เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Earwormfray_04
The first album I bought จุดเริ่มต้นของสายเปย์
  • เราเป็นเด็กต่างจังหวัด ร้านค้าที่หรูที่สุดที่จะหาได้แถวบ้านคือ ร้านโชห่วยของตาแป๊ะปากซอย
    ดังนั้นหมดหวังตั้งแต่ยังไม่เริ่มหวังเลยล่ะ สำหรับการจะตามหาซื้อแผ่นซีดีเพลงที่ชอบ 
    เพลงที่ฟังๆอยู่ ก็อาศัยผลบุญตามแต่ปู่กับย่าจะเปิดให้ฟังตอนพวกเขาอารมณ์ดีตอนบ่ายวันหยุด         เราก็เลยได้ฟังอรวี สัจจานนท์ สลับกับเพลิน พรหมแดน ปนๆด้วยมนต์แคน แก่นคูณ ผสมกับ The Eagles (งงดีแท้ 555) ไปพลางๆ อยากฟังเพลงใหม่ก็คงต้องอาศัยดวงจูนคลื่นวิทยุไปคลื่นที่เขาเปิดเพลงวัยรุ่นๆ หน่อย ก่อนจะโดนปู่กับย่าหมุนคลื่นกลับไปฟังลูกทุ่ง (แง TvT/) 

    พอย้ายกลับมาอยู่กับพ่อแม่ ชีวิตก็เหมือนโดนยกระดับขึ้นมา 1/2 ขั้น 
    ทำไมนะเหรอ

    บ้านเราเป็นร้านขายเพลงและหนัง
    เย้!
    อ่านมาถึงตรงนี้ เราว่าคงมีคนคิดว่า สบายแล้วสิ อยากได้แผ่นไหนก็หยิบได้เลย ไม่ต้องเสียตัง บ้านขายซะอย่าง
    ยัง ช้าก่อน มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น จุดเริ่มต้นการเปย์สำหรับศิลปินของเรายังไม่เริ่มต้นที่ตรงนี้
    เพราะบ้านเรามีกฎเหล็กที่ว่า ของขายก็คือของขาย อยากได้ก็ต้องซื้อ! 
    ซึ่งเด็กได้ตังไปโรงเรียนวันละไม่เกิน 50 บาทอย่างเราตอนนั้นจะเอาตังไหนมาเปย์โบ้มๆ ให้ศิลปินกันล่ะ 
    เราทำได้อย่างมากก็แค่ลูบๆ คลำๆ และมองตาละห้อยตามลูกค้า( โดยเฉพาะเด็กๆ ที่พ่อแม่พามาเปย์ )ที่หิ้วแผ่นเพลงที่เราเองหมายตาเอาไว้ออกไป จะละห้อยหนัก หากว่ามันเป็นแผ่นสุดท้ายของร้าน 
    แต่จากตรงนี้ มันทำให้เราได้เข้าใกล้กับของทำมาหากินของศิลปินมากขึ้นไปอีกขั้น และเราก็ถูกปลูกฝังไปกลายๆด้วยว่า คนเรารักชอบศิลปินหรืองานอะไร ก็ควรจะสนับสนุนงานลิขสิทธิ์นะ 
    ทำไมนะหรอ? ก็ถ้าคนไม่เห็นความสำคัญของสิ่งพวกนี้ ร้านเราก็จะเจ๊งนะสิ เออ!!!
    มันก็ส่วนนึงแหละ แต่ความสำคัญจริงๆคือศิลปินก็ต้องกินต้องใช้ จะได้มีสมองเอามาแต่งเพลงใหม่ๆให้ฟังได้อีกไงละ 

    พูดมากจังว่ะ ฮ่าๆ มาๆ เปิดวาร์ปมาตอนสู่ตอนที่เราได้สัมผัสกับ อิสระทางการเงินครั้งแรกกัน
    ซึ่งช่วงเวลานั้นคือ ตอนที่เราสอบเข้ามหาวิทยาลัย และได้ย้ายมาอยู่หอนั่นเอง
    ------------------------------------------------------------
    ไม่เกริ่นแล้วกัน นี่ว่าเริ่มพูดมากไป เข้าเรื่องเลย

    อัลบั้มแรกที่เราซื้อคือ 

    Memory Lane: The Best of McFly ของวง McFly นั่นเองงง 



    อัลบั้ม: Memory Lane: The Best of Mcfly 
    ศิลปิน: Mcfly
    ค่าย: Island Records
    ปี: 2012
    สมาชิก:Tom Fletcher,Danny Jones,
     Dougie Poynter, Harry Judd

    เราซื้อแผ่นเพลงวงนี้ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยฟังเพลงของวงนี้จริงๆจังๆเลย
    อ้าวเฮ้ย 5555

