เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
WHEREitimtam
PARIS188 ปารีสในแบบที่เป็น
  • ปารีสสำหรับเรา เป็นเพียงเมืองหนึ่งที่ดูห่างไกล เราได้แต่รับรู้ภาพจำซ้ำๆที่ถูกถ่ายทอดซ้ำไปมา เมืองน้ำหอม/ของแบรนด์เนม/ความโรแมนติกที่เราไม่เข้าใจ นี่คือปารีสที่เรารู้จัก และเราเลือกที่จะรู้จักแค่นั้นแล้วปล่อยผ่านไปอย่างไม่ค่อยให้ความสนใจ

    จนมาวันนี้ ที่เรารู้สึกว่าปารีสน่ารักกว่าที่เคย เมื่อได้รู้จักเมืองปารีสให้ลึกมากขึ้นกว่าทุกที ไม่ใช่ปารีสที่ถูกฉาบให้เป็นในสิ่งที่ทุกคนฝัน แต่เป็นปารีสที่มีเรื่องราวและชีวิตของคนปารีสรวมอยู่ ผ่านภาพถ่ายที่ถูกบันทึกผ่านสายตาและอุปกรณ์ไล่ตั้งแต่มือถือไอโฟน,กล้องฟิล์มคอมแพค,กล้องฟิล์มRolleiflexตัวโปรดและกล้องคู่ใจของช่างภาพชาวไทยที่เราชื่นชอบมานานหลายปี- พี่แอ๊ด พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ กับนิทรรศการภาพถ่าย PARIS188 ที่จัดขึ้นชั้น36 โรงแรมPullman Bangkok Hotel G



    ท่ามกลางเสียงบรรเลงเพลงจากเครื่องดนตรีไทย หูพลันสดับรับฟังกับเสียงขิมหวานใส ที่ไม่ว่ายังไงก็ดูไม่ค่อยเข้ากับภาพขาวดำของบรรยากาศเมืองปารีสเท่าไหร่นัก แต่ความสงสัยในใจก็ถูกคลี่คลายทันทีท่ี่พลันเห็นบรรดาเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยืนต้อนรับแขกในงานที่บังเอิญจัดในชั้นเดียวกันอย่างพอดิบพอดี พี่แอ๊ดยืนรอเราในชุดดำ สะพายกระเป๋ากล้อง และมีไลก้ากล้องแบรนด์โปรดห้อยคออย่างที่เราเห็นประจำผ่านหน้าฟีดในเฟสบุ๊ค พาพวกเราชมงานภาพถ่าย88ภาพกับเรื่องราวในมหานครปารีส เบื้องหลังภาพถ่ายและเรื่องราวแต่ละเฟรม 

    หอไอเฟลสิ่งก่อสร้างที่ตั้งตระหง่านเป็นเอกลักษณ์ของปารีสไม่ใช่ทุกสิ่งอย่างที่สื่อถึงเสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ หากแต่ผู้คน,วิถีชีวิต,และบรรยากาศในเมืองต่างหากที่เป็นสิ่งที่สะท้อนความเป็นปารีสได้ดีที่สุด ปารีสที่ไม่เพอร์เฟค แต่กลับเป็นปารีสที่ทุกภาพอบอวนไปด้วยความรู้สึกและเรื่องราว ที่ทำให้ได้สัมผัสความโรแมนติกในแบบฉบับของเมืองแห่งนี้ในแบบที่ต่างไป 



    การจัดเรียงแต่ละเฟรมภาพ ต่อเติมเรื่องราวและสายสัมพันธ์บางๆของภาพที่ถ่ายคนละเวลาแต่กลับส่งเสริมเรื่องราวซึ่งกันและกัน เว้นช่องว่างให้เราได้ใช้จินตนาการในช่องว่างของความเชื่อมต่อระหว่างเฟรมเหล่านั้น ผนังเปล่าระยะห่างนิ้วกว่าระหว่างภาพสองภาพกลับกลายเป็นเรื่องราวมากมายที่ซ่อนอยู่ในแบบของแต่ละคน

    ชาวปารีสที่มักจะจับความรู้สึกเสี้ยววินาทีแห่งการถูกแคนดิดได้อย่างรวดเร็ว ไม่เคยที่จะปกปิดความรู้สึกที่แสดงออกมาผ่านสีหน้า สายตาที่จ้องขวับมายังกล้องพร้อมกับสีหน้าอยากจะด่าหรือหงุดหงิดกับการถูกถ่าย(หลายครั้งก็ด่าไปแล้วหลังโดนถ่าย) และในบางครั้งที่ความพยายามเบือนหน้าหนีกล้องไม่เป็นผล จากระยะห่างระหว่างรถไฟสองขบวนที่ทำได้แค่ผินหน้าอย่างเซ็งๆ ภาพเหล่านั้นสร้างเรื่องราวในแบบของมัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าเบื่อ รอยยิ้ม หรือน้ำตา วินาทีแห่งความรู้สึกกับบรรยากาศก้าวย่างของชีวิตประจำวัน การเดินทางด้วยเมโทร ร้านซักผ้า สวนสาธารณะ อธิบายความเป็นปารีสได้ดีที่สุดจากความเป็นชาวปารีสที่อยู่ในแต่ละภาพ

