เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Live alone with some books.iamny
Predator Cities Series : สมรภูมิล่าเมือง

  •            

              ถ้าพูดชื่อ Predator Cities Series อาจจะไม่ค่อยคุ้น แต่ถ้าบอกว่า Mortal Engines หลายคนอาจจะพอคุ้นหูขึ้นมาบ้าง เพราะเรื่องนี้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เข้าฉายแล้วด้วย (แต่เรายังไม่ได้ดูนะ) อันที่จริงไม่เคยอ่านนิยายแนวสตีมพังค์ผสมดิสโทเปียแบบนี้มาก่อน แต่เพราะถูกใจหน้าปกแบบใหม่มากๆ (ถึงขั้นไปฟอลไอจีนักวาด) ก็เลยลองซื้ออ่านดูเล่มนึงก่อน สุดท้ายก็ลากยาวมาจนจบ และในวันนี้จะมาเขียนถึงหนังสือทั้ง 4 เล่มในชุดนี้ทีเดียวเลย 

            เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคอนาคตที่ห่างไกลจากยุคปัจจุบันมาก ยุคที่อารยธรรมเก่าๆ หายไปแล้ว เมืองหลายเมืองเปลี่ยนไปเป็นเมืองเคลื่อนที่ (มีล้อหรือตีนตะขาบ) และใช้ชีวิตกันแบบเมืองใหญ่กินเมืองเล็ก 'ลอนดอน' ก็เป็นหนึ่งในเมืองเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นเมืองแรกที่ริเริ่มระบบนี้และมีขนาดใหญ่โตเลยทีเดียว ทั้งยังเป็นบ้านเกิดของตัวเอก โทมัส แนตส์เวิร์ธที เด็กฝึกหัดในสมาคมประวัติศาสตร์ผู้มีชีวิตเรียบง่ายธรรมดา และฝันถึงชีวิตการผจญภัยบนโลกภายนอก ในวันนั้นที่ลอนดอนสามารถล่าเมืองเล็กๆ ได้หนึ่งเมืองนั้น โทมัส (หรือทอม) ได้พบกับทัดเดอุส วาเลนไทน์ หัวหน้าสมาคมประวัติศาสตร์ที่เป็นเหมือนฮีโร่ในดวงใจของเขา ขณะที่ทุกคนกำลังดีอกดีใจกับการล่าเมือง เฮสเทอร์ ชอว์ ก็ใช้โอกาสนี้ขึ้นมายังลอนดอน เพื่อที่จะสังหารวาเลนไทน์ แต่ถูกทอมขัดขวางและไล่ตามจับ เธอจึงตัดสินใจกระโดดลงจากเมือง ส่วนทอมก็ถูกวาเลนไทน์ถีบตกลงมาจากเมืองโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ทั้งคู่กลับรอดตาย เฮสเทอร์ที่อยากจะสังหารวาเลนไทน์และทอมที่อยากกลับไปยังบ้านเกิด ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจไล่ตามลอนดอนที่กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเพื่อเป้าหมายอะไรบางอย่าง     