    คืออย่างนี้ เรารู้จักนักร้องนำ และวงนี้ จากการที่ชื่อวงดันไปเหมือนกับตัวละครโปรดเรา 
    Marty McFly จากหนังไตรภาค Back to the Future นั่นเอง
     ซึ่งพอไปอ่านประวัติวงดูแล้ว ก็พบว่า Tom Fletcher นักร้องนำของวงเป็นคนเสนอชื่อนี้ขึ้นมา เพราะเขาชอบเรื่องนี้นั่นแหละ เย้ ถูกชะตามาเลย มะ มาฟังกันซะหน่อย
    เราก็ได้ลองเปิดเพลงใหม่ๆ ของพวกเขาดู 
    ก็ไปเจอเพลง Love is Easy ซึ่งออกในปี 2012 เหมือนกัน เป็นซิงเกิ้ล 
    ฟังแล้วชอบมาก มีความสดใส โลกสีชมพูมากๆ ลองฟังดู

    ก็เออ ก็ฟังเพลงนี้แล้วก็ฟังเพลงอื่นๆไป (ซึ่งมาคนละแนวกับเพลงนี้เลย แต่ก่อนพี่ๆเขาพังก์มาก ซึ่งก็ชอบเหมือนกัน 5555 เพลงนี้ออกหลังจากที่พี่ๆเริ่มเป็นพ่อคนกันแล้ว สดใสเชียว)

    ก็ฟัง จนลืมไป จนวันนึงไปเดิน B2S ก็แบบ เอ๊ะ! ไม่เคยเดินไปแถวแผ่นเพลงเลย ไปดูหน่อยสิ
    ตอนเด็กๆ เคยชอบไปยืนตรงเสาที่เขาจะเอาแผ่นซีดีมาใส่ไว้แล้วมีหูฟังให้กด ทดลองฟังได้ (ชอบมากๆ)
    นี่ก็ไปเดินเล่นๆ แล้วสายตาก็ป่ะ เข้ากับอัลบั้มนี้แหละ แล้วก็พลิกดูราคา 385 บาท อื้ม ก็แอบผวาและชะงักไปนิดนึง 55555 แบบซีดีนี่มันราคาแรงกันขนาดนี้เลยหรอว่ะ จำได้ที่บ้านขายแผ่นเพลงสตริง นี่แค่ 195 (กี่ปีมาแล้วเอ็ง) แต่ก็ยังจับแผ่นไว้แน่น พลิกดูอีกที เห้ย 2 แผ่นเว้ย หารออกมาก็ตกแผ่นละ 193 บาท
     เออ ก็ปกตินี้หว่า แล้วก็ยืนคุยกับตัวเองอยู่นานเลยล่ะ 
    (มารู้ทีหลังว่านี่เป็นแบบ deluxe แล้ว มี 2แผ่น อันปกติ มีแค่แผ่นเดียว เปย์ครั้งแรกก็ยิ่งใหญ่เลยอะ 555)
    แบบเห้ย มึงบ้าเปล่า ฟังเพลงเขาแค่สองเพลงเอง จะซื้อบั้มเลยหรอ แล้วถ้าไม่ชอบขึ้นมาจะทำไง
    อีกฝั่งก็บอก นี่ไง อัลบั้มรวมฮิตเลยนะเว้ย เขาก็ต้องขนมาแต่เพลงปังๆอยู่แล้ว จะได้ลองฟังให้ครบไงแล้วค่อยตัดสิน เป็นการทำความรู้จักที่รวบรวดและรวดเร็วที่สุดแล้ว

    สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อมา แฮ่ 
    แล้วก็พบว่า ชอบทุกเพลงเลย รักมาก กลายเป็นติ่งวงนี้ไปในทันที c:
    ใครอยากดูรายชื่อเพลงทั้งหมด จิ้มเลย
    พูดคร่าวๆคือ แผ่นแรกจะรวมเพลงยอดฮิตของพวกเขา 5 อัลบั้มในช่วง 9 ปี
    แผ่นที่สองจะรวบรวมเพลงcover ที่พวกเขาเคยร้อง, เดโม่ของเพลงฮิตของวง และรวมไปถึงพวกB-Sides ทั้งหลายด้วยจ้า 

     ขอพูดถึงเพลงโปรดเราจากแต่ละแผ่นละกัน
    Disc One
    -Love Is Easy
    -Shine a Light ft. Taio Cruz
    -Falling In Love
    -Star Girl
    -Room on the 3rd Floor
    -Obviously
    -You've got a friend (เพลงนี้เป็นเพลงในโครงการ Comic Relief ด้วยนะ)
    -POV
    จะหมดบั้มแล้ว 5555 จริงๆ คือชอบแทบทุกเพลงเลยแหละ 
    คือวงนี้มีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดจากวัยรุ่นสุดเฮ้ว ที่เพลงก็จะมาแนวพังก์ๆ จี๊ดๆ กวนประสาทชาวบ้าน
    ก่อนที่จะโตขึ้นจนสมาชิกในวงทยอยแต่งงาน มีครอบครัวกันไปแล้ว เพลงก็จะมุมิๆ ขึ้น สุขุมนุ่มๆขึ้น เราก็ชอบอีกนั่นแหละ พอชอบแล้วก็เริ่มเอาไปขายชาวบ้านต่อสิ มาติ่งด้วยกันนนนนน