    แม้จะเป็นรูปไกลๆไม่เห็นหน้า แต่เราก็ยังเก็บความรู้สึกสื่อมันออกมาได้ไม่ต่างกัน ท่าทางและเงาเล็กๆที่เป็นส่วนประกอบในรูป ดึงเอาความมีชีวิตชีวามาใส่ในสถานที่ที่ไร้ผู้คน ทำให้ภาพสามารถสื่อสารโลดแล่นเป็นเรื่องราวของเมืองแห่งนี้ 


    I had once lived like a Parisian, 
    stood at the centre of a theatre named Paris.
     If you need inspirations, Paris is the place to go. 
    -À PARIS-


    การท่องเที่ยวในแบบพี่แอ๊ดคือการพักผ่อน ไม่จำเป็นต้องรีบเร่งเก็บที่เช็คอิน ฝืนตัวเองตื่นแต่เช้าเพื่ออัดโปรแกรมให้แน่นที่สุด แล้วตื่นเช้าเหมือนเดิมในวันต่อมาเพื่ออัดโปรแกรมให้ตัวรู้สึกว่าคุ้มเช่นเคย อย่างนั้นไม่ได้เรียกว่าพัก ใช้ชีวิตออนไลน์แค่ในที่พัก เตรียมข้อมูลให้พร้อม แล้วออกไปด้นสดต่อข้างนอก จำให้ได้อย่างเดียวคือทางกลับบ้าน นี่คือประสบการณ์ในปารีสจากข้อเท็จจริงที่ว่า'ค่าโรมมิ่งมันแพง!' แหล่งท่องเที่ยวบางทีก็อาจจะไม่ใช่ที่ๆใช่สำหรับเรา แต่มันจะมีที่หนึ่งที่เราไปแล้วอยากไปซ้ำ ไปย้ำแต่ความรู้สึกไม่เหมือนเดิมเหมือนได้อะไรใหม่ๆทุกครั้ง และสำหรับพี่แอ๊ดคือ มองมาก ที่มีหลายมุม ที่ได้พบเจอกับคนเดิมทุกวัน ข้อแนะนำในการท่องเที่ยวคือ จงไปตลาด ไปตลาดแล้วจะเข้าใจประเทศนั้นมากขึ้น ตลาดเป็นยังไง สะอาดมั้ย ชาวเมืองที่มาจับจ่ายใช้สอย การเดินตรอกซอกซอยเล็กๆก็เช่นกันที่จะทำให้เราได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ หลายภาพที่ได้ก็มาจากซอยที่นักท่องเที่ยวอาจไม่สนใจที่จะเยื้ยงกายไปเหล่านั้น

    จากการร่ำเรียนด้านสถาปัตย์ของพี่แอ๊ดก็ทำให้เราได้พบกับความงดงามของตึกรามบ้านช่องหรือผลงานการออกแบบที่มีชื่อเสียงผ่านมุมมองอันหลากหลายของตัวช่างภาพ ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายลวดลายที่ปรากฏในงาน ทำให้เราพบกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมในมุมที่เราไม่เคยได้มอง

    เด็กผู้หญิงในร้านขนมปัง ที่ถูกแอบมองจากช่องของชั้นวางขนมปัง กลิ่นและเสียงบรรยากาศของร้านขนมปังที่ถูกอัพไว้บนเว็บของร้าน วิธีกินแบบฝรั่งเศสที่ซื้อมาก็เอาแท่งขนมปังนั้นมาวางทิ้งไว้บนโต๊ะ จะกินก็ตัดเอา และความอร่อยของมันถูกเล่าผ่านจากปากพี่แอ๊ดเองและรอยยิ้มของเด็กทั้งสอง ประจวบเหมาะกับซุ้มน้ำดื่มที่ทางงานแต่งมาตั้งไว้ตรงหน้ารูปอย่างพอดิบพอดี เลยยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของน้ำส้มและขนมปังทวีความน่าอร่อยจากขนมปังสีขาวดำกับน้ำส้มสีสวยนอกภาพ

    แม้กระทั่งปัญหาเรื่องน้ำก็ถูกยกเอามากล่าวถึงในงานครั้งนี้ ภาพเซทสามรูปที่อยู่ติดริมหน้าต่างกว้างในองศาที่แสงแดดส่องสว่างอย่างเหมาะเจาะ ไม่ได้แค่แสดงความสวยงามในองค์ประกอบภาพ แต่ยังเล่าเรื่องราวของเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ว่าจะอยู่ไหนก็ได้รับผลกระทบ ภาพเครื่องซักผ้าที่ถูกแปะกระดาษเขียนหวัดด้วยภาษาฝรั่งเศสขออภัยกับเครื่องที่ใช้ไม่ได้ บอกเล่าความสำคัญของน้ำ เห็นมั้ย? ไม่ว่าจะมีเครื่องแต่ไม่มีน้ำก็ซักไม่ได้



