เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[บอยอะตอม] Snook mekooperk_
shoot me
  • #หนอนชาเขียวเกี้ยวนางอาย #บัวลอยทับทิมกรอบ #โจรสลัดฟันเป็ดน้อย

    #snook_me


    ---------------------------------------------



    "และผู้ชนะในการแข่งขันรอบนี้ อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี"

    เสียงปรบมือดังก้องทั่วห้องจัดการแข่งขัน ชายเอเชียโค้งตัวขอบคุณแล้วเดินกลับเข้าห้องรับรองที่ตั้งอยู่บนชั้นลอย หน้าต่างกว้างทำให้มองเห็นผู้เข้าชมที่นั่งอยู่อย่างเห็นได้ชัด ถ้วยแชมป์สนุ๊กเกอร์เริ่มขยับใกล้เข้าความหวังของเขาเต็มที เหลืออีกเพียง 2 รอบเท่านั้น ซึ่งรอบต่อไปเป็นรอบชิงที่สาม

    อันดับสามกับคู่แข่งตลอดกาลของเขา

    อนุวัฒน์นั่งพักให้หายเหนื่อยพลางเปิดมือถือไปเรื่อยๆ ข้อความที่เขาส่งไปหาชนกันต์ไม่ปรากฏว่าอีกคนกดอ่านเลยแม้แต่น้อย  บอยถอนหายใจแล้วเอามือกุมขมับ เอาเข้าจริงเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าเขาชนะขึ้นมาจริงๆ ชนกันต์จะยอมคุยกับเขามั้ย แล้วถึงยอมคุยกับเขา ชนกันต์จะกลับมาไหมก็ไม่รู้

    ไม่รู้ ไม่แน่ใจอะไรสักอย่างเลย

    "ยินดีด้วยนะ" เสียงทุ้มดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัวของรณเดช อนุวัฒน์เงยหน้ามองก่อนจะพูดขอบคุณ
    "ขอบคุณครับ"
    "กลับมาแข่งคราวนี้ ฟอร์มดูตกลงไปเยอะเลยนะ" แหนมพูดตามตรง ซึ่งบอยก็ยอมรับความจริง เขาไม่ได้ซ้อมแต่ก็ยังโชคดีที่ตัวเองยังพอจำทริค จำวิธีที่เอาชนะได้อยู่

    แต่มันก็ต้องพยายามมากกว่าเดิมเท่านั้น

    "ยังไงก็ตาม รอบต่อไปผมไม่ออมมือให้นะ" รณเดชพูดติดตลกแล้วนั่งลงตรงข้ามกับอนุวัฒน์
    "พยายามไปเถอะครับ"
    "แน่นอนอยู่แล้วครับ5555 ถ้าผมชนะ ยอดขายบริษัทผมก็พุ่งขึ้นอีก ยังไงผมก็ต้องชนะให้ได้"
    "ได้ข่าวว่าคุณก็ขายดีอยู่แล้วนี่ จะพยายามหาเงินอีกให้เหนื่อยแรงทำไม"
    "ก็ผมกำลังจะแต่งสะใภ้เข้าบ้าน เงินมันก็ต้องใช้เยอะหน่อย" แหนมตอบตามความจริง
    "คุณดูมั่นใจในตัวนนท์ดีนะ ไม่เคยเห็นคุณยอมวิ่งตามหาใครแบบนี้เลยนี่"
    "แหงล่ะ ก็ผมรักเขาตั้งแต่แรกเห็น ผมเกือบเสียเขาไปครั้งนึงแล้วผมก็ได้เขากลับมา.." รณเดชพูดพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพของเด็กหนุ่มตัวสูงนั่งแถวหน้าสุดของห้องกำลังคุยกับเพื่อนธุรกิจของเขาอย่างมีมารยาทและถ่อมตัว รอยยิ้มที่ปรากฎบนใบหน้าแสดงถึงความดีใจและมีความสุขอย่างเห็นชัด หลังจากได้รับคำยินดีและการยอมรับจากคนรอบข้าง ทำเอาชายที่นั่งมองอยู่จากชั้นลอยเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว
    "ผมขอตัวดีกว่า ผมปล่อยนนท์เขานั่งอยู่คนเดียวนานแล้ว เจอกันรอบต่อไปนะ" รณเดชลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป อนุวัฒน์เห็นสายตาของรณเดชที่มองธนนท์เมื่อกี้ก็เข้าใจทุกอย่าง

