เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Janie Is Not So Welljanieishappy
Jane x Lithium
  • (อู้งานมาอัพ)

    ครบหนึ่งอาทิตย์แล้วกับการกินยาตัวใหม่ จริงๆ อยากจะมาอัพเดทก่อนหน้านี้ แต่คิดว่าควรรอให้ยามันเข้าที่เข้าทางก่อน หรืออันที่จริงคือ ควรให้โอกาสมันอีกหน่อย ให้เวลามันอีกนิด แต่เราว่า 1 อาทิตย์ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับยาตัวนี้ ถามว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม มีสิ แต่ถามว่าดีขึ้นไหม อันนี้ก็ไม่รู้จะตอบยังไงเลยจริงๆ

    จากเดิมที่เรากิน escitalopram แล้วไม่ดีขึ้น เพิ่มโดสอีกครึ่งเม็ดก็ไม่มีอะไรดีขึ้น หมอก็เลยให้ lithium มากินตอนก่อนนอน ไม่ให้ยานอนหลับ ทั้งๆ ที่เราบ่นกับหมอว่านอนไม่ค่อยหลับ พอกินไปอาทิตย์นึงก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหมอถึงไม่ให้ยานอนหลับ เพราะอิยานี่มันกินแล้วหลับ หลับแบบหลับป๊อกไปเลย เหมือนโดนตีหัว ป๊อก! แลัวก็ร่วงลงไปเลย แต่ก็ยังมีตื่นกลางดึก ตื่นมาแป๊บนึงก็หลับต่อ และก็ยังฝันมากมายวุ่นวายเหมือนเดิม ซึ่งอันนี้หมอก็ยอมรับตรงๆ ว่า “คนไข้เป็นหลายคนมาก แล้วก็แก้ไม่หายด้วย”
    อืม นี่ก็ได้แต่หวังในใจลึกๆ ว่าหมอพูดเล่น

    ความรู้สึกในตอนกลางวันก็เหมือนๆ เดิม คือตื่นมาก็ยังรู้สึกไม่อยากลุกไปไหน ไม่อยากอาบน้ำ ไม่อยากแปรงฟัน ไม่อยากทำอะไรเลย ไม่อยากรับโทรศัพท์ ไม่อยากตอบไลน์ ไม่อยากพิมพ์ ไม่อยากดูยูทูบ ไม่อยากอ่านหนังสือ ไม่อยากฟังเพลง ไม่อยากลงไปเจอพ่อเจอแม่ ไม่อยากสั่งอาหาร delivery เพราะไม่อยากคุยกับเด็กส่งของ แต่หิว หิวตลอดเวลา นี่ไม่รู้เพราะช่วงนี้เป็นเมนส์รึเปล่า แต่มันหิวมาตั้งแต่วันศุกร์ หิวแบบมือสั่น หิวมาก ใช้คำว่าโหยน่าจะถูกกว่า มันโหย แล้วมันก็กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม ตลกมาก นี่ไม่กล้าชั่งน้ำหนักแล้วอะ รู้สึกได้เลยว่าตัวนี่บึบบับมาก สงสารตัวเอง แต่ก็เกลียดตัวเองมากกว่า

    ที่เปลี่ยนไปมันเป็นเรื่องอารมณ์ซะส่วนใหญ่ จากเดิมที่เราจะหงุดหงิดง่าย อะไรนิดอะไรหน่อยก็อารมณ์เสีย ก็เหวี่ยง ก็วีน หัวร้อนง่ายและเร็ว แล้วก็จะโมโหออกทางสีหน้าและการถอนหายใจ แต่พอกินยาตัวใหม่ อารมณ์มันดู…ไม่เกรี้ยวกราดเหมือนเดิม มันยังไงดี บอกไม่ถูก มันแบบ อย่างเวลาที่เราเจอเรื่องที่ขัดใจ เดิมเราจะต้องหงุดหงิด แต่นี่เราไม่หงุดหงิด เราจะแบบ อืม อีกแลัวหรอ แล้วก็จะนอยด์ๆ เงียบๆ ซึมๆ เหี่ยวๆ ลง จะไม่หัวร้อนหรือหงุดหงิดถอนหายใจฟู่ๆ เหมือนฮิปโปเหมือนเดิมแลัว มันจะเป็นอารมณ์เบื่อแทน เบื่อที่มีแต่อะไรแย่ๆ เกิดขึ้น แล้วก็เก็บเอามานอยด์ในตอนเย็นของทุกวันแทน