    เดินมาสุดฝั่งอาคารจนถึงห้องน้ำ ได้ฟังความตั้งใจแรกที่จะจับรูปเทพีวีนัสมาวางแทนสัญลักษณ์ห้องน้ำหญิง แต่น่าเสียดายที่ไอเดียนี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้ ลึกเข้าไปตรงข้ามกับกระจกบานใหญ่ในห้องน้ำหญิงเฟรมภาพสำคัญปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด เสียงอธิบายจากหน้าห้องน้ำดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท ให้มองผ่านกระจก พี่แอ๊ดบอกเช่นนั้น เราหันหลังให้กับรูปและจ้องกระจกกว้างอย่างตั้งใจ แม้ว่าจะยังมีร่างโปร่งในชุดราตรีหรูยืนเช็คความเรียบร้อยของเครื่องสำอางค์บนใบหน้าก็ตาม ภาพคนมากมายที่ยืนเดินสวนกันขวักไขว่ในเมโทรถูกทำให้เข้มขึ้นเป็นเงาดำเหมือนเป็นภูเขา ไม่ก็คลื่นที่มีความสูงลดหลั่นกันไป บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้นวันเกิดที่ตรงพอดีกับวันที่ตกงานของผู้ถ่าย มันทำให้ฉันได้เข้าใจว่า รูปไม่ใช่เพียงบันทึกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแต่ยังเก็บเรื่องราวความรู้สึกของผู้ถ่ายในช่วงเวลานั้น
     
    'ศิลปะไม่มีเพศ' คือประโยคที่พี่แอ๊ดบอกกับเรา อธิบายเหตุผลของการจัดแสดงภาพในห้องน้ำทั้งสองฝั่งได้อย่างกระจ่างชัด ก่อนก้าวไปยังดินแดนเร้นลับอย่างห้องน้ำชาย เพื่อนที่มาด้วยกันพยายามแอบชะโงกดูให้มั่นใจว่าไม่มีคนหลงเหลืออยู่ "เข้ามาเลย ไม่มีคน" พี่แอ๊ดเดินนำเราเข้าไป เฟรมภาพสามใบจัดวางเหนือโถสุขภัณฑ์ในระดับสายตา นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ทอดเวลาในห้องน้ำชาย ตั้งใจมองภาพทั้งสาม หนึ่งในนั้นเป็นภาพกล้องตัวโปรดที่ถูกถ่ายเก็บไว้ด้วยมือถือ กล้องยี่ห้อRolleiflexที่ตัวพี่แอ๊ดเองก็ได้รับแรงบันดาลใจจากช่างภาพคนโปรดอย่างRobert Doisneau 


    ไล่เดินดูจนครบ เราได้รู้จักกับปารีสผ่าน88ภาพสวยในมุมขาวดำ ที่บางภาพแอบเสียดายที่มีขยะประปรายอยู่ในเฟรม แต่ถ้ามันเป๊ะไปก็ไม่ใช่ปารีส มันต้องสกปรกหน่อย เจ้าตัวกล่าวไว้เช่นนั้น



    ภาพที่สวยในมุมของพี่แอ๊ดก็คือภาพที่เราชอบ 



    ทฤษฎีหรืออุปกรณ์เป็นส่วนหนึ่งแต่ไม่ใช่ทั้งหมดของภาพถ่าย เราอย่าไปตีกรอบตัวเองด้วยอุปกรณ์ ในบางโอกาสกล้องมือถือเนี่ยแหละที่จะบันทึกความทรงจำช่วงนั้นได้เหมาะที่สุด ช่วงวินาทีแห่งความทรงจำไม่ใช่ว่าจะมีเวลาวัดแสงก่อนถ่ายได้ทันทุกครั้ง หากเลยจังหวะนั้นไปก็อาจไม่มีภาพนี้เกิดขึ้นมา บางทีเราต้องรอจังหวะนั้น และในบางคราจังหวะที่ดีๆก็มาในเวลาที่เราตั้งตัวแทบไม่ทัน 

    อย่ารีรอที่จะเก็บความทรงจำของเรา ที่เป็นเรา ด้วยภาพถ่าย ไม่ว่ากล้องจะเลนส์เทพหรือจะราคาถูกคุณภาพกลางๆ หยิบมันออกมาถ่าย ให้มันทำหน้าที่ของมัน เก็บความทรงจำด้วยภาพสวยในแบบของเรา
     



    ขอขอบคุณ 
    -พี่แอ๊ด-
    ช่างภาพและผู้มอบแรงบันดาลใจในการจับกล้อง :)

    ติดตามผลงานของพี่แอ๊ดได้ที่ 
    : Website - www.addcandid.com
    : IG - addcandid
    : FB - @addcandid
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in