    เข้าใจแล้วว่าทำไมชายที่เป็นลูกคุณหนูอย่างรณเดชที่มีเพียบพร้อมทุกสิ่งอย่าง หากคิดจะหาหญิงสาวหรือชายที่เพียบพร้อมสักคนคงไม่ใช่เรื่องยาก
    เข้าใจแล้วว่าทำไมรณเดชถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ธนนท์กลับมา แม้ว่ามันจะเสี่ยงต่อกฎหมายก็ตาม

    อนุวัฒน์ลุกขึ้นมองรณเดชที่เดินไปหานนท์ ผู้เข้าชมเริ่มทยอยออกจากห้องไปเรื่อยๆ หลังจากที่พิธีกรกล่าวปิดการแข่งขันในวันนี้ ทว่าท่ามกลางผู้คนที่เดินออก กลับมีชายคนหนึ่งนั่งอยู่กับที่แล้วมองธนนท์กับรณเดชอย่างเงียบๆ

    ช่างเป็นสายตาที่ไม่น่าไว้ใจเลยจริงๆ
    แต่เขาคงคิดมากเกินไปล่ะมั้ง

    ---------------------------------------------------

    "Alright guys, I think this is enough" (เอาล่ะทุกคน ผมคิดว่าแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว) ฝรั่งตาสีน้ำข้าวเดินมาตบบ่าชมช่างกล้องที่ตั้งใจกันทำงานจนเสร็จ โดยเฉพาะว่านที่ทำงานออกมาได้เป็นอย่างดี
    "You have a perfect photo shoot skill. Do you work for any company?" (คุณมีทักษะการถ่ายภาพที่ดีมาก คุณทำงานให้บริษัทไหนรึเปล่า?"
    "Thank you. Yes, but I'm a freelance as well." (ขอบคุณครับ ใช่ แต่ผมก็เป็นฟรีแลนซ์เหมือนกัน)
    "Great, many of my friends are interested in your works. I'll contact you later" (เยี่ยมเลย เพื่อนผมหลายคนสนใจในงานของคุณ เดี๋ยวผมทักคุณไปนะ) พูดจบชายคนนั้นก็จับมือกับว่านอย่างเป็นมิตรแล้วเดินจากไป ปราโมทย์เห็นดังนั้นจึงเดินเข้ามาถาม
    "เฮ้ยยย เขาคุยไรกับมึงวะ"
    "เขาบอกเขาชอบงานกูว่ะ แล้วเหมือนจะติดต่อมาด้วย" ธนกฤตตอบพร้อมกับยิ้มตาหยี
    "เห็นมั้ยกูบอกแล้ว ฝีมือมึงดีจะตาย ส่วนใหญ่นะลูกค้าฝรั่งที่มาถามแบบนี้ เขาจะชอบร่วมงานกับคนเดิมๆ กอบโกยได้อีกนานเลยมึง เผลอๆนะ มึงอาจจะได้บริษัทใหม่ ไม่ก็ตำแหน่งใหม่ หรือได้ทั้งสองอย่างเลยก็ได้" โอ๊ตตบบ่าอีกคนอย่างภูมิใจในตัวเพื่อน ส่วนว่านก็ได้แต่ยิ้มๆและภาวนาขอว่าให้มันเป็นแบบที่โอ๊ตพูด พลางกดมือถือเพื่อส่งข้อความหาภพธร เพื่อบอกข่าวที่น่ายินดี

    ใจจริงเขาอยากจะโทรบอกกับอีกคนด้วยตัวเองมากกว่า แต่เวลาตอนนี้ที่ประเทศไทยมันก็ดึกมากและอีกคนคงจะนอนไปแล้ว

    เลิกงานค่อยโทรละกัน

    พี่ตู่ ผมคิดถึงพี่นะ

    ----------------------------------------------------

    ตอนนี้เช้าในทุกๆวันของชนกันต์ไม่ค่อยสดใสแล้วเท่าไหร่นัก แต่ยังโชคดีที่เขายังมีภพธรคอยอยู่ข้างๆ อาการแพ้ท้องเริ่มส่งผลให้เขารู้สึกไม่ค่อยดีในทุกๆเช้า

