไว้เพียงเท่านี้ ให้เขารู้เรื่องเธอแค่นี้พอเพราะเรื่องราวไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรที่เขาต้องมาใส่ใจเธอ แม้จะในฐานะเจ้านายลูกน้องหรือนายหัวและทาสก็ตาม

    “…”

    “…”

    พอเธอเงียบวอลล็อคก็เงียบตาม ต่างคนต่างปิดปากไม่ชวนคุยต่อเหมือนก่อนหน้านี้ ทว่าภายในหัวของชายหนุ่มกำลังพิจารณาข้อมูลใหม่ที่เจ้าหนูทาสตัวแสบเพิ่งบอกมา ข้อมูลที่เขามีอยู่ในมือก็ไม่ตรงกับสิ่งที่เกรเทลพูดอีกอยู่ดี

     

    …เจ้าไม่ได้มีพี่ชาย…

     

    เขาชักไม่มั่นใจว่าเจ้าเด็กนี้จะเป็นตัวอันตรายอย่างสายลับตีสองหน้า กบฏ หรือแค่เด็กธรรมดาทั่วไปที่ถูกเข้าใจผิด วอลล็อคภาวนาให้เป็นข้อสามซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจตนเองว่าทำไม

    เมื่อคนทั้งคู่ต่างไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อกัน เกรเทลเริ่มสัปหงกเธอเพลียมากจนเปลือกตาสองข้างกำลังจะปิดลง ร่างกายเริ่มเอียงเอนไปมาทำให้วอลล็อคต้องกระชับแขนตนเองเอากับบั้นท้ายของคนบนหลัง

    วอลล็อคปล่อยให้คนตัวเล็กหลับไปบนหลังตนเอง เขาไม่คิดจะปลุกให้เจ้าหนูตื่นจนกระทั่งเขาพาเดินมาถึงบ้านพักของตัวเอง ทีแรกว่าจะไปส่งที่บ้านพักเจ้าตัวอยู่หรอกแต่เขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามันคงไม่ดีที่จะปล่อยให้เกรเทลกลับไปด้วยสภาพแบบนี้ ฉะนั้นคืนนี้เขาจะมีแขกในบ้านเพิ่มสักคนคงไม่เป็นไร

    เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาร่างสูงจึงส่งพลังเวทไปปลดล็อกประตูบ้านจากระยะไกล พอเขาเดินมาถึงก็แค่ผลักประตูเข้าไปเบา ๆ ตลอดหลายวันที่เขาไม่อยู่บ้านเกรเทลดูแลรักษาความสะอาดได้อย่างไร้ที่ติ บ้านมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากดอกไม้ที่ผสมลงไปในน้ำยาทำความสะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็นอับหรือไม่พึงประสงค์ ไร้คราบฝุ่นเกาะตามโต๊ะ เก้าอี้ และชั้นวางของ

     

    กริ๊ก!

     

    มือหนาเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่งจากชั้นบนสุดแล้วดึงออกมา เกิดเป็นเสียงระบบกลไกทำงานอยู่ด้านหลังกำแพง เพียงครู่เดียวนั้นชั้นวางหนังสือได้สั่นขยับเลื่อนเปิดออก ปรากฏเป็นประตูทางลับไปสู่อีกห้องหนึ่ง มันเป็นห้องนอนเล็กที่ถูกซุกซ่อนเอาไว้ใช้ในยามกรณีฉุกเฉิน

    นายใหญ่แห่งตลาดค้าทาสโมเบียสเดินเข้าไปข้างในแล้วค่อย ๆ บรรจงเอนตัวลงไปบนที่นอน แล้ววางเกรเทลอย่างเบามือจัดแจงท่าให้นอนสบายตัวที่สุด เขาหันหลังเดินไปที่ตู้เก็บของหยิบเอาผ้าห่มและผ้าขนหนูมาอย่างละผืน

    สองมือแกร่งทำการคลี่กางผ้าห่มออกแล้วคลุมไปบนตัวเกรเทล เพื่อกันลมเย็นที่ลอดมาตามช่องระบายอากาศในบ้านไม่ให้เธอเป็นหวัดไม่สบาย จากนั้นเขาเดินกลับออกมาตรงไปยังห้องน้ำ เติมน้ำสะอาดใส่กะละมังแล้วจุ่มผ้าขนหนูลงไป บิดผ้าให้หมาดแล้วนำกลับไปยังห้องที่เกรเทลนอนพักอยู่

    “ข้าเคยบอกเจ้าแล้ววอลล็อคว่าอย่าใช้เวทมนตร์นั้น”

    เสียงเย็น ๆ เอ่ยออกมาจากนอกประตูห้องนอนลับ ชายหนุ่มมองแค่หางตาก็รู้แล้วว่าเป็นใครนอกเสียจากเจ้านั่น

    “แล้วเจ้าห้ามข้าได้ไงหรือเซราส

    ร่างสีดำเมี่ยมยาว 3 เมตร เลื้อยเข้ามาใกล้ผู้เป็นนายของตนอย่างเชื่องช้า เซราสจ้องมองไปยังร่างเล็กบนที่นอนด้วยดวงตาสีแดงน่าสะพรึงแล้วลากสายตากลับมามองหน้าวอลล็อคด้วยแววตาขบขัน

    “ก็ไม่นะ ข้าเคยห้ามเจ้าได้ที่ไหนเพราะถึงห้ามไปเจ้าก็ยังใช้อยู่ดีนั่นแหละ”

     

    ------

    กดหัวใจ ❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    หากพบคำผิด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ

     

    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    เฉลยแล้วว่าผีในบ้านที่ทุกคนสงสัยคือเจ้าเซราสงูดำ 3 เมตรจากพาร์ทนู้นนั้นเองค่ะ นอกจากเป็นหมาเฝ้าบ้านแล้วยังชอบแกล้งแม่บ้านคนเก่า ๆ ด้วยค่ะ ฮ่า

    แวะมาพูดคุยเล่นหรือดูอัปเดตเกี่ยวกับนิยายไรท์ได้ที่

    Facebook : C.T.Tiana

    X (Twitter) : @Ccttiana

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in