เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Janie Is Not So Welljanieishappy
Jane x Ritalin
  • เกือบจะ 1 สัปดาห์แล้วกับชีวิตที่มี Ritalin 

    หมอบอกถึงผลข้างเคียงว่าก็อาจจะมีใจสั่นบ้าง ความอยากอาหารลดลง นอนไม่หลับ แต่ให้กินตอนเช้า นอนไม่หลับไม่น่าจะเป็นปัญหา เราบอกว่าเรากินกาแฟตอนเช้าทุกวัน หมอก็บอกว่าพยายามอย่ากินพร้อมกันกับยา ก็โอเค เข้าใจ แล้วก็ทำตามที่หมอบอก

    ตอนรับยาจากเภสัช เภสัชก็บอกซ้ำถึงผลข้างเคียงเหล่านั้น เราเริ่มกินยาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพราะไม่อยากเริ่มยาใหม่วันทำงาน กินตอนเช้าตามโดสที่หมอสั่งพร้อมกับ fluoxetine ที่เรากินอยู่เดิม ก็งดกาแฟในวันอาทิตย์ แต่ปกติวันหยุดเราไม่ค่อยกินกาแฟอยู่แล้ว ง่วงก็นอน ฝืนทำไม วันหยุด เราควรพักผ่อน นอนกลางวันมันดีอยู่อย่าง มันไม่ค่อยฝัน เราชอบมาก ก่อนที่จะหาหมอจิตเราพยายามเลี่ยงไม่นอนกลางวัน เพราะปกติก็นอนแทบจะไม่หลับอยู่แล้ว ถ้านอนตอนกลางวัน คืนนั้นกว่าจะได้หลับก็ตีสี่ตีห้านู่น แล้วต้องตื่นไปทำงานอ่ะค่ะ ไม่ไหว จากปกติที่กว่าจะกลับก็หลังเที่ยงคืน ตื่นไปทำงานแต่เช้าก็เหนื่อยจะตายห่าอยู่แล้ว -- ขอโทษที่หยาบคาย แต่มันเหนื่อยจะตายห่าจริงๆ

    วันแรกที่กิน -- เราไม่ได้กินกาแฟ แต่รู้สึกว่าจะกินชาเขียวไป กินอาหารเช้าตอนประมาณ 8-9 โมง อิ่มเกินกว่าจะกินเที่ยง ก็นอนดูหนังนั่นนี่ไป ประมาณ 3-4 โมง ก็เริ่มสั่น นอนๆ อยู่ก็รู้สึกใจสั่น มือที่ไถโทสับอยู่ก็สั่นทั้งๆ ที่นอนอยู่ ลุกขึ้นมานั่ง วางโทสับลงแล้วดูมือตัวเอง สั่นแรงมา แฟนเห็นก็บอกเออ สั่นแรงจริงๆ นางก็ไล่ให้ให้ลงไปออกกำลังกาย นี่ก็แบบ อะไรของแกวะ เมินคำแนะนำของนางแล้วก็ลุกไปเอาแอปเปิลมากิน แล้วเราก็ยัดแอปเปิลสามลูกหมดอย่างรวดเร็ว พอกินหมดก็สั่นน้อยลง แล้วก็ลุกมาหาไรทำ ไม่รู้จะทำไรก็ล้างจาน ขัดซิงค์ เช็ดโต๊ะ แล้วก็เริ่มทำกับข้าว ก็ถือว่ามีประโยชน์อยู่นะ ทำกับข้าวเสร็จก็หิวอีก ก็กินข้าวต่อ แล้วก็อาบน้ำกินยา แล้วก็นอน

    วันที่สอง วันจันทร์ -- เรากินยาแต่เช้าก่อนออกจากบ้าน แล้วก็มากินข้าวเช้าที่ทำงาน ไม่ได้กินกาแฟ ง่วงก็ง่วงอ่ะ ทนไม่ไหวบ่ายก็เลยจัดกาแฟไปหนึ่งแก้ว กาแฟชงสำเร็จรูป ประมาณเกือบหนึ่งช้อนชากับน้ำร้อน ไม่ใส่ครีม ไม่ใช่นม ไม่ใส่น้ำตาล แต่ก็ไม่หายง่วง จนประมาณ 4 โมง เราก็เริ่มสั่นอีก อาจจะเพราะไม่ได้กินข้าวเที่ยว เราเดา เลยไปหาขนมกิน ซึ่งในออฟฟิศแม่งก็ไม่ได้มีอะไรมาก มีแต่คุกกี้หวานๆ ก็ยัดๆ ไปสองสามชิ้น ก็รู้สึกดีขึ้นหน่อย กลับบ้านก็มากินข้าวเย็น กินยา นอน

