เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
อยู่ดีๆก็รู้สึกอยากไป...ก็ไปเลยอะMK MB
อยู่ดีๆก็อยากไปเชียงใหม่


  • ทริปเชียงใหม่เริ่มเมื่อไรไม่รู้ลืมแต่เบื่อปัญหาหลายอย่างที่เข้ามาในชีวิต

    จะหนีไปเชียงใหม่

    เที่ยวเชียงใหมแบบเช้าเย็นกลับ

    เริ่มต้นไปคนเดียว

    ไปนั่ง รฟ ที่หัวลำโพงค่าตั๋ว 200 กว่าบาท

    ตอนนั้น รฟ ฟรีหมดแล้ว

    นั่งไปเป็น รฟ ธรรมดาไม่มีแอร์ไม่มีอะไร

    ได้นั่งติดหน้าต่างกับครอบครัวนึง

    มีแม่ลูก ลูก 1-2 คน ลูกชายทั้งคู่

    เขาก็ไปนั่งเชียงใหม่เหมือนกัน

    รฟ ออกจากหัวลำโพงบ่าย1กว่าๆ

    นั่งยาวเลย

    หลับแบบอิ่มอะไม่รู้จะหลับอะไรเพิ่มละ

    คนไม่เยอะมากเพราะไม่ใช้เทศกาล

    นั้งไปถึงช่วงเย็นก็เริ่มหิวข้าวละ

    หาไรแดกดีกว่า

    มันก็มีโบกี้อาหารอยู่ไปสั่งข้าวหมูกระเทียมไข่ดาว ราคาประมาณ90฿

    แพงเหี้ยๆ มึงเอาหมูพันธุ์เหี้ยไรมา

    ทอดเนีย แต่ก็โดนเล่นไปตั้ง 90฿ นั่งแช่แม่งตรงนั้นให้คุ้มเงินเลย

    ตอนเย็นๆพระอาทิตย์ตกสวยมากก

    วิวสบายมาก ลมพัดเย็นๆพร้อมฝุ่นข้างทางอีกเป็นกอง

    พอพักชิวเสร็จก็กลับไปนั้งที่ แต่ประเด็นคือ ลุกเสียม้าสิจ้ะ ถึงแม้จะเอากระเป๋าวางจองไว้

    เด็ก2คนนั้นที่นั่งมาด้วยกันแดกที่ไปเรียบร้อยจ้าา

    เราโตกว่าเด็กอะเนอะจะไปบอกว่า "เฮ่ย!!"

    "หลบที่กู ไม่หลบเดี๋ยวก็อุ้มโยนลงรถไฟแม่ง"

    มันก็ไม่ใช่ปะ5555

    ด้วยความเกรงใจทั้งๆที่เป็นที่ของตัวเองก็ให้เด็กเขานั่งไปอะ

    เราก็ไปนั่งที่อื่นแทน


    ก็ไปยื่นไปนั่งตรงทางขึ้นลงของ รฟ แทน

    พอตกดึกก็จะมีคนเอาของมาขายเต็มเลย

    มีทั้งโจ้ก,ข้าวต้ม,ซาลาเปา,ขนมจีบ,ผัดไทย,เอาเป็นว่าเยอะอะ

    แต่ไม่ได้ซื้อไรกินหรอกกลัวปวดท้อง

    เวลาผ่านไปพอดึกมากเด็กๆก็เริ่มหลับกัน

    ละเด็กก็หลับยาวเลยจร้า

    กูคือไม่มีที่นั่งแล้วเด็กนอนแดกที่

    เอาละทีนี้...

