เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
กบฏไร้เดียงสาccttiana
11 ข้าแค่กินเหลือเจ้าเอาไปเถอะ (2/2)
  • ชายหนุ่มเดินออกมาไกลแล้วหลังจากที่เอาข้าวกล่องของตนเองให้เจ้าหนูทาสไป ตอนเขาทำโทษพวกลูกน้องเสร็จเขาก็แอบยืนมองเด็กใหม่นั้นทุกฝีก้าวจนเห็นว่ามันไม่ได้ถือข้าวกลางวันออกมาด้วย นั้นหมายความว่าข้าวกลางวันหมดพอดีตอนมีเหตุการณ์ชุลมุน พักหลังมานี้ข้าวที่โรงอาหารหมดไวผิดปกติ สงสัยเขาต้องตรวจสอบเสียหน่อยแล้วว่ามีการยักยอกงบประมาณภายในครัวหรือเปล่า

    สภาพเด็กหนุ่มร่างผอมกะหร่องเดินคอตกออกมาจากโรงอาหารทำให้เขานึกสงสารปนเอ็นดู จึงตัดสินใจเดินย้อนกลับไปบ้านพัก เอากล่องข้าวตนเองที่แม่บ้านทำแยกไว้ให้เอาไปให้มันแทน ไม่ใช่เพราะเขาพิศวาสอะไรนะแต่กลัวมันจะเป็นลมไปก่อนทำงานให้เขาเสร็จต่างหาก

    ดูย้อนแย้งในตัวเองแต่ใครจะสนล่ะ เขาทำเนื่องจากพอใจที่จะทำใครจะคิดอย่างไรไม่เกี่ยวกับเขา

    ร่างสูงเลยแอบตามดูว่ามันจะทำยังไงต่อ มีบ้างที่บางครั้งเขาไม่มีเวลาก็ส่ง ‘เจ้านั่น’ ไปดูแทนเพราะใช่ว่าเขาจะมีเวลาตามดูพฤติกรรมมันได้ตลอด เขาเองก็เป็นคนมีการมีงานที่ต้องทำล้นมือไปหมด การใช้ตัวช่วยบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถทุ่นแรงไปได้มาก

    วอลล็อคตามดูเกรเทลเดินแจกขนมปังและน้ำตามที่เขาสั่งอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง รวม ๆ แล้วเกือบ 20 นาที ที่แฝงกายหลบอยู่ตามซุ้มต้นไม้ใหญ่ที่มีหญ้าขึ้นสูง เขาได้สร้างม่านบังตาไม่ให้คนสังเกตเห็นว่าเขายืนอยู่แถวนี้

    จนกระทั่งมันเดินมาแจกขนมปังให้ทาสกรงสุดท้ายเสร็จ เขาว่าจะรอจังหวะที่มันพักหรือไม่มีคนอยู่บริเวณนี้เดินเข้าไปหา แต่อยู่ดี ๆ มันก็ยืนนิ่งอยู่นานข้าง ๆ กล่องลังที่ใส่ขนมปัง ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นว่ามันยืนทำซากอะไรทำไมไม่เดินไปไหน ไม่นานเกรเทลก็มีท่าทางลุกลี้ลุกลนแปลกประหลาดหันซ้ายหันขวาเหมือนกลัวอะไรสักอย่าง แล้วมันก็หยิบเอาขนมปังขึ้นมาหนึ่งก้อนทำการยัดใส่ใต้เสื้อตนเองอย่างรวดเร็ว!


    …ไอ้หนูเจ้าขโมยขนมปังเหรอ? …


    เขาไม่แปลกใจเท่าไรกับภาพที่เห็นตรงหน้าเพราะการที่คนเราจะขโมยของกินมีไม่กี่เหตุผลหรอก ถ้าไม่หิวเอง ก็เอาไปให้คนอื่นกิน แต่วอลล็อคเชื่อว่าเป็นข้อแรกมากกว่า

    ครั้งแรกที่มันยื่นข้อเสนอมา เจ้าหนูบอกแค่ว่าขอที่พักและอาหารก็พอแล้วมันไม่ต้องการเอาค่าจ้างใด ๆ ซึ่งเขาพอเข้าใจได้ เมื่อคนเราเคยอดยากมาก่อนมันก็จะไม่ยอมกลับไปอดยากเป็นครั้งที่สองแน่นอน ความเป็นมนุษย์บางทีก็โหดร้ายเกินไป