    วันที่สาม วันอังคาร -- วันนี้มีนัดศาลตอนเช้า ก็กินยาก่อนออกจากบ้านเหมือนเดิม ศาลนัด 9 โมง ตื่นสาย ก็เลยไม่มีเวลากินอะไร มาถึงก็วิ่งขึ้นบัลลังก์เลย นั่งรออย่างเบื่อๆ ไม่มีความรู้สึกตื่นตระหนกตกใจอะไร ผ่านคดีช่วงเช้าวันนั้นมาได้แบบ...จะพูดยังไงดี อารมณ์มันแบบไม่แคร์อะ ไม่สนใจ ไม่ใช่คดีเรา ไปแทนเค้า ก็ทำให้ผ่านๆ ไป ไม่อิน ไม่อะไรทั้งนั้น เสร็จศาลก็ลงมาเจอซุ้มกาแฟ รู้สึกอยากกินเนสที ก็เลยสั่งกิน หงุดหงิดเล็กน้อยถึงปานกลางที่ได้น้ำหวานกลิ่นเนสทีมาแทนเนสทีเย็นที่ต้องการ แต่ก็ไม่อะไร ช่างแม่ง กลับมาออฟฟิศ กินข้าวเที่ยง ทำงานๆ เล่นๆๆๆๆ ทำงานนิดนึง เล่นต่อ ทำงานอีกหน่อย แล้วก็เล่น ไม่ค่อยได้งานอะไรเท่าไหร่ จนกลับบ้าน ก็เออเว้ย วันนี้ไม่สั่นเว้ย ดีใจนิดนึง กินข้าวเย็น กินยา นอน

    วันที่สี่ วันพุธ -- ขี้เกียจจะตื่นมาทำงานเหมือนเดิม ความรู้สึกขี้เกียจจะลุกจากเตียงมันยังคงอยู่ ปวดฉี่มาก แต่จะลุกมาฉี่ก็ยังขี้เกียจ ตื่นแล้วนะ แต่ก็นอนเล่นโทสับ งงตัวเอง สุดท้ายก็ลุกมาอาบน้ำแต่งตัวไปทำงาน กินยาก่อนออกจากบ้านเหมือนเดิม มากินข้าวเช้าที่ทำงาน ไม่ได้กินกาแฟอีกเช่นเดิม วันนี้มีต้องไปฟ้องคดีหนึ่งเรื่อง ก็นั่งทำๆๆ เตรียมฟ้องเสร็จตั้งแต่ 10 โมงเช้า แต่ก็ขี้เกียจไปศาลช่วงเช้า นั่งรอจนบ่ายถึงไป ออกไปศาล ฟ้องคดีเสร็จ มีรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยแต่ก็ไม่อะไรเท่าไหร่ รู้สึกขี้เกียจน้อยลง แต่มีความพะอืดพะอมเพิ่มมากขึ้นระหว่างวัน อาการปกติเมื่อเริ่มยาใหม่ เราชินละ แต่ก็เบื่อ เกลียดความรู้สึกที่เหมือนจะอ้วกแต่ไม่อ้วก มันจุกๆ คอตลอดเวลา รำคาญ กลับมาออฟฟิศอีกรอบเพราะฟ้องเสร็จเร็ว แม้จะไม่มีคิวต้องรอและเจ้าหน้าที่ศาลนี้อืดอาดยืดยาดจนน่าเบื่อ แต่ก็ยังเสร็จเร็ว อยากกลับบ้าน แต่เพิ่งจะสามโมงกว่าก็เลยกลับมาออฟฟิศ มานั่งทำงานนั่นนี่ จนเลิกงาน กลับบ้าน กินข้าว กินยา นอน

