เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
O Hai YoImyani
สองปีกับคุณคนที่สิบ
  • เคยได้ยินคำกล่าวว่า When you say you're falling in love, that's when you want to be loved. กันไหมคะ
    เมื่อเราชอบใครสักคน มักจะเกิดความรู้สึกอีกความรู้สึกหนึ่งขึ้นมา นั่นคืออยากให้คนคนนั้นชอบเรากลับ
    ถึงแม้ว่าในตอนแรกอาจจะแค่แอบปลื้ม รู้สึกดี แต่พอเวลาผ่านไป เราก็จะเริ่มอยากไปมีตัวตนอยู่ในโลกของคนคนนั้น
    นานวันเข้า ใจกล้าหน่อยก็เข้าไปจีบ
    แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่สมหวัง
    บางคนโชคดีก็ได้เป็นแฟนกัน บางคนต้องอกหักกลับมาเลียแผลใจ
    บางคนก็ครึ่งๆกลางๆ ดูคล้ายจะถึงฝันแต่ก็ไม่ถึงสักที
    บนโลกใบนี้มีแบบความสัมพันธ์มากมายที่เราไม่อาจนิยาม ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ ความรักก็มีรูปแบบมากมายเช่นเดียวกัน รักพ่อรักแม่ รักเพื่อน รักครู รักหมารักแมว รักผู้ชายที่เรียนห้อง 6/8 คนนั้น แอบชอบเพื่อนที่นั่งริมหน้าต่าง ปลื้มเดือนมหาลัยที่อยากจะเข้า รักในการอ่านหนังสือหรือดูหนังฟังเพลง ชอบที่จะทำขนม หลงเสน่ห์ไปกับการเดินทาง ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ 
    จะเห็นได้ว่าความรักมีรูปแบบมากมาย ไม่จำเป็นต้องเป็นคนกับคน
    แต่จริงๆแล้วความรักที่ดีคืออะไร?
    เราว่ามันขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนนิยามความรักของตัวเองว่ายังไง มันไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวหรอก 
    และเราก็เชื่อว่า สำหรับผู้อ่าน ก็มีความรักในอุดมคติของตัวเองเช่นเดียวกัน 
  • สำหรับเรา ถึงแม้อายุอาจจะยังน้อย(อีกสามเดือนครบ 18 ?) แฟนก็ยังไม่เคยมี(T^Tกระซิกๆ) แต่เราคิดว่าเรารู้จักความรักนะ
    ขอเกริ่นสักเล็กน้อยก่อนว่า ในชีวิตนี้เรารกหลุมรักคนมาแล้ว 10 คน
    เยอะไหมน่ะ เราว่าเยอะ 555
    ดูจะเป็นคนที่สามารถพบเจอความรักได้ตลอดเวลา
    แต่ในสิบคนนั้น มีเพียงแค่สามคนที่เรารักในตัวตนของเขาจริงๆ ไม่ใช่เพราะ First Impression ซึ่งแบบแรกจะมั่นคงยาวนานกว่า เพราะใช้เวลาในการทำความรู้จักและผูกพัน ถึงจะเกิดความรู้สึกที่แน่นแฟ้นขึ้นมาได้ และความรักในปัจจุบันของเราตอนนี้ ก็คือความรักของคนที่สิบ
    เป็นเพื่อนเก่าของเราเอง แบบว่าเคยเรียนห้องเดียวกัน

    จริงๆตอนแรกไม่เคยคิดจะชอบเลยด้วยซ้ำล่ะ แต่คุยไปคุยมาก็รู้สึกว่าเออ ทำไมมันเข้ากันได้ดีจังวะ รู้สึกดีอะ สบายใจ
    และเรารู้สึกได้ด้วยว่าไม่ใช่แค่เรา เขาเองก็เหมือนกัน ไม่งั้นบทสทนาก็คงไม่ไหลลื่น ต่างคนต่างถามตลอดเวลางี้ ใครบอกไม่อยากคุยก็บ้า เคยคุยกันนานสุดก็เกือบ 5 ชั่วโมง หนึ่งทุ่มยันเที่ยงคืน คุยอะไรกันเยอะแยะก็ไม่รู้

    เลยตั้งสถานะไว้ว่าเป็นเพื่อนสนิท
    เพื่อนสนิทที่คุยกันทุกวัน เช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ ไปโรงเรียนก็ยังหาจังหวะมาแชทกันได้ เรื่องเรื่อยเปื่อยสัปเพเหระเราคุยกันได้หมด นานวันเข้าก็ผูกพัน รู้ตัวอีกทีก็ขาดเขาไม่ได้แล้ว

    เวลาผ่านไปเกือบสี่เดือน เรารู้ตัวว่าเราชอบเขา เลยบอกความรู้สึกไป ซึ่งปรากฏว่ากินแห้ว เพราะเขาบอกว่ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว(อ่อแล้วที่ผ่านมาคือ?)