    เร่ร่อนเลยทีนี้

    ไปนั่งอยู่ที่ขึ้นลงเหมือนเดิม

    ห้ามหลับนะถ้าหลับตกไป รฟ เหยียบตายนะ

    พอผ่านเที่ยงคืนไป ประมาณตี1ตี2อากาศเริ่มหนาวละก็ไปหยิบเสื้อหนาวมาใส่ ตอนนั้นท้องฟ้าโปร่งมาก มองเห็นดาวเต็มท้องฟ้าเหมือนเป็นทะเลดาว

    วิวตอนนั้งตรงนั้นคือฟินมากมันจะเป็นป่ามืดซึ้งมองไปก็จะมีแต่เงาต้นไม้และดวงดาว บางช่วงที่ รฟ ขับขึ้นเขาบางทีมันเหมือนข้ามสะพาน

    คือตอนนั้งอยู่ทางขึ้นลงอะ

    มองลงไปแบบสูงมาก ตกลงไปก็ตายอยู่กลางป่านั้นและ

    ถ้าไปก็ลองไปนั้งดูสักครั้ง แล้วจะลืมไม่ลง

     พอประมาณตี3กว่าๆถึงจะได้ที่นั่งเพราะที่นั่งพระที่มีพระนั่งอยู่

    พระท่านลงตอนเกือบปลายทาง

    ก็เลยได้ไปนอนที่พระนิ้ดนึงละไม่นานก็ถึงเชียงใหม่ประมาณตี4

    ลงมาก็หนาวอยู่ 

    ตอนนั้นแบตโทรศัพท์น้อยละก็เลยหาปลั๊กกะจะชาร์จฟรี

    เจอปลั๊กแล้วแต่โชคร้ายอย่างนึงคือโทรสับกูก็เสือกรูชาร์จพังอยู่ ชาร์จไม่ค่อยเข้า

    แต่ก็ทนฝืนชาร์ตมายันเช้าได้

    ตอนนั้นประมาณ6โมงมั้งก็เริ่มจะชาร์จเต็มละ

    ละมีครอบครัวนึงมาทักเขานึกว่ากูเป็นคนเชียงใหม่ จะถามที่เที่ยว

    กูก็บอกไม่ใช่มาเที่ยวเฉยๆมาคนเดียว

    เขาก็ถามจะไปไหนก็บอกจะไป

    ดอยสุเทพละก็คุยแบบละพี่จะไปไหนกันเขาก็บอกก็ยังไม่รู้ละก็ไม่ได้อะไรมากก็แยกกัน

    กูก็หิวละหาไรกินดีกว่า

    กูก็ไปซื้อไข่เจียวหน้า7-11ตรงแถวๆสถานนีละก็ไปนั้งกินคนเดียว

    ละจู่ๆก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้นก็คือคนที่คุยกันว่าจะไปไหนที่สถานนีอะเขาเหมารถแดงมากับอีกครอบครัวนึงแล้วก็ขับผ่านหน้าแล้วเขาก็ตะโกนว่า "น้องพี่ไปดอยสุเทพไปด้วยกันป่าว!!"


     กูก็ด้วยความมึนงงบวกกับก็อยากไปอยู่แล้ว

    ไม่อยากเสียค่ารถไปดอยสุเทพแพงๆด้วย เลยตอบไป

    "ไปด้วยพี่ๆ!!!"

    ก็เลยตอบตกลงไปทั้งๆกินไข่เจียวอยู่นั้นและ

    ละค่อยไปทำความรู้จักทุกคนในรถแดง

    มีอยู่6คนรวมกูด้วย

    ละแบบทุกคน ผญ หมดเลย

    มีกู ผช คนเดียว

    มีคู่นึงก็คือพี่ ผญ กับ ป้า ผญ

    ก็คือคู่ที่ถามตอนแรกอะและว่าจะไปไหน

    ก็มารู้ทีหลังว่าพี่ ผญ ชื่อพี่นุช ส่วนป้า ผญ 

    จำชื่อไม่ได้ พี่ ผญ เป็น ครู ส่วนป้า ผญ ก็น่าจะเป็นครูเหมือนกัน

    ละก็อีกกลุ่มที่มาด้วยกันอันนี้ก็มาเป็นครอบครัวมา รฟ ด้วยกัน

    เป็นแม่ละก็ลูกละก็แม่ของแม่5555

    ก็คือมีเด็กคนนึงด้วยเด็กอายุยังไม่ถึง10ขวบเลยมั้งเป็นน้อง ผญ น่าร๊าก

    แต่3คนนั้นอะ ลืมชื่อหมดเลย

    แต่ว่าที่จำได้คนเดียวคือพี่นุช


    เข้าเรื่องพอทำความรู้จักกันเสร็จละ

    รถแดงก็พาเราไปดอยสุเทพ พอขึ้นดอยเรื่อยๆก็จะเจอคนเดินขึ้นคนวิ่งขึ้นดอยสุเทพอยู่เป็นระยะๆ