    แหงล่ะ ใครจะไปรู้สึกดี เอาหน้าจ่อชักโครกทุกเช้า
    แต่จะทำไงได้ล่ะ

    "เอ้านี่น้ำ ค่อยๆดื่ม" ภพธรยื่นแก้วให้พลางพยุงน้องชายตัวเองไปที่เตียง ชนกันต์หอบหายใจด้วยความเหนื่อย เขาไม่คิดว่าการอุ้มท้องมันจะลำบากขนาดนี้
    "ขอบคุณฮะพี่"
    "นี่อยู่บ้านคนเดียวไหวใช่มั้ยเนี่ย"
    "ไหว ผมมีเอางานมาทำที่บ้านแล้วล่ะ สบายใจได้ พี่ไปทำงานเถอะ" อะตอมตอบ เขาอยู่บ้านไปก็ไม่ได้ทำอะไรอยู่แล้ว เอางานของบริษัทมาทำที่นี้น่าจะโอเคกว่า จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของภพธรก็ดังขึ้นปรากฎเป็นภาพของธนกฤต
    "นั่งอึ้งอะไรล่ะพี่ ไปรับสายสิ" อะตอมพูดเรียกสติ ในขณะที่ภพธรก็หัวเราะเบาๆอย่างลืมตัวเเล้วเดินไปรับโทรศัพท์ ระหว่างนั้นเด็กหนุ่มผิวขาวก็นั่งกดมือถือตัวเอง เขาไม่ได้ตอบไลน์ของบอยมานานเท่าไหร่แล้วนะ

    เราคงทำเกินไปจริงๆแหละมั้ง

    -----------------------------------------------------

    อนุวัฒน์ยืนสงบสติอารมณ์อยู่ในห้องพักนักแข่ง หัวใจของเขาเต้นแทบจะหลุดจากอก จริงๆเขาก็ตื่นเต้นในการแข่งขันทุกรอบ แต่รอบนี้มันไม่เหมือนกัน เขารู้ดีว่ารณเดชคงซักซ้อมมา แถมยังเคยแข่งกับเขามาตั้งหลายรอบ แน่นอนว่าแหนมต้องรู้วิธีการตอบโต้ในเกมเป็นอย่างดี

    "มึงต้องทำได้สิวะ" บอยพูดกับตัวเอง พยายามตั้งสติและลดความกังวลให้น้อยลง เพราะถ้ายิ่งกังวล ผลที่ได้มันมักจะจบไม่สวยเท่าไหร่นัก เขาหยิบมือถือในกระเป๋ากางเกงของตัวเองออกมาเพื่อจะนำมาเก็บไว้ในกระเป๋าเป้ ทว่าข้อความที่ปรากฎทำใจของเขาเต้นแรงมากกว่าเดิม หัวใจที่ห่อเหี่ยวถูกกระตุ้นฟื้นฟูให้กลับมาเต้นอย่างมีความหวังอีกครั้ง

    ' โชคดีนะครับ '

    รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นบนใบหน้าตี๋ของอนุวัฒน์ กำลังใจและพลังของเขาพร้อมเต็มทีแล้วสำหรับการชนะในศึกครั้งนี้ อนุวัฒน์เดินออกมาที่ลานการแข่งขัน เสียงปรบมือดังสนั่นแสดงถึงความชื่นชมและให้กำลังใจอย่างเต็มที่ พิธีกรเริ่มต้นเปิดงานและแนะนำชื่อของผู้เข้าแข่งขันตามลำดับ ชายในเสื้อเชิ้ตขาวมีเสื้อกั๊กสีดำทับเดินไปนั่งที่ตำแหน่งของตัวเอง ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขัน

    เสียงลูกบิลเลียดและเสียงประกาศดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมกับเสียงปรบมือและเสียงร้องชมของผู้เข้าชมการแข่งขัน คะแนนของเขาสองคนสูสีกันมากเสียจนทำให้ผู้ชมใจหายใจคว่ำ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครคาดการณ์ใดๆได้เลยว่าใครจะชนะหรือจะแพ้ ทันทีที่รณเดชทิ้งห่าง อนุวัฒน์ก็จะตามมาตีเสมอได้ พออนุวัฒน์ขึ้นนำ รณเดชก็จะตามมาทันอยู่ดี เหตุเพราะชายสองคนนี้เจอกันมาหลายต่อหลายครั้ง และเขาก็ต่างรู้เทคนิคของกันและกันจนทำให้รู้วิธีแก้เกมของฝั่งตรงข้าม ทว่าในรอบนี้คะแนนของอนุวัฒน์เริ่มทิ้งห่างรณเดชออกมาเรื่อยๆ