    ใช้เวลาดามใจตัวเองอยู่เจ็ดเดือนตลอดเวลาที่อยู่เมืองนอก(เพราะตอนนั้นไปแลกเปลี่ยน) 
    ไอ่เราก็คิดว่าเขาคงไปมีความสุขกับคนที่เขาชอบแล้ว คิดว่ากลับไปก็คงไม่มีอะไรกันอีก คงจะลืมกันไป

    แต่เรื่องกลับไม่เป็นแบบนั้น
  • วันแรกที่เรากลับไปเจอเขา เรารู้เลยว่าที่ผ่านมา เราไม่เคยเลิกรักเขาได้เลย ไม่ใช่ว่าตอนแรกลืมไปแล้ว พอเจอหน้ากันอีกก็กลับมาชอบอีก แต่ของเราคือมันอยู่ตรงนั้นมาตลอด แค่เราหลอกตัวเองว่าลืมเขาได้แล้วแค่นั้นเอง
    ซึ่งมันไม่ใช่แค่เราน่ะสิ แต่เขาเองก็กลับมาเหมือนกัน
    เรากล้าพูดเลยว่าเราอยู่ของเราเฉยๆ เขานั่นแหละที่เป็นคนเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างเอง
    ถึงปากจะไม่เคยบอก ไม่เคยพูด คอยหลีกเลี่ยง topic นี้อยู่เสมอ แต่เราเห็นชัดเจนว่าเขารู้สึกยังไง สิ่งที่เขาแสดงออก กิริยาวาจา สายตาที่มองเรา เพื่อนปกติแบบไหนเขามองกันหวานซึ้งขนาดนั้นวะ

    แต่ที่เราไม่พูด เพราะเราไม่อยากเสียเขาไปอีก ไม่อยากใฟ้เขาหายไปอีก ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ดีๆที่เพิ่งกลับมาสร้างขึ้นใหม่ได้ อีกส่วนหนึ่งเพราะไม่อยากให้ตัวเองต้องเจ็บปวดอีก สี่เดือนที่คุยกันดูเป็นเวลาสั้นๆ แต่ impact หลังจากนั้นมันทั้งสาหัสและยาวนาน จนถึงวันนี้ ยอมรับ ว่ายังไม่หาย
    เรากลายเป็นคนกลัวที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์กับคนอื่นไปแล้ว
  • หนึ่งปีผ่านไป ที่เขากลับมาหาเรา
    สองปีจากตอนนั้น ที่เริ่มคุยกัน สองปีแล้วที่เราวนเวียนอยู่กับหลายล้านอารมณ์ความรู้สึกที่ผ่านเข้ามา ทั้งดีและไม่ดี ทำให้เรายิ้ม หัวเราะ และบ่อยครั้งที่ร้องไห้
    แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณคนที่สิบเป็นคนที่เรารักมากที่สุด
    เพราะความรักที่เรามีให้เขา มันเกิดจากการที่เราได้คุยกัน ค่อยๆรู้จักตัวตนของกันและกัน ต่างคนต่างบ่มเพาะความรู้สึก มากขึ้นตามระยะเวลาที่ได้คุย ในช่วงแรกก็อาจจะ struggle หน่อย เพราะอยู่กันถึงคนละซีกโลก time zone ก็ห่างกันตั้ง 13 ชั่วโมง แต่ยังหาเวลามาคุยกันได้ทุกวัน ดูความพยายามนั้นสิ 5555

    พอกลับมาเจอกันอีก ได้เจอหน้า ได้ทำกิจกรรมอะไรร่วมกันมากมาย มันทำให้ความรู้สึกของเราสองคนแน่นแฟ้นขึ้น มีหลายครั้งที่เราคิดจะปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างไป เพราะเขาไม่เคยชัดเจนกับเราเลย
    แต่ถึงจะไม่ชัดเจน เขาก็ไม่เคยหายไป ยังคงวนเวียน แอบมอง ส่งสายตา อะไรแบบนี้อยู่ตลอด
    ซึ่งเราเองก็ไม่เคยเข้าใจเลย ว่าทำไมเขายังไม่ไปสักที ถ้าไม่ได้ปักใจรักจริงๆก็ไม่น่าจะอยู่นานขนาดยี้หรือเปล่านะ เพราะตัวเขาเองก็เป็นเด็กเรียนอยู่แล้ว เรื่องแบบนี้คงไม่คิดจะสนใจหรอก

    ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราก็เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แม้ว่าเธอไม่เคยเป็นอะไรกับฉันเลย ??  มีอะไรดีๆหาให้ ทำให้หมด ทำขนมไปฝาก ทำของขวัญวันเกิดให้ ไปเชียร์เขาแข่งกีฬา ซื้อน้ำซื้อผ้าเย็นซื้อบลาๆๆๆๆ
    ถามว่าเขาเคยทำอะไรให้บ้างไหม ก็ไม่
    แต่คนเราเวลารักใคร ความหน้าด้านมักจะชนะอยู่เสมอล่ะนะ
    ก็เป็นเราคนเดียวนั่นแหละ ที่เป็นคนแสดงออกอยู่ตลอด แค่เพราะเรายังรักเขาอยู่ ยังอยากให้มีกันและกันอยู่ในโลกของแต่ละคน

    แต่ตอนนี้เราเริ่มรู้สึกกับตัวเองว่าเออ มันเริ่มเหนื่อยแล้ว
    He doesn't even need me ด้วยซ้ำ
    เป็นเราเองที่ไปทำให้เขาทุกอย่าง โดยที่เขาไม่ได้ร้องขออะไรเลย แล้วก็เป็นเราที่เหนื่อยเอง
    ใช่ รักเอง เจ็บเอง ก็รับผิดชอบความรู้สึกตัวเอง โลกมันก็เป็นแบบนี้
    ก็คิดอยู่แหละว่าถ้าลองไม่มีเรา เขาก็คงไม่เป็นไร 
    จริงๆก็มีหลายครั้งที่รู้สึกเหนื่อย แต่ครั้งนี้มันดูมากกว่าครั้งอื่นๆ
    มันเป็นความเหนื่อยที่ทำให้เราอยากหายไปจริงๆ
    เพราะจะอยู่หรือจะไป ก็คงไม่มีผลกับชีวิตของเขาหรอก

    ถ้าวันหนึ่งเราหายไป โปรดรู้ไว้ว่ามันถึงที่สุดแล้วจริงๆ
    สองปีมันก็นานนะ คุณว่าไหมล่ะ :) 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in