    รถแดงก็พาไปจอดจุดชมวิวสักพัก

    แล้วก็ไปถ่ายรูปกัน



    ละก็ขับขึ้นไปดอยสุเทพพอถึงดอยก็แยกย้ายกันเดินเที่ยวทิ้งเบอร์ทิ้งไลน์กันไว้ติดต่อเวลาจะรวมกลับขึ้นรถ

    กูก็แยกย้ายไปเดินเล่น

    หิวน้ำไปซื้อชาเย็นมากินอร่อยดีเข้ากับบรรยากาศดี

    ถ่ายรูปลงสตอรี่ไอจีพอเป็นพิธี

    ให้คนอื่นอิจฉาเล่น555555

    พอเดินไปถึงบันไดหน้าวัดก็จะมีเด็กน้อยชาวเขาอยู่น่าร๊ากกกมากก

    ทุกคนที่เคยไปก็น่าจะเห็นอยู่และ

    น้องเขาก็จะพูดแบบว่า

    "พี่สุดหล่อพี่สุดสวยข้าาาถ่ายรูปกับหนูไหมคะ"

    คือแบบน่ารักอะเสียงน้องเขาก็น่ารัก

    น่าฮัก

    น่าฮักกลับบ้านอะอีเหี้ย5555



    เออละก็เดินขึ้นบันไดไปดอยสุเทพไม่เหนื่อยมาก

    อากาศเย็นกำลังดี

    ขึ้นไปบนดอยมองไม่เห็นป้ายว่าห้ามใส่รองเท้าขึ้น

    ละน้องที่เฝ้าประตูทางขึ้นน้องเขาก็ตะโกนบอก

    "พี่ห้ามใส่รองเท้าขึ้น"

    กูได้ยินน้องพูดละอายสัส

    กูก็เลยถอดละขึ้นไปดู

    ก็ตามที่เห็นกันบ่อยๆอะฮะ

    ภาพข้างบนดอยสุเทพ



    ก็เดินเล่นชิวดีแต่อากาศก็เริ่มร้อนหน่อยๆละ

    เดินเล่นเสร็จละก็แวะลงมานอกวัด

    มาเดินเล่นซื้อของฝาก

    ที่ดูมานะ ทุกครั้งที่เคยไปเชียงใหม่เลย

    ร้านขายของแม่งมีเยอะมากกกกกก

    ละก็ขายของซ้ำกันเยอะมากกกก

    ละถามว่า..