    พูดถึงเรื่องเบื่อ ถึงเราจะเบื่อกับทุกอย่างเหมือนเดิม ยังเบื่อชีวิตเหมือนแต่ก่อน แต่สิ่งที่หายไปคือความรู้สึกอยากตาย ไอ้ความรู้สึกที่ว่าเราเบื่อชีวิตมากจนต้องหาทางตายเพื่อให้ทุกอย่างมันจบๆ ไป มันไม่มีแล้ว เราไม่ได้คิดเรื่องตายมาเกือบจะอาทิตย์นึงได้แล้ว จากเดิมนี่คิดทุกวัน แต่ถามว่ายังเบื่อเหมือนเดิมไหม ตอบได้ทันทีเลยว่าเบื่อมาก โคตรเบื่อ เบื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เบื่อแม่งไปหมด

    เรายังไม่ค่อยยิ้มเหมือนเดิม ไม่ขำ ไม่ตลก ไม่มีอารมณ์ฝืนตัวเองให้ร่าเริงเพื่อหลอกใครต่อใครว่า ชั้นมีความสุข ชั้นปกติดี ไม่มีอารมณ์แต่งหน้าแต่งตาทำผม เสื้อผ้าก็ใส่แต่ชุดเดิมๆ วนๆ ไป ไม่มีอารมณ์ซื้อใหม่ ไม่มีอารมณ์ทำอะไรทั้งนั้น สภาพตอนนี้ก็จะศพๆ หน่อย ไร้ชีวิตชีวา คนรอบข้างเริ่มห่วงจริงจัง แม้ว่าเค้าจะไม่พูดตรงๆ แต่นี่รู้สึกได้ว่าเจอคำถามแปลกๆ บ่อยขึ้นทุกวัน อย่างเมื่อวันพฤหัสที่แล้ว หัวหน้าแพลนว่าจะไปหัวหินวันศุกร์ แล้วให้เราไปด้วย เย็นวันพฤหัสนางประชุมนาน เราเลยหนีกลับบ้านก่อน พอค่ำๆ เราเลยโทรถามหัวหน้าว่าไปหัวหินพรุ่งนี้ จะออกกี่โมง หัวหน้าก็ถามมาว่า “เจนโอเคหรอ” เราก็ห๊ะ หัวหน้าพูดอะไร งง “เจนโอเคใช่ไหม เจนไม่มีอะไรใช่ไหม” นางถามอีก
    เราก็ตอบไปว่า เราไปได้ ทำไมอะ นางก็ถามย้ำว่าแน่ใจนะ เฮ้ย นี่งงจริง อะไรของหัวหน้า ไม่เข้าใจ

    ตลอดทางที่นั่งรถไปหัวหิน หัวหน้าก็ขับรถเงียบๆ ไม่พูดอะไร เราก็เงียบ เงียบกันตลอดทาง มีขากลับที่นางพาเราไปไหว้พระ 2 วัด แล้วบอกเราว่า “มีอะไร เครียดอะไรก็ขอพรท่าน อย่างน้อยๆ ก็เพื่อความสบายใจของเรา”

    โอยยยยย หัวหน้า มีอะไรก็พูดตรงๆ ไหม คือนอกจากจะต้องดีลกับตัวเองแล้วยังต้องมาดีลกับคนรอบตัวที่ทำตัวแปลกๆ อีก มันเหนื่อยนะ

    กับพ่อ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม เบื่อๆ เซ็งๆ ใส่กัน พักหลังไม่ค่อยได้เจอหน้ากันด้วย ก็เลยไม่รู้จะคุยอะไร เราก็เงียบใส่เค้า ไม่พูด ไม่บ่นอะไรทั้งนั้น เค้าก็ไม่ถามไม่ไถ่ เออ ให้มันได้อย่างงี้สิ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in