    การดิ้นรนเอาตัวรอดของมันสำหรับเขาถือว่ามันทำได้ดี ตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกจนถึงวันนี้แม้จะผ่านมาไม่กี่วันแต่แววตาของเจ้าหนูยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง 

    มันคือความทระนงและไม่ยอมแพ้ 

    เขาชอบคนที่มีแววตาแบบนี้มันทำให้เขานึกถึงมารดาที่จากไป แต่การขโมยของไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก ฉะนั้นเขาจะสั่งสอนบทเรียนให้มันได้เรียนรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ พอให้เกรเทลสำนึก

    แล้วช่างประจวบเหมาะที่เด็กหนุ่มเดินหลบมายังจุดที่เขายืนพอดิบพอดี เขาเลยไม่จำเป็นต้องเดินไปไหนไกลแค่ลดม่านบังตาลงแล้วเอ่ยทักก็ทำให้ร่างเล็กสะดุ้งตกใจแล้ว

    การเล่นบทละครสักฉากสองฉากสำหรับเขามันเป็นเรื่องธรรมชาติจนติดเป็นสันดานไปแล้ว เก๊กหน้าโหดให้เด็กกลัวเป็นงานที่เขาถนัดยิ่งกว่าใครในโลก แถมผลพลอยได้จากการเก๊กโหดยังทำให้เขาสามารถแกล้งสั่งงานมันได้ถึงสองเท่า! โอกาสดีขนาดนี้ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ ถือว่าเสียได้แก้เผ็ดรับน้องใหม่ไปด้วยในตัว

    รู้สึกได้เลยว่าความสนุกเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเจ้าทาสตัวน้อย

    วอลล็อคคิดอะไรเพลิน ๆ จนเดินมาถึงโรงครัวเพื่อจัดการปัญหาที่เขาสงสัยตั้งแต่ช่วงเที่ยง ท่าทางวันนี้จะเป็นวันซวยซ้ำซวยซ้อนของคนเข้ากะทำงานเพราะอีกไม่นานเราจะได้เห็นคนครัวและนักการบัญชีถูกเด้งออกจากงานเรียงคนกันเลยทีเดียว

    อารอล์ฟถึงกับกุมขมับกับคำสั่งที่เจ้านายตนเองสั่งการออกมาเมื่อไม่กี่สิบนาทีก่อนหน้านี้ว่าให้รีบจัดการคัดคนงานออกตามรายชื่อที่เขาเป็นคนรวบรวมมาด้วยตนเอง ซึ่งน่าแปลกที่ร้อยวันพันปีนายเขาไม่เคยลงมาเช็กรายชื่อละเอียดยิบแบบนี้ นาน ๆ ครั้งจะมีส่งตัวแทนไปดูแลมากกว่า

    ไม่รู้พี่เขาไปคึกกินรังแตนที่ไหนมานอกจากให้คัดคนออกแล้วยังสั่งให้อารอล์ฟว่าจ้างคนครัวใหม่ที่ไว้ใจได้ พร้อมทั้งมอบหมายให้เขาเลื่อนตำแหน่งงานจากคนจัดเรียงนับจำนวนทาสให้มาดูแลทำบัญชีทั้งหมดภายในตลาดค้าทาสแทน

    แค่คิดก็ปวดหัวแล้วเขาไม่น่าพลาดบอกวอลล็อคไปเลยว่า ตนเองคิดคำนวณตัวเลขแม่นบวกกับไรเดอร์ชอบเอาเรื่องที่เขาคำนวณเก่งไปโม้กับคนนั้นคนนี้ทั่วทั้งค่าย หมดกันวันหยุดพักผ่อนอันแสนสงบ

    เสียงเปิดประตูดังขึ้นจากทางเดินเข้าบ้านอารอล์ฟหันไปมองก็เจอกับรูมเมตตนเองที่เดินเสมือนร่างไร้วิญญาณลอยไปยังเตียงตนเองแล้วล้มลงดังตึง สงสัยจะเหนื่อยจัดโดนให้ทำงานวันแรกก็งี้เพราะเขาก็ผ่านมันมาแล้วบอกได้เลยว่ารากเลือด