            นิยายชุดนี้จะแบ่งเป็น 2 ยุค คือ เล่ม 1-2 เป็นเรื่องราวในตอนที่ทอมกับเฮสเทอร์เป็นวัยรุ่น เล่ม 3-4 เป็นเรื่องราวตอนที่ทั้งคู่มีลูกสาวแล้ว และแม้ว่าจะมีตัวเอก แต่เนื้อเรื่องจริงๆ นั้นเล่าถึงความขัดแย้งของฝ่ายเมืองเคลื่อนที่กับฝ่ายต่อต้านเมืองเคลื่อนที่ซะมากกว่า ตัวเอกของเรื่องเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์เหล่านี้เท่านั้น (ประมาณว่าการมีอยู่ของตัวเอกไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงของเรื่องมากนัก) ใครที่อยากจะติดตามพัฒนาการของตัวเอก คงจะผิดหวังอยู่บ้าง เพราะอ่านจนจบก็ไม่ค่อยเห็นพัฒนาการของตัวเอกหรือตัวละครใดๆ เท่าไหร่ (ยกเว้นถ้าใครเบื่อแนวตัวเอกเท่านั้นที่จะช่วยเหลือโลกได้ อยากลองอ่านที่ตัวเอกเป็นประชาชนคนธรรมดาในเหตุการณ์นั้นบ้าง) สำหรับเราแล้ว รู้สึกว่าเนื้อเรื่องเริ่มสนุกขึ้นช่วงท้ายเล่ม 3 จนถึงเล่ม 4 เพราะสงครามระหว่างสองฝ่ายมีความเข้มข้นขึ้นมากกว่า 2 เล่มแรก จนรู้สึกว่าเล่ม 1 กับ 2 เป็นแค่การปูพื้นเพื่อนำเนื้อเรื่องไปสู่เล่มท้ายๆ เฉยๆ แม้ว่าแต่ละเล่มจะเหมือนกับจบในตอนก็ตาม ตอนที่อ่านเล่มแรกกับเล่มสองจบ รู้สึกว่าคนเขียนใช้ไอเดียเรื่องเมืองเคลื่อนที่ได้ไม่คุ้มเอาซะเลย แถมรำคาญตัวเอกมากๆ (แต่ก็ยังฝืนอ่านมาจนจบ) พอเข้าเล่ม 3 สิ่งที่คนเขียนได้พูดถึงในเล่มแรกๆ ช่วยเสริมให้เนื้อเรื่องสมบูรณ์และสนุกมากขึ้น  คิดว่าถ้าตัวละครหลักของเรื่องเป็นคนในฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีบทบาทในสงครามโดยตรง อาจจะน่าติดตามขึ้นมาบ้าง มีตัวละครหลายตัวที่เราอ่านแล้วอยากจะรู้ชีวิตความเป็นมาก่อนเข้าสู่สภาวะสงครามเต็มรูปแบบมากๆ อ่านมาจนจบแล้วไม่รู้จักตัวละครมากเท่าไหร่เลย เรียกได้ว่าเขียนภาคแยกไปอีกยังได้เลย  (แต่มีแค่แอนนา ฟางที่มีนิยายแยกออกมาแต่ยังไม่มีแปลไทย) 

            สรุปก็คือเรื่อง Predator Cities Series เป็นนิยายที่จะสนุกได้เมื่ออ่านครบทั้ง 4 เล่ม (ในความคิดเรานะ) และเนื้อเรื่องค่อนข้างดาร์กเลยทีเดียว ถ้าใครชอบอ่านแนวสงครามหรือแนวสตีมพังค์ก็ขอแนะนำให้ลองอ่านดู เพราะเนื้อเรื่องโดยรวมทั้งหมดถือว่าโอเคเลย ไอเดียเกี่ยวกับเมืองเคลื่อนที่ที่กินเมืองเล็กก็น่าสนใจมากๆ ส่วนด้านตัวละครนั้นยังไม่ถูกใจเท่าไหร่เลย (อยากให้มีเรื่องแยกของตัวละครอื่นๆ บ้างจัง)

    ป.ล.ถ้าให้เลือกข้าง เราขอเลือกฝ่ายต่อต้านเมืองเคลื่อนที่ดีกว่า
    เพราะชีวิตที่ต้องกลัวเมืองใหญ่มากินคงไม่น่าจะมีความสุขขนาดนั้น
    ถึงจะน่าตื่นเต้นก็เถอะ :o
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
e__t_a_i (@e__t_a_i)
ไอจีของคนวาดปกอะไรหรอครับ ขอบคุณครับ
iamny (@iamny)
@e__t_a_i เราไม่ได้เข้ามาดูเลย ขอโทษนะคะ ; ___ ; ยังตอบทันมั้ย
ig คนวาดปก >> ianmcque ค่า