    วันที่ห้า วันพฤหัส -- มีศาลเช้า นัดไกล่เกลี่ย อันนี้คดีของเราเอง ขี้เกียจลุกเหมือนเดิม กว่าจะออกจากบ้านก็แปดโมง ศาลนี้นั่งรถไฟได้ดินถึงเลยก็เลยขี้เกียจจะรีบ (มั้ง) ถึงศาลแปดโมงครึ่ง รู้สึกเบื่อเลยแวะนั่งร้านกาแฟ สั่งลาเต้ร้อน นั่งกินจนใกล้จะเก้าโมงค่อยเดินไปศาล ไปถึงก็เจอว่ามีน้องทนายฝึกงานตามมาด้วยโดยที่หัวหน้าไม่ได้บอกเราก่อน งงนิดนึงแต่ก็ไม่ใส่ใจอะไร เข้าไปไกล่เกลี่ย เบื่อหน่ายขั้นสุด รู้ตั้งแต่วินาทีแรกว่าไกล่เกลี่ยไม่ได้ แต่ก็ต้องเข้าไปไกล่เกลี่ยเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของฝั่งเรา น้องฝึกงานก็ร้อนวิชาจนน่ารำคาญ มันควรจะจบได้เร็วกว่านี้ แต่อีนังน้องนี่ก็ทำให้ทุกอย่างมันยืดยาว นี่ก็กระซิบบอกว่าไกล่เกลี่ยไม่ได้หรอก ไม่ต้องพูดเยอะ นี่อยากกลับแล้ว เบื่อ จะกลับไปทำงานอื่น อีน้องก็ไม่เข้าใจ พูดอยู่นั่น พูดมากกว่าทนายในคดีอีก งงแท้ จนทนไม่ไหวเลยบอกให้นางหยุดพูด รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันนะว่าเราร้ายใส่น้องมันรึเปล่า แต่ก็ไม่ได้ทำไรแย่ๆ นะ แค่แตะขานางให้นางหยุดพูด นางก็เข้าใจแล้วหยุดพูดทันที แล้วนางก็ไม่คุยอะไรกะเราเลยหลังจากนั้น แยกย้ายกันกลับ นางไปอีกศาลต่อ เรากลับมาออฟฟิศ บอกหัวหน้า อีน้องนั่นพูดเยอะ เห็นแล้วว่าคดีมันคุยไม่ได้ ก็ไม่รู้จะเสียเวลาพูดเยอะทำไม หัวหน้าก็บอกว่า ดีๆ ผมจะได้เตือนเค้า นี่ก็รู้สึกผิดอีก อ่าว นี่กูทำให้อีน้องนั่งมันซวยรึเปล่าวะ นี่ก็ยังรู้สึกผิดจนถึงตอนนี้ -- ตกเย็นก็ไม่รู้สึกดีเท่าไหร่ แอบสั่นนิดๆ รู้สึกตื่นๆ ยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ทำงานได้ กลับบ้านมาก็กินข้าวได้ปกติ นั่งดูหนัง กินยา ละก็นอน

    วันที่หก วันนี้ วันศุกร์ -- ขี้เกียจตื่นมาก ง่วงมาก ออกมาจากบ้านสาย กินกาแฟกินหนมจนเสร็จ นอนเล่นอยู่แป๊บนึงถึงออกมาทำงาน เลทไปครึ่งชั่วโมง หัวหน้าไม่อยู่ ช่างแม่งงงง เนื่องจากกินกาแฟไปตอนเช้าก็เลยเลื่อนมากินยาตอนเกือบๆ 10 โมง แล้วก็สั่น สั่นมาก ใจสั่น มือสั่น ง่วงอีก เบื่อ เหนื่อย รำคาญ อยากกลับบ้าน อยากนอน ไม่อยากทำงาน เขียนบล็อครีวิวไปเมื่อกี้ ไม่มีไรทำ เอาจริงๆ มีงานนะแต่ไม่ทำ เลยมานั่งเขียนบล็อคนี้ต่อ พิมพ์ไปก็สั่นไป เบื่อด้วย พะอืดพะอมอีก จนถึงตอนนี้จะเที่ยงแล้วก็ยังง่วงอยู่ หรือเพราะเมื่อเช้าซัดกาแฟมาสองช้อนชา รู้สึกหิวด้วยอ่ะ หาไรกินดีกว่า เบื่อ

    โดยรวม เรายังคงรู้สึกเหมือนเดิมนะ มีดีขึ้นอยู่สองวันปะ รำคาญผู้คนน้อยลงนิดนึง แต่ยังคงไม่อยากทำงานเหมือนเดิม เบื่องาน ไม่อยากใส่ใจ รู้สึกรำคาญลูกความ รำคาญการเรียกร้องนั่นนี่นู่น รำคาญหัวหน้า แต่ก็น้อยลง รำคาญเพื่อนร่วมงาน อยากมีความพร้อมจะตายอยู่ ไม่ได้อยากฆ่าตัวตายนะ แต่แค่รู้สึกว่าถ้ารถชนเราตาย หรือเครนหล่นมาทับเราตาย...มันก็คงจะดีเนาะ


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in