    “ไงเด็กใหม่ทำงานวันแรก” 

    อารอล์ฟนอนเอาแขนหนุนต้นคออยู่เขาขี้เกียจลุกเดินไปหาจึงเลือกตะโกนข้ามฝั่งไปตรงข้ามแทน

    “เกือบ…ตาย” 

    เสียงอู้อี้ขานกลับมาดูเหมือนมันจะเอาหน้าซุกหมอนทำให้เสียงที่ได้ยินขาดช่วงไปบ้างแต่ก็พอจับใจความได้

    “มีเวลาพักเจ้าก็รีบพักเถอะ เดี๋ยวพอโดนใช้ขึ้นมาอีกจะได้มีแรงทำงานต่อ” 

    พูดจบเขาก็พลิกตัวลงจากเตียงเตรียมไปจัดการภาระหน้าที่ที่วอลล็อคสั่งให้เสร็จ ไหน ๆ ก็สั่งขนาดนี้แล้วก็ทำแม่งให้เสร็จภายในวันนี้ไปเลยให้จบ ๆ

    “ข้าไปทำงานก่อนนะ เจ้าก็อย่าลืมเวลาไปโรงครัวกินข้าวด้วยล่ะ” 

    เกรเทลไม่ได้ตอบใด ๆ แค่ยกมือทำท่าโอเคส่งกลับไปแทน อารอล์ฟยกยิ้มน้อย ๆ ส่ายหน้ากับรูมเมตตนเองแล้วเปิดประตูเดินออกไปทิ้งให้เพื่อนนอนพักผ่อน เขาพอรู้ข่าวมาอยู่ว่าเด็กใหม่ไปทำงานอะไรที่ไหนบ้าง เนื่องจากเขาเป็นรูมเมตกับหมอนี่พวกปากหอยปากปูก็มักจะเอาเรื่องคนนั้นทีคนนี้ทีคาบมาเล่าให้เขาฟัง

    โดยเฉพาะเรื่องเกรเทลเป็นที่โด่งดังมากทั้งขยัน ทำงานดี ทำงานเก่ง แค่วันแรกศักยภาพยังทำได้ขนาดนี้อนาคตแววเจ้าคนนายคนคงไม่ใกล้ไม่ไกล อารอล์ฟชื่นชมเกรเทลที่ต่อให้มันเป็นชนชั้นทาสแต่ก็ดิ้นรนสุดใจ เขาไม่ใช่คนประเภทแบ่งชนชั้นวรรณะใครทำดีมาเขาก็ดีกลับคืนไป

    คราแรกที่ได้เห็นมันเดินเข้ามาในบ้านพักพูดได้คำเดียวว่ามันเป็นเด็กผู้ชายที่น่าสงสารคนหนึ่ง ใครต่อใครในตลาดค้าทาสโมเบียสแห่งนี้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามันไปทำอะไรมาทั้งตัวถึงได้น่วมขนาดนี้ จากแค่ความสงสารก็แปรเปลี่ยนมาเป็นความเห็นใจ เขาก็หวังไว้ว่าอนาคตชีวิตเพื่อนเขาคนนี้จะดีขึ้น ถึงไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวแต่สัมผัสแรกที่ได้นั้นมันทำให้เขารู้ว่าคนคนนี้ไม่ใช่คนอันตรายแน่นอน


    ------

    กดหัวใจ ❤️ หรือคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ได้นะคะ

    หากพบคำผิด แก้ไขหรือติชม โปรดคอมเมนต์อย่างสุภาพไรท์ยินดีปรับปรุงแก้ไขค่ะ


    𝑻𝒂𝒍𝒌 𝒘𝒊𝒕𝒉 𝒘𝒓𝒊𝒕𝒆𝒓

    ที่แท้นางวอลดี้ก็แค่เอ็นดูน้องสินะ แหม่ ๆ ไม่อยากจะแซว

    sdsแวะมาพูดคุยเล่นหรือดูอัปเดตเกี่ยวกับนิยายไรท์ได้ที่

    Facebook : C.T.Tiana

    X (Twitter) : @Ccttiana

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in