    กรรมการผายมือเป็นสัญญาณให้แหนมเดินออกมาเล่นเฟรมสุดท้ายซึ่งเป็นเฟรมตัดสินคะแนนทั้งหมด หากแหนมสามารถเก็บลูกสนุ๊กได้หมดโต๊ะ เขาจะเป็นผู้คว้าชัยชนะไปได้ทันที

    ให้ตายสิ เมื่อกี้ไม่น่าแทงพลาดเลย

    บอยนั่งมองแหนมแทงลูกสนุ๊กลงหลุมลูกแล้วลูกเล่าพลางทำใจไว้แล้วครึ่งหนึ่ง เขาคงแพ้แล้วแน่ๆ
    แล้วถ้าเขาแพ้ อะตอมก็ไม่ยอมคุยกับเขาน่ะสิ
    ทำยังไงดีวะ
    เขาควรทำยังไงดี!

    ในขณะที่รณเดชกำลังจะจัดการกับสองลูกสุดท้ายที่อยู่บนโต๊ะ เขายอมรับว่าเขาไม่ค่อยมั่นใจที่จะทำให้สองลูกนี้ลงหลุมได้มากเท่าไหร่นัก เพราะระเบิดที่อนุวัฒน์ทิ้งไว้ให้แก้ก็ยากที่จะกำจัด แหนมเดินไปเดินมารอบๆเพื่อหามุมที่จะจัดการ และแล้วเขาก็หยุดยืนตรงฝั่งที่บอยนั่งอยู่พอดี

    ใช่ มันเป็นมุมที่ถูกต้องและมีเปอร์เซนต์สูงมากที่แหนมจะสามารถชนะเกมนี้ได้

    ไม้สนุ๊กสีดำยาวถูกวางลงบนโตีะอย่างเบามือพร้อมกับฝ่ามือขาวที่จับเล็งให้มั่น หัวไหล่กว้างปรับองศาเพื่อให้สามารถแทงลูกสนุ๊กได้อย่างแม่นยำ แต่ก่อนที่รณเดชจะขยับข้อมือให้ปลายไม้สนุ๊กไปกระแทกกับลูกบิลเลียดสีน้ำเงินนั้น ร่างของเขาก็ถูกผลักจากทางด้านหลังจนล้มลง ไม้สนุ๊กสีดำเปลี่ยนทิศทางที่ถูกจัดไว้ในตอนแรกทันที และต้องวางเกมใหม่ทั้งหมด ทว่านั้นไม่ใช่สิ่งที่คนสนใจเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อคนที่ผลักเขาออกคือคนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้อย่างหวุดหวิด

    อนุวัฒน์ผลักรณเดชออก หลังจากที่เขาเห็นผู้ชมที่นั่งหลังสุดคนหนึ่งยืนขึ้นพร้อมกับจ่อปืนมาทางรณเดช เสียงเหนี่ยวไกดังลั่นห้องพร้อมๆกับเสียงกรี๊ดจากคนดูท่านอื่น ตามมาด้วยความโกลาหลในห้องแข่ง

    "บอย! บอย! ทำใจดีๆไว้ Aidez-moi! Appelez une ambulance, s'il vous plaît!! (ช่วยด้วย ช่วยเรียกรถพยาบาลที!!)" แหนมรีบลุกไปดูอนุวัฒน์ที่นอนอยู่ที่พื้นแล้วตะโกนขอความช่วยเหลือ เลือดข้นแดงซึมออกมาจนเสื้อเชิ้ตขาวเปลี่ยนสี บอยหน้าเบ้ด้วยความเจ็บแปล๊บที่เกิดบริเวณแขน ลูกกระสุนยิ่งเข้าที่หัวไหล่ขวาของเขาเต็มๆ หลังจากที่เขาวิ่งมาผลักแหนมออก เสียงโวยวายและภาพของคนที่เข้ามามุงดูเริ่มพร่าจางจากการที่เขาเสียเลือดมาก

    แล้วทุกอย่างก็มืดสนิท
    เหมือนทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    tbc
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in