    เพื่อนเราบอกว่า เขาชอบพี่ทอมจาก Wedding Speech อันโด่งดัง คิดว่าหลายๆคนอาจจะเคยเห็นผ่านตาบ้าง 
    ซึ่งทำนองของเพลงที่เขาร้องใน Wedding Speech ก็มาจากเพลงในอัลบั้มที่พวกเขาเคยเขียนมานี้แหละ ลองฟังจากตรงนี้กันก่อนก็ได้นะ :)


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    นั่นแหละ ประสบการณ์การเสียตังให้ศิลปินครั้งแรกของเรา โอ้โห้ พูดเลยว่าพอมันมีครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อๆมา นี่ใช้เวลาคิดสั้นลงเรื่อยๆ ก่อนจะเสียตัง ฮ่าๆ จนตอนนี้แถวแผ่นซีดีที่เรามีอยู่ก็เหยียบ 30 แผ่นแล้ว 
                 บางทีก็มีความคิดเหมือนกันนะ ตอนที่นั่งปัดฝุ่นและเรียงอัลบั้มพวกนี้ว่าซื้อมาทำไมนะ เพราะเราซื้อมาก็เอามา Rip fileลงเครื่องคอมแล้วก็เอาเพลงลงมาฟังในมือถืออยู่ดี ไม่ได้เปิดแผ่นฟัง 
    ยิ่งโน๊ตบุ๊คสมัยนี้ไม่มีช่องใส่ซีดีไปอีก (อันนี้เราเพิ่งรู้ไม่นาน น่ากลัวสำหรับชอบหนังแผ่นและฟังเพลงแผ่นแบบเรามาก ฟฟฟฟ) จะซื้อมากองให้จมฝุ่นทำไม เพื่อนเราหลายๆคนก็ถามคำถามเดียวกันนี้
    แต่เราก็ได้คำตอบว่า เราจำความรู้สึกตอนที่เราไปรื้อกองสมบัติแผ่นซีดีของปู่หรือของแม่ แล้วเอาวิ่งไปถามพวกเขาว่าแผ่นนี้เป็นยังไง แล้วดูพวกเขาพูดให้ฟังด้วยสายตาเป็นประกายได้ เราประทับใจมาก
    เราเลยตัดสินใจจะทำคอลเลคชั่นของตัวเองไว้บ้าง อย่างน้อยไม่ได้อวดใคร ก็ขอเก็บไว้อวดหลานๆ แหละว่าเราจะเป็นน้า/อา/ป้า/ย่า/ยาย คนคูลให้หลานๆว้าวว่าเราเองก็มีรสนิยมทางดนตรีเหมือนกันนะ ฮิฮิ

    พอคิดได้อย่างงี้แล้ว ก็ยิ่งส่งเสริมความหน้ามืดในการเสียตังให้อัลบั้มมากกว่าเดิม โอ้ย 5555
    แต่เราสามารถพูดได้เต็มปากเลยว่า เราชอบและรักทุกแผ่นเพลงที่เราซื้อมา
    และเรารอวันที่เราจะสามารถซื้อเครื่องเสียง และ เครื่องเล่นไวนิลของตัวเองได้ เมื่อนั้น เราจะขยับขยายการเปย์ไปที่แผ่นไวนิลด้วย เพราะเราชอบความสวยของมัน และอยากพิสูจน์ที่เขาพูดกันว่าฟังเพลงจากแผ่นไวนิลมันนุ่มละมุนต่อหูมากกว่าแผ่นซีดียิ่งหนัก ฮึ้มมม รอข้าก่อนเถอะ!


    แล้วเพื่อนๆล่ะ จำได้มั้ยว่าซื้อแผ่นเพลง หรือแผ่นหนัง หรืออะไรก็ตามแต่ ครั้งแรกตอนไหน ซื้ออะไร และยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้มั้ยนะ แล้วยังอยากซื้อต่อไปอีกมั้ย 
    มาคุยกันเถอะ :) 


    ใช้แฮชแท๊ก #จุดเริ่มต้นสายเปย์ เลยนะ เราอยากอ่าน
    มาพูดคุยเรื่องเพลง หนัง ติ่งกับเราได้ที่ @fray_04 ในทวิตเตอร์เลย


    รักศิลปิน สนับสนุนศิลปินด้วยการซื้อของแท้ ถูกลิขสิทธิ์นะจ้ะ 

    เขาจะได้มีกินมีใช้ 555 ออกเพลงมาให้พวกเราเปย์กันได้ต่อๆไป 





Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in