    ไปบ่นเขาว่าของซ้ำละซื้อไหม

    คำตองคือ

    ซื้อดิรอไร

    ได้กำไลข้อมือมาอันนึง120฿มั้ง

    สวยดีตอนอยู่เชียงใหม่

    พอมากรุงเทพ เพื่อนบอกมึงซื้อเชี้ยไรมาเนีย อะไหล่รถมอไซเหรอ

    กูแบบ

    สัส-.-

    เดินเล่นได้สักพัก

    พี่ๆที่มาด้วยกันก็โทรตามละไอ้เราก็ไปหา

    ตอนแรกพวกพี่เขาเหมือนจะลงจากดอยกันมั้งเพราะไม่รู้จะไปไหนต่อ

    ไอ้เราก็คิดว่าถ้าลง

    กูไม่ลงอะ ขอบาย555

    มาแค่นี้เองจะลงได้ไง

    แต่ก็คุยกันได้สรุปคือ

    ไปดอยปุยต่อ

    ก็ต้องเพิ่มค่ารถไปอีก

    แต่ก็โอเครทุกคนเพราะไหนๆก็มาละ

    ก็เลยได้นั้งรถขึ้นดอยไปอีกจนถึงดอยปุย

    ระหว่างทางสวยมากกก

    เหมือนในหนังเลย

    แต่ถนนขึ้นไปดอยปุยจะไม่เป็นลาดยางเหมือนดอยสุเทพสักเท่าไร

    แต่ก็ชอบ

    แบบนี้และดูธรรมชาติดี

    พอถึงดอยปุยมันก็เป็นเหมือนชุมชนและ

    มีของต่างๆนาๆขาย

    แยกย้ายกันเที่ยวเหมือนเดิม

    กูก็ไปเดินดูของชาวเขาไรพวกนี้ก็มีเสื้อผ้ากระเป๋าย่ามอะไรทำนองนี้

    ได้ย่ามชาวเขามาอันนึงโดนไป200฿

    ละเดินไปเร่ยๆมันจะมีทางไปสวนดอกไม้



    ค่าเข้าเท่าไรไม่รู้ลืม

    ไม่น่าเกิน50มั้ง

    สวนดอกไม้สวยดีแต่นี้ไม่ใช้สายอินกับดอกไม้

    ก็เลยไปนั้งในศาลาใกล้ๆน้ำตกนอนฟังเสียงนกคุยกันฟังเสียงสงบของธรรมชาติ ได้ยินเสียงลมเบาๆมีผีเสื้อบินไปมา

    โถ่...นึกว่านอนอยู่บนสวรรค์

    ฟินมากกกกกก

    พักชิวสักนิดแล้วก็เดินกลับ

    มันก็จะมีเกมส์ให้นักท่องเที่ยวเล่น

    เป็นเกมส์ยิงหน้าไม้

    20฿มั้ง

    เราก็จะเห็นเป็นลุงแก่ๆ

    ถือหน้าไม้เหมือน จอมยุทธ์จีนที่ผ่านสงครามมานาน ยืนทักทายเรา

    ละเป้าที่เราต้องยิงก็คือ

    ผลไม้ที่ดูแล้ว

    สภาพเหมือนลุงแกเลย555

    เป็นผลไม้เก่ามากๆๆโดนยิงไปกี่ดอกก็ไม่รู้

    ก่อนเล่นลุงแกก็สอนวิธียิงกูก็ยิงไปมั่วๆโดนมั้งไม่โดนมั้ง

    แต่ยิงโดนนึกว่าจะมีอะไรเป็นรางวัล

    "อ่าวไม่มีไรให้เป็นรางวัลหน่อยอ่อลุง"

    ไม่กล้าถามลุงกลัวลุงเอาหน้าไม้ยิงหน้า

    แล้วพวกพี่เขาก็โทรมาพอดี

    เราก็เดินเยอะมากบนดอยปุยเหมือนเดินขึ้นเขาลงเขา

    ละก็ขึ้นรถแดงกลับ

    คือทุกคนหลับอะ

    ขาขึ้นดอยนี้คุยกันชิบหายวายวอด

    แต่ตอนกลับนี้เงียบ

    หลับ...ไม่ไหวเหนื่อย

    เดินเยอะจริง

    ลงมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่

    ก็แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง

    กลุ่มพี่นุชก็แยกย้ายไปเที่ยวต่อ

    ส่วนอีกครอบครัวนึงก็คิดจะกลับ รฟ ต่อ


    กูก็เร่รอนไม่รู้จะไปไหนต่อ

    ตอนเช้าเชียงใหม่ก็หนาวดี

    แต่พอเที่ยงแล้วก็นรกเหมือนเดิม

    เลยเดินไปหาอะไรกินที่ อาเขต เป็นอู่รถ ไปนอนรอรถกลับบ้านที่อาเขตเหมือนคนจรจัดเลยไม่มีที่ไป

    จะไปก็ร้อน จะอยู่ก็ไม่รู้จะไปอยู่ไหน

    จบการเดินทางมาเชียงใหม่แบบงงๆ

    มาเช้าเย็นกลับ

    นั้งรถทัวร์กลับ

    รฟ นั้งกลับไม่ไหวอะลำบากเกิน

    อย่าไปวางแผนมากกับการเดอนทาง





    "ในการเดินทางที่ไม่มีแบบแผนมากบางทีมันก็อาจพาเราไปเจออะไรใหม่ๆที่ไม่คาดฝันว่าจะได้เจอก็